นำอาหารต้านมะเร็งมาฝากคร้าาาบบบบบ...........
#กระเทียมงอก 5วัน สุดยอดอาหารต้านมะเร็ง
คือ สมุนไพรไทยและเครื่องเทศที่ได้ชื่อว่าเป็น "สุดยอดแห่งอาหารเพื่อสุขภาพ" และ "อาหารป้องกันมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง" ซึ่งรับรองโดย สถาบันโรคมะเร็งของสหรัฐอเมริกา (NCL)
จากการวิจัยอ้างอิง หน่วยบริการฐานข้อมูลสมุนไพร สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า กระเทียมงอก หรือ ต้นอ่อนกระเทียม มี สารต้านอนุมูลอิสระมากกว่ากระเทียมหัวปกติหลายเท่าตัว
การศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของต้นอ่อนกระเทียม (Allium sativum ) หลังจากงอกในระยะต่างๆ เพื่อประเมินว่าระยะต้นอ่อนของกระเทียมที่แตกต่างกันนั้นส่งผลใน การต้านอนุมูลอิสระเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
โดยทดสอบสารสกัดเอทานอลของกระเทียมดิบและต้นอ่อนกระเทียมที่เจริญในระยะต่างๆ ด้วยเทคนิค DPPH และ ORAC พบว่า ต้นอ่อนกระเทียมที่มีอายุ 5 วัน มี ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงสุด
ในขณะที่สารสกัดเอทานอลของกระเทียมดิบมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่ต่ำกว่า และยังพบว่าการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีภายในต้นอ่อนที่มีอายุ 5 – 6 วัน มีความแตก ต่างกับต้นอ่อนที่มีอายุ 0 – 4 วัน อย่างชัดเจน
ซึ่งเป็นการยืนยันว่าต้นอ่อนกระเทียมที่มีอายุ 5 วัน มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระมากที่สุด ต้นอ่อนกระเทียมจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับใช้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
ผลจากการทดลองโดยใช้สัตว์ทดลองพบว่า กระเทียม สามารถต้านการเกิดเนื้องอก (tumorformation) และการค้นพบที่สำคัญยิ่งคือ กระเทียม ทำให้เซลล์เม็ดเลือด ขาวชนิดเอ็นเค (Natural killer , NK) ทำหน้าที่ได้ดีมากขึ้นอีกด้วย
ข้อพึงระวังในการรับประทานกระเทียม คือ ไม่ควรรับประทานในขณะที่ท้องว่าง เพราะกระเทียมมีฤทธิ์ร้อน จะทำให้ปวดท้องได้ ดังนั้น จึงควรรับประทานกระเทียมหลังอาหารทันที และหากเป็นไข้ ร้อนใน ควรงดกระเทียม เพราะจะทำให้ธาตุไฟกำเริบ
นอกจากนี้แล้วในในเพศหญิงถ้ารับประทานในปริมาณที่มากจนเกินไป ร่างกายจะร้อน ซูบผอม จะแสดงอาการวิตก หงุดหงิด จากการเสียเหงื่ออย่างรุนแรง ส่งผมเสีย ต่อม้าม,ตับอ่อน,ไต และ Sex
ขอบคุณที่มา เบ็ดเตล็ดไอเดีย
คือ สมุนไพรไทยและเครื่องเทศที่ได้ชื่อว่าเป็น "สุดยอดแห่งอาหารเพื่อสุขภาพ" และ "อาหารป้องกันมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง" ซึ่งรับรองโดย สถาบันโรคมะเร็งของสหรัฐอเมริกา (NCL)
จากการวิจัยอ้างอิง หน่วยบริการฐานข้อมูลสมุนไพร สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า กระเทียมงอก หรือ ต้นอ่อนกระเทียม มี สารต้านอนุมูลอิสระมากกว่ากระเทียมหัวปกติหลายเท่าตัว
การศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของต้นอ่อนกระเทียม (Allium sativum ) หลังจากงอกในระยะต่างๆ เพื่อประเมินว่าระยะต้นอ่อนของกระเทียมที่แตกต่างกันนั้นส่งผลใน การต้านอนุมูลอิสระเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
โดยทดสอบสารสกัดเอทานอลของกระเทียมดิบและต้นอ่อนกระเทียมที่เจริญในระยะต่างๆ ด้วยเทคนิค DPPH และ ORAC พบว่า ต้นอ่อนกระเทียมที่มีอายุ 5 วัน มี ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงสุด
ในขณะที่สารสกัดเอทานอลของกระเทียมดิบมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่ต่ำกว่า และยังพบว่าการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีภายในต้นอ่อนที่มีอายุ 5 – 6 วัน มีความแตก ต่างกับต้นอ่อนที่มีอายุ 0 – 4 วัน อย่างชัดเจน
ซึ่งเป็นการยืนยันว่าต้นอ่อนกระเทียมที่มีอายุ 5 วัน มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระมากที่สุด ต้นอ่อนกระเทียมจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับใช้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
ผลจากการทดลองโดยใช้สัตว์ทดลองพบว่า กระเทียม สามารถต้านการเกิดเนื้องอก (tumorformation) และการค้นพบที่สำคัญยิ่งคือ กระเทียม ทำให้เซลล์เม็ดเลือด ขาวชนิดเอ็นเค (Natural killer , NK) ทำหน้าที่ได้ดีมากขึ้นอีกด้วย
ข้อพึงระวังในการรับประทานกระเทียม คือ ไม่ควรรับประทานในขณะที่ท้องว่าง เพราะกระเทียมมีฤทธิ์ร้อน จะทำให้ปวดท้องได้ ดังนั้น จึงควรรับประทานกระเทียมหลังอาหารทันที และหากเป็นไข้ ร้อนใน ควรงดกระเทียม เพราะจะทำให้ธาตุไฟกำเริบ
นอกจากนี้แล้วในในเพศหญิงถ้ารับประทานในปริมาณที่มากจนเกินไป ร่างกายจะร้อน ซูบผอม จะแสดงอาการวิตก หงุดหงิด จากการเสียเหงื่ออย่างรุนแรง ส่งผมเสีย ต่อม้าม,ตับอ่อน,ไต และ Sex
ขอบคุณที่มา เบ็ดเตล็ดไอเดีย
