ชื่อนั้นสำคัญไฉน: ไมไรลี หรือหมี่เออร์อ้ายลี่
ไมไรลี ยูซุฟู ผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนในการวางระเบิดราชประสงค์ดูจะเป็นบุคคลที่หาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเขาได้ค่อนข้างยาก
หลังจากที่รายงานกันได้พักใหญ่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็บอกว่า เขาเป็นชาวจีน ถือสัญชาติจีน ตามหนังสือเดินทางที่ยึดได้ แต่หลังสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจเองแสดงความไม่มั่นใจในเรื่องนี้ และเช้าวันนี้ 10 ก.ย.เจ้าหน้าที่สถานทูตจีนในกรุงเทพฯยืนยันกับบีบีซีไทยว่า ยังไม่ทราบสัญชาติของเขาว่าตกลงเป็นชาวจีนจริงหรือไม่ รวมทั้งไม่ยืนยันเรื่องที่มีการรายงานกันในสื่อด้วยว่า เขาอาจเป็นสมาชิกของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลจีนที่อยู่ในซินเจียง ข้อมูลนี้ส่งผลให้ผู้ใช้โซเชียลมีเดียกะเก็งกันมากว่าระเบิดหนนี้เป็นผลของความพยายามล้างแค้นการที่ไทยส่งตัวอุยกูร์ 109 คนให้จีนก่อนหน้านี้
ทางด้านหัวหน้าตำรวจสากลของไทย พล.ต.ท. อภิชาติ สุริบุญญาบอกว่า ตำรวจสากลไทยได้ส่งข้อมูลต่างๆที่มีอยู่ไปให้กับตำรวจสากลเพื่อให้เผยแพร่ไปยังสมาชิก 190 ประเทศแล้ว และที่ย้ำเป็นพิเศษคือบังกลาเทศซึ่งทางการไทยสงสัยว่าเป็นที่ที่บุคคลต้องสงสัยในนามอิซานหลบหนีไป
“จนถึงขณะนี้เรายังไม่ได้รับข้อมูลอะไรที่ชัดเจนมากนักจากสมาชิกอินเตอร์โพล นอกเสียจากว่า หลายประเทศแสดงความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการรับมือกับกรณีแบบนี้จากไทย เนื่องจากว่ามันเป็นครั้งแรกของไทยและเป็นคดีที่น่าสนใจในสายตาของพวกเขา บ้างก็ถามมาว่าจะมีการจัดประชุมหรือจัดสัมมนาเกี่ยวกับคดีนี้บ้างหรือไม่”
นอกจากข้อมูลที่ยังต้องการเพิ่มเติมอีกมาก สิ่งที่สังคมไทยรับรู้เรื่อง “ไมไรลี ยูซุฟู” อาจจะคลาดเคลื่อนได้ด้วย สงวน คุ้มรุ่งโรจน์ อดีตผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ภาษาจีนในประเทศไทยโพสต์ในเฟสบุกส่วนตัวระบุว่า แม้แต่ชื่อของเขาสื่อยังเรียกผิดพลาด เพราะหากเขามีสัญชาติจีนจริง ชื่อนี้จะต้องออกเสียงว่า หมี่เอ่อร์อ้ายลี่ ยวี่ซูฝู่ ตามที่ชาวจีนเรียกหากันในโซเชียลมีเดียเวยโป๋ของจีน และที่สำคัญตามธรรมเนียมต้องเรียกชื่อต้น ไม่เรียกชื่อท้ายเนื่องจากนั่นคือชื่อบิดาของเขา