เมื่อวันสองวันที่แล้ว เพิ่งเห็นข่าวว่า ฯพณฯท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันโอชา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการส่งเสริมการลงทุน แล้วบ่นว่า เราช่วยเหลือให้สิทธิประโยชน์แก่นักลงทุนตั้งเยอะ ช่วยทุกอย่าง แต่เอกชนก็ยังไม่ยอมลงทุนอีก ก็ควรช่วยกันเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
ผมอ่านข่าวแล้วนึกขึ้นมาในใจว่า ฯพณฯท่านนายกฯ อาจมองปัญหาผิดไป มองปัญหาไม่ตรงกับสภาพของปัญหาที่แท้จริง ทำให้การแก้ปัญหานั้นไม่ว่าจะแก้ไขอย่างไรก็ไม่เกิดมรรคเกิดผลอยู่ดี เศรษฐกิจไทยก็ยังตกต่ำ และองค์กรระหว่างประเทศทั้งหลายก็ยังทำนายกันต่อไปว่าปีหน้าเศรษฐกิจประเทศไทยจะยังไม่ฟื้น แม้ว่าประเทศอื่นๆ ในอาเซียนมีทีท่าว่าเศรษฐกิจกำลังจะฟื้นตัว แต่เศรษฐกิจไทยกลับตกต่ำลงไปอีก ยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัว
ผมอยากให้มองปัญหาอย่างรอบด้านครับ
ปัญหาประเทศไทยเกิดจากความ "ไม่เชื่อมั่น" ทางการเมือง จากการไม่มีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง และรัฐบาลปัจจุบันทำให้ปัญหาขยายตัวออกไปโดยบอกว่าจะมีการเลือกตั้งในปี 2560 เลื่อนมาจากที่เคยสัญญาไว้ว่าจะมีในปี 2559 ซึ่งเมื่อผิดคำพูดบ่อยๆ ต่างชาติใดๆ ก็เลยไม่เชื่อถือ รอดูผลการปฎิบัติมากกว่าจะฟังสิ่งที่พูด เขาก็เลยยังตัดสินใจไม่ลงทุน
อีกอย่าง ประเทศใกล้เคียงไทยคือ พม่า ก็เพิ่งเสร็จสิ้นการเลือกตั้งและพรรคของนางอองซาน ซูจีชนะเลือกตั้งอย่างสวยงาม ไม่มีเหตุรุนแรง ต่างชาติประทับใจมาก เพราะบีบให้พม่าเป็นประชาธิปไตยมาแล้วไม่ต่ำกว่า 20-30 ปี เมื่อพม่ามีเลือกตั้งอย่างสวยงามและเรียบร้อย ทุกประเทศต่างก็ต้องพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง นักลงทุนต่างๆ จากประเทศตะวันตก ก็ต้องตัดสินใจไปลงทุนที่พม่า เพราะอนาคตสดใสกว่าไทยมาก
อีกอย่างในปี 2559 กลุ่ม AEC จะเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ ทำให้การค้า การลงทุน สินค้า และแรงงานมีฝีมือ สามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างเสรีใน AEC นักลงทุนก็ต้องคิดว่า ไปลงทุน เวียดนาม พม่า หรืออินโดนีเซียดีกว่า ที่จะมาเสี่ยงกับความไม่แน่นอนในไทย เพราะเขาต้องตัดสินใจกันยาว ตัดสินใจแล้วยากจะกลับตัวได้ เมื่อไทยยังไม่มีสัญญาณที่ดีในด้านประชาธิปไตย เขาก็ไปประเทศอาเซียนอื่นๆ ดีกว่า เพราะสามารถส่งสินค้ามาขายในไทยได้
อีกอย่างไทยไม่ได้ลงนามเป็นสมาชิก TPP เขตการค้าและการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกตอนนี้ด้วย ทำให้ โอกาสที่จะใช้ไทยเป็นฐานการผลิตแล้วส่งไปอเมริกา หรืออียูนั้นลดลง เขาจึงชะลอการลงทุนในประเทศไทย
เมื่อท่านนายกฯ ไม่ยอมแก้ปัญหาในภาพรวม แต่ไปหมกมุ่นแต่เรื่องรายละเอียด เช่น การให้สิทธิประโยชน์ ซึ่งที่อื่นๆ ในอาเซียนเขาก็ให้ไม่ต่างกันหรืออาจมากกว่าด้วยซ้ำ ก็เลยไม่มีนักลงทุนที่ไหนมาลงทุนในไทย
เศรษฐกิจไทยก็จะแย่ลงไปอีก และส่งผลกระทบถึงความมั่นคง และเสถียรภาพทางการเมืองอย่างแน่นอน
เห็นไหมละครับว่า "การขึ้นหลังเสือนั้น ลงไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด" หรอก ไม่อย่างนั้นมันจะกลายเป็นสุภาษิตสอนใจคนทั่วโลกมายาวนานหรือ
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น