ภาพประกอบ - ผู้อพยพกับตำรวจในสโลวีเนีย
ผู้อพยพหาเส้นทางใหม่เข้ายุโรป หลังพรมแดนบนคาบสมุทรบอลข่านถูกปิดลง
กลุ่มผู้อพยพที่ติดอยู่ในโครเอเชียพยายามหาเส้นทางใหม่เพื่อเดินทางขึ้นเหนือไปยังประเทศจุดหมายปลายทางอื่นในยุโรป แม้ว่าสโลวีเนียและฮังการีจะพยายามสกัดไม่ให้เดินทางต่อไปก็ตาม
เมื่อคืนนี้ (18 ก.ย.) ตำรวจสโลวีเนียได้ใช้แก๊สน้ำตาสลายกลุ่มผู้อพยพที่พยายามข้ามพรมแดนมาจากฝั่งโครเอเชีย ซึ่งทั้งสโลวีเนียและฮังการี ต่างกล่าวหาโครเอเชียว่าละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ หลังจากพากลุ่มผู้ยื่นขอลี้ภัยไปส่งยังพรมแดนฮังการีโดยไม่มีการลงทะเบียนเสียก่อน
ทั้ง 3 ประเทศล้วนเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) แต่ผู้อพยพต้องการเดินทางไปฮังการีและสโลวีเนีย ซึ่งอยู่ในกลุ่มเชงเกนอันจะช่วยให้เดินทางต่อไปยังประเทศในยุโรปตอนเหนือ เช่น เยอรมนี ได้ง่ายขึ้น ด้านนายกรัฐมนตรีไมโร ซีราร์ ของสโลวีเนีย บอกว่าหากมีคลื่นผู้อพยพไหลทะลักเข้ามามากเกินกว่าจะรับได้ ก็อาจจัดทำเส้นทางเพื่อให้ผู้อพยพเดินทางต่อไปยังประเทศอื่นอย่างปลอดภัย
มาตรการควบคุมจุดผ่านแดนที่เข้มงวดในประเทศแถบคาบสมุทรบอลข่าน ส่งผลให้ผู้อพยพจำนวนมากหลีกเลี่ยงใช้เส้นทางคมนาคมหลัก แล้วเดินเท้าลัดเลาะไปตามไร่ข้าวโพดเพื่อข้ามพรมแดนแทน
วิกฤติการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ถึงความไม่มีเอกภาพในการประสานงานแก้ปัญหาของรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ในกลุ่มอียู โดยกลุ่มรัฐมนตรีมหาดไทยอียูจะร่วมประชุมฉุกเฉินเพื่อหาข้อตกลงเรื่องการแบ่งโควตาผู้อพยพให้ชาติภาคีช่วยกันรับเข้าประเทศในวันอังคารหน้า (22 ก.ย.) ก่อนจะมีการประชุมระดับผู้นำอียูในวันพุธ
นอกจากนี้มีรายงานว่า ผู้อพยพหลายร้อยคนต้องนอนค้างคืนบนทางหลวงใกล้กับเมืองเอดีร์เน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของตุรกี เมื่อคืนนี้ เนื่องจากตำรวจตุรกีไม่ยอมให้ผู้อพยพกลุ่มนี้เดินทางข้ามพรมแดนไปยังกรีซ