เวียดนามก้าวไปอีกขั้น ผ่านกฎหมายให้ผู้ผ่าตัดแปลงเพศลงทะเบียนภายใต้เพศใหม่
เวียดนามเพิ่งผ่านกฎหมายอนุญาตให้ผู้ที่ผ่าตัดแปลงเพศแล้วไปลงทะเบียนภายใต้เพศใหม่ได้ โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 การเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาพิเศษสุดในชีวิตของใครหลายคน
เล แอง ฟอง เป็นหนึ่งในนั้น เธอเล่าให้นักข่าวบีบีซีฟังว่า ถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เมื่อรู้ว่ากฎหมายนี้ผ่านสภา และรีบโทรไปบอกแม่กับพี่สาว สุดท้ายต่างฝ่ายก็ต่างร้องไห้ด้วยความดีใจ
ฟอง อายุ 27 ปี เป็นหนึ่งในกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศกว่าร้อยคนที่ร่วมเดินขบวนในกรุงฮานอยเพื่อเฉลิมฉลองสิ่งที่รอคอยมานานปี
ฟอง อายุ 27 ปี เป็นหนึ่งในกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศกว่าร้อยคนที่ร่วมเดินขบวนในกรุงฮานอยเพื่อเฉลิมฉลองสิ่งที่รอคอยมานานปี
ตอนที่เกิดมา นักออกแบบโรงละคร มีชื่อว่า เล ก๊วก ฟอง แต่เธอเปลี่ยนชื่อกลางจาก ก๊วก เป็นแอง ซึ่งนอกจากจะมีความหมายว่ารังสีจากแสงอาทิตย์แล้ว มันยังทำให้ฟังดูมีความเป็นหญิงมากขึ้น เพราะเธอรู้อยู่ตลอดเวลาว่าตัวเธอเองคือผู้หญิง
“ฉันเคยอยากสวมเสื้อผ้าสวย ๆ และเคยชอบเด็กผู้ชายด้วยกัน ตอนเป็นนักเรียนฉันถูกเสียดสีล้อเลียนไม่หยุดหย่อน พ่อแม่เองก็ยอมรับไม่ได้อยู่นาน”
ฟองตัดสินใจยอมเจ็บตัวไปผ่าตัดแปลงเพศที่เมืองไทยเมื่อปี 2556 และกลับมาเวียดนามอีกครั้งในมาดสาวสวยอย่างที่ตัวเธอเองคาดหวัง แต่ทว่าในบัตรประชาชนเธอยังคงเป็นชายที่ชื่อ เล ก๊วก ฟอง เหมือนเดิม
กฎหมายใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้ในต้นปี 2560 นี้ ยังทำให้เกิดความหวังว่าโรงพยาบาลในเวียดนามจะได้รับอนุญาตให้ผ่าตัดแปลงเพศให้ใครก็ได้ จากปัจจุบันที่อนุญาตให้ทำได้เฉพาะกับผู้ที่เกิดมามีสองเพศเท่านั้น
เจิ่น ฮั๊ก ตุง ผู้อำนวยการ ICS Vietnam กลุ่มองค์กรที่สร้างความตระหนักเรื่องความหลากหลายทางเพศ ในกรุงฮานอยบอกว่านับเป็นก้าวย่างสำคัญ ในประเทศอย่างเวียดนามที่ปัจจุบันมีบุคคลข้ามเพศประมาณ 270,ooo คน
ผู้สื่อข่าวบีบีซีบอกว่า กว่าที่เวียดนามจะออกกฎหมายอนุญาตให้ผู้ที่ผ่าตัดแปลงเพศแล้วไปลงทะเบียนภายใต้เพศใหม่ ได้นั้น กลุ่มเคลื่อนไหวใช้เวลาต่อสู้เพื่อสิ่งนี้ยาวนานถึงสองปี และดูเหมือนเวียดนามจะก้าวหน้ากว่าไทยไปขั้นหนึ่ง ที่แม้จะเป็นประเทศที่มีการผ่าตัดแปลงเพศเกิดขึ้นจำนวนมาก แต่กฎหมายก็ยังไม่อนุญาตให้ผู้ที่แปลงเพศแล้วสามารถเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อใหม่ได้
อย่างไรก็ดี เจิ่น ฮั๊ก ตุง เตือนว่าสำหรับเวียดนามเองยังถึงว่าเป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น เพราะยังต้องดูว่าจะบังคับใช้กฎหมายนี้อย่างไรให้สอดคล้องกับทั้งหลักสากลและขนบธรรมเนียมของเวียดนามเอง ตุงบอกด้วยว่าหลังจากนี้ ICS จะต้องเรียนรู้จากผลงานความสำเร็จของนักเคลื่อนไหว เพื่อผลักดันให้การแต่งงานของคนเพศเดียวกันเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายตามมา #LGBT
(ภาพเล แอง ฟอง)
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น