นักวิจัยสันติภาพแนะนำวิธีแก้ปัญหาปืนเถื่อน ซึ่งกำลังถูกนำมาใช้ในการก่อการร้ายมากขึ้น
นิลส์ ดูเก้ (Nils Duquet) นักวิจัยแห่งสถาบันสันติภาพเฟลมมิช (Flemish Peace Institute) ที่ตั้งอยู่ที่กรุงบรัสเซลส์ในประเทศเบลเยี่ยม ตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์โจมตีหลายครั้งที่เพิ่งเกิดขึ้นในยุโรปรวมทั้งที่กรุงปารีสนั้น ผู้ก่อเหตุหันมาใช้อาวุธปืนมากขึ้น ซึ่งการใช้ปืนก่อเหตุโจมตีมีความเกี่ยวโยงกับเบลเยี่ยมที่เป็นตลาดมืดค้าปืนเถื่อนแห่งใหญ่
ดูเก้ระบุว่าอาวุธเถื่อนในตลาดมืดที่เบลเยี่ยมเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับอาชญากรรมร้ายแรง นอกจากนี้ยังมีตลาดมืดค้าอาวุธปืนอยู่ในเมืองหลัก ๆ ทั่วยุโรป แต่เบลเยี่ยมเป็นแหล่งสำคัญเพราะที่ตั้งทางภูมิศาสตร์และทางประวัติศาสตร์
เบลเยี่ยมเป็นแหล่งผลิตและส่งออกอาวุธปืนมานานหลายศตวรรษ และก่อนปี 2549 ยังมีกฎหมายค้าปืนได้อย่างเสรีภายในประเทศ ทำให้ประเทศกลายเป็นแหล่งค้าอาวุธที่เป็นที่นิยมในยุโรป รวมทั้งสำหรับพวกที่ประสงค์ร้ายด้วย
นิลส์ ดูเก้ บอกว่าไม่ใช่เรื่องประจวบเหมาะที่ผู้ก่อเหตุบางคนมีประวัติอาชญากร เพราะตลาดมืดค้าปืนนี้เชื่อมกับเครือข่ายอาชญากรรมร้ายแรง โดยการซื้อขายอาวุธที่ผ่านมาทำกันอย่างลับ ๆ และใช้ความเชื่อใจกัน
ปืนพกกลายเป็นที่นิยมในตลาดมืดค้าอาวุธเพราะซ่อนง่าย แต่ไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ตำรวจเบลเยี่ยมสังเกตพบว่าปืนแบบที่ทหารใช้กัน เช่น ปืนคาลาชนิคอฟนั้นเป็นที่นิยมของพวกอาชญากรมากขึ้น ราคาซื้อขายนั้นขึ้นอยู่กับว่าผู้ซื้อต้องการเร็วแค่ไหน ในตลาดมืดที่เบลเยี่ยมราคาซื้อขายอยู่ระหว่าง 1,000 - 2,000 ยูโร
ทั้งนี้ จำนวนอาวุธปืนในตลาดมืดที่เพิ่มขึ้นอย่างมากนั้นมาจากการลักลอบนำเข้าจากประเทศแถบคาบสมุทรบอลข่าน หลังสิ้นสุดสงครามในช่วงทศวรรษที่ 1990 โดยปืนนับแสนกระบอกที่ทหารใช้ในสงครามตกมาอยู่ในมือของประชาชนธรรมดา อาวุธเหล่านี้ถูกลักลอบนำเข้ามาในยุโรปตะวันตกทีละน้อย และถูกส่งผ่านไปในประเทศในยุโรปโดยง่ายดาย
นักวิจัยแห่งสถาบันสันติภาพเฟลมมิชเสนอวิธีแก้ปัญหาตลาดมืดค้าปืนว่าจำเป็นต้องใช้แนวทางผสมผสาน ไม่เฉพาะแต่ในเบลเยี่ยม แต่ในระดับภูมิภาค แนวทางนี้ประกอบด้วย 3 ส่วนสำคัญ ข้อแรกคือเรื่องการแก้ไขกฎหมายครอบครองอาวุธปืนของประเทศในยุโรป ส่วนที่สอง คือต้องมีความรู้ให้มากขึ้นต่อปัญหานี้ ซึ่งหมายถึงการจัดการข้อมูลที่ดีขึ้นในระดับประเทศและความพยายามที่มากกว่านี้ในการแลกเปลี่ยนและวิเคราะห์ข้อมูลในระดับภูมิภาค และข้อสามคือปฏิบัติการที่เข้มแข็งในการร่วมมือของหน่วยงานต่าง ๆ ในประเทศ เช่น จัดทีมสอบสวนร่วม
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น