0

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 24 ก.ค. นายสมเดช สิริสัจจัง อายุ 53 ปี อยู่หมู่ 1 ต.มหาโพธิ อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี เดินทางมาที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลพบุรี ตั้งอยู่ชั้นล่างศาลากลางจังหวัดลพบุรี พร้อมยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมเรื่องลูกชายถูกเจ้าหน้าที่ทหาร หน่วย ร. 31/2 ชุดของ ร.ท.บุบุญช่วย บุญธรรม หรือ หมวดต่ายกับพวกอีก 7-8 คน จับกุมตัวไปกักขังและลงมือทำร้าย จนได้รับบาดเจ็บแก่กายและจิตใจ อาการสาหัส โดยนายสมนึก เผ่าดูรี นักจัดการงานทั่วไปชำนาญการ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลพบุรี เป็นผู้รับเรื่องร้องเรียน

 นายสมเดช กล่าวว่า เวลาประมาณ 14.00 น. วันที่ 10 ก.ค. นายอรรถพล สิริสัจจัง อายุ 27 ปี ลูกชาย ขับรถยนต์กระบะออกจากบ้าน เพื่อนำเงินไปจ่ายใช้หนี้ให้กับ ธ.ก.ส. ที่ตนกู้เงินมา โดยขับรถออกจากบ้านมาได้ประมาณ 5 กม. ก็มีเจ้าหน้าที่ทหารขับรถมาขวางหน้า ลูกชายจึงจอดรถ และทหารเดินมาหาพร้อมกับบอกว่า ขอตรวจค้นหายาเสพติดหน่อย ซึ่งลูกชายก็ยอมให้ตรวจค้นแต่โดยดี และไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย แต่ทหารก็ยังไม่ยอมปล่อย โดยได้จับกุมตัวลูกชายไปที่แคมป์ ซึ่งตั้งอยู่ในวัดสระใหญ่ อ.สระโบสถ์ จากนั้นได้ทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด แต่ก็ไม่พบอีกเช่นกัน

นายสมเดช กล่าวต่อว่า เมื่อตรวจไม่พบสารเสพติดแทนที่ทหารกลุ่มนั้นจะปล่อยลูกชาย กลับกักขังต่อและบังคับให้ลูกชายไปล่อซื้อยาบ้า โดยให้เงินมา 400 บาท ซึ่งลูกชายก็ไปล่อซื้อยาบ้าให้ แต่ไม่มีใครขายให้ เพราะทราบว่าลูกชายไม่ได้เสพยาบ้า หลังล่อซื้อไม่ได้ ทำให้ทหารในชุดหมวดโกรธแค้นเป็นอย่างมาก และจับลูกชายไปกักขังต่อ ตอนเย็นทหารชุดดังกล่าวก็ดื่มสุรากัน และเมื่อถึงเวลาประมาณ 20.30 น.ได้เรียกลูกชายพร้อมคนที่ถูกจับกุมมาอีกรวม 8 คนไปหา

 จากนั้นลงมือทำร้ายร่างกายอย่างทารุณโหดร้าย ด้วยวิธีการต่างๆ ทั้งให้ถอดเสื้อกลิ้งกับบนพื้นที่เรียกว่า “เสือกปลาหมอ , ม้วนหน้าม้วนหลัง , กระโดดกบ” ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลกันทุกคน ใครทำไม่ไหวก็ถูกทำร้ายทุบตี เตะต่อย หรือไม่ก็ถูกใช้ไม้ไผ่ขนาด 2.5 ซม. ยาวประมาณ 1 เมตร ตีตามตัว แขนขาและตรงข้อขา จนเดินไม่ได้ สอบถามว่า ทำไมถึงทำกันขนาดนี้ ก็ได้รับคำตอบว่า “เป็นการรับน้องใหม่” หลังทหารชุดดังกล่าวทำกันจนหน่ำใจแล้ว ได้ไล่ทั้ง 8 คนไปนอนในลักษณะไม่ให้สวมเสื้อผ้า

 นายสมเดช กล่าวต่อว่า เมื่อถึงเวลาประมาณ 02.30 น. ทหารชุดดังกล่าวได้ปลุกทุกคนไปหา และลงมือทำทารุณต่อทั้งทำร้ายร่างกายด้วยการ “ตบบ้องหู ชกต่อยและใช้ไม้ไผ่ตีตามร่างกายและบังคับให้นอนใต้เมรุเผาศพ จากนั้นให้นอนคว่ำหน้าในสภาพเปลือยกายและใช้ไม้ไผ่ตีตามร่างกาย ทั้งแขน ขาและก้น จนเขียวช้ำไปหมด โดยลูกชายตนโดนกระทำรุนแรง จนแขนซ้ายกระดูกแตก (แพทย์ระบุ)

 นายสมเดช กล่าวต่อว่า ต่อมาวันที่ 13 ก.ค. เวลาประมาณ 17.00 น. ทหารชุดดังกล่าวจึงให้ตนไปรับลูกชายกลับบ้าน หลังเห็นสภาพของลูกชายแล้ว จึงสอบถามลูกชายว่า เกิดอะไรขึ้น ลูกชายจึงเล่าเรื่องราวให้ทราบ โดยลูกชายนอกจากมีบาดแผลตามร่างกายและรอยบอบช้ำเขียวทั้งตัวแล้ว ยังเกิดอาการอาเจียนเป็นไข้ ตนจึงพาลูกชายมาพบแพทย์ที่โรงพยาบาล และแพทย์บอกว่า อาการของลูกชายหนักมาก ไตได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงไม่ทำงาน ขณะนี้นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอานันทมหิดล โดยแพทย์ทำการฟอกไตให้

 “ผมเห็นว่า ทหารชุดดังกล่าวกระทำเกินกว่าเหตุ ทำเหมือนกับว่าลูกชายผมเป็นอาชญากรที่ทำเหตุร้ายรุนแรง ทั้งๆที่ในความเป็นจริง ลูกชายของผมไม่ได้ทำผิดอะไร “ไม่สูบบุหรี่ ไม่เสพยาบ้า ไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดทุกชนิด ดื่มเหล้าบ้างเป็นบางโอกาส ที่สำคัญลูกผมกำลังเรียนหนังสือในระดับปริญญาอยู่ด้วย เกี่ยวกับเรื่องลูกชายถูกทหารทำร้ายร่างกาย จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.สายัณ บุรมศรี ร้อยเวร สภ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี เอาไว้เป็นหลักฐานแล้วด้วย แต่เกรงว่าคดีจะไม่มีความคืบหน้า

 เพราะทราบข่าวว่า ทหารได้เปลี่ยนชุดที่รุมทำร้ายร่างกายลูกชายออกจากพื้นที่แล้ว และเปลี่ยนชุดใหม่เข้าไปอยู่แทนแล้ว จึงเดินทางมาร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลพบุรี อีกทางหนึ่ง เพื่อขอให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการกับทหารชุดที่ทำร้ายร่างกายลูกชายของผมอย่างทารุณโหดร้ายอีกทางหนึ่ง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในสังคมต่อไป อยากรู้เหมือนกันว่า ถ้าครอบครัวหรือลูกเต้าของหมวดต่ายถูกกระทำอย่างนี้บ้างจะรู้สึกอย่างไร”นายสมเดชกล่าว

source :- http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1437726286

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 
Top