0


แพทย์เจาะเยื่อกั้นเลือด-สมองให้ยารักษาคนไข้เป็นครั้งแรก

คณะแพทย์ในแคนาดาใช้วิธีเจาะเยื่อกั้นเลือด-สมอง (blood-brain barrier) เพื่อให้ยารักษาโรคมะเร็งแก่คนไข้เป็นครั้งแรก ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าเป็นความก้าวหน้าที่น่าตื่นเต้นเพราะเป็นเทคนิคให้ยาโดยตรงและคนไข้ไม่ต้องเจ็บตัวมาก แต่ขณะเดียวกันเตือนว่าไม่ควรตั้งความหวังมากเกินไปเพราะการเปิดเยื่อกั้นเลือด-สมองเป็นการรักษาที่มีความเสี่ยง

โดยปกติเยื่อกั้นเลือด-สมอง มีหน้าที่ป้องกันระบบประสาทส่วนกลางจากเชื้อโรคและสารพิษในกระแสเลือด

ทีมแพทย์จาก Sunnybrook Health Sciences Centre ทำการรักษาคนไข้มะเร็งสมองด้วยการฉีดฟองก๊าซขนาดเล็กเข้าไปในกระแสเลือดของคนไข้ แล้วใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ทำให้ฟองก๊าซดังกล่าวสั่นแล้วทะลุทะลวงผ่านเยื่อกั้นเลือด-สมองจนเกิดเป็นรูชั่วคราวสำหรับให้ยาเคมีบำบัดผ่านเข้าไปได้ โดยแพทย์จะทำการทดลองวิธีนี้กับคนไข้ 6-10 ราย

สำหรับคนไข้รายแรกเป็นหญิงวัย 56 ปี ซึ่งการสแกนสมองพบว่าการรักษาเป็นไปตามแผน จากนั้นแพทย์จะตรวจตัวอย่างเนื้องอกของคนไข้ซึ่งถูกผ่าตัดออกมา 1 วันหลังเข้ารับการรักษาด้วยเทคนิคใหม่นี้ เพื่อดูว่ายาเคมีบำบัดเข้าถึงเนื้องอกมากน้อยเพียงใด ซึ่งแพทย์จะทำการตรวจสอบเช่นนี้กับคนไข้รายอื่น ๆ ด้วย

ดร.ท็อด เมนไพรซ์ ศัลยแพทย์ทางประสาทผู้นำทีมวิจัยครั้งนี้บอกว่า ผลการศึกษาที่ได้ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น แม้จะยังไม่ทราบว่าเทคนิคนี้ทำให้ยาเคมีบำบัดเข้าถึงเนื้องอกมากน้อยเพียงใด แต่ก็เป็นเทคนิคที่ค่อนข้างปลอดภัย

ดร. เกล เทียร์ ฮาร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอัลตร้าซาวด์จากสถาบันวิจัยโรคมะเร็ง ในกรุงลอนดอน บอกว่านี่เป็นเทคนิคที่น่าตื่นเต้นเพราะจะช่วยให้แพทย์ให้ยารักษาโรคมะเร็งที่ออกฤทธิ์แรงแก่คนไข้ได้ ซึ่งปกติมักใช้ไม่ได้ผล อีกทั้งยังอาจนำไปสู่การรักษาโรคสมองเสื่อม และโรคพาร์คินสันได้ด้วย
แต่ อีเกิล โซลิโต จากคณะแพทยศาสตร์และทันตแพทยศาสตร์ ของสถาบันควีนแมรี่ มหาวิทยาลัยลอนดอน ชี้ว่าจะต้องมีการศึกษาให้ลึกซึ้งต่อไปเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นวิธีการที่ปลอดภัย ซึ่งแม้ผลการทดลองในสัตว์จะได้ผลบางส่วนแต่ยังไม่ชัดเจนว่าการรักษาในมนุษย์จะได้ผลและส่งผลข้างเคียงหรือไม่ เพราะการเปิดเยื่อกั้นเลือด-สมองเป็นการรักษาที่มีความเสี่ยง

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 
Top