นักรบซีเรียที่ฝึกโดยสหรัฐฯ เพื่อสู้กับกลุ่มไอเอสเดินทางเข้าไปซีเรียแล้ว
กลุ่มสังเกตการณ์ซีเรียเพื่อสิทธิมนุษยชนเผยว่า กลุ่มนักรบชาวซีเรีย 75 คน ที่ได้รับการฝึกฝนจากสหรัฐฯ เพื่อสู้รบกับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้เดินทางเข้าไปยังซีเรียแล้ว
กลุ่มสิทธิมนุษยชนดังกล่าว ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในอังกฤษรายงานว่า นักรบซีเรียกลุ่มนี้ได้ข้ามพรมแดนตุรกีเข้าไปทางเหนือของซีเรียเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา นายรามี อับเดล ราห์มาน ผู้อำนวยการกลุ่มสังเกตการณ์ฯ เผยว่านักรบทั้ง 75 คน ได้รับการฝึกที่ค่ายแห่งหนึ่งใกล้กรุงอังการา พวกเขาเดินทางเข้าซีเรียโดยใช้รถลำเลียงติดปืนกล 12 คันเป็นพาหนะ ภายใต้การคุ้มกันทางอากาศของกองกำลังพันธมิตรที่มีสหรัฐฯ เป็นแกนนำ และพวกเขาถูกฝึกมาเพื่อร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับกลุ่มกบฏอีก 2 กลุ่มในซีเรียที่สหรัฐฯ หนุนหลังอยู่ อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันเรื่องนี้จากทางสหรัฐฯ
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ นายพลลอยด์ ออสติน ผู้อำนวยการศูนย์บัญชาการกลางของกองทัพสหรัฐฯ ชี้แจงต่อสภาคองเกรสว่า ขณะนี้มีนักรบที่ฝึกโดยสหรัฐฯ เพียง 4 หรือ 5 คนเท่านั้น ที่ยังร่วมสู้รบอยู่ในซีเรีย ซึ่งทำให้วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันออกมาวิจารณ์ทันทีว่าโครงการที่ตั้งงบไว้กว่า 17,800 ล้านบาทนี้ เป็นโครงการที่ไร้ประโยชน์และล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
นายพลออสตินยังกล่าวด้วยว่าเมื่อเดือนก.ค. ที่ผ่านมา นักรบ 54 คนที่สหรัฐฯ ฝึกขึ้นมาตามโครงการดังกล่าว ถูกกลุ่มที่เป็นฝ่ายเดียวกับกลุ่มอัลไคด้าโจมตีในพื้นที่ทางเหนือของซีเรีย และไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีนักรบกี่คนหนีรอดมาได้ หรือถูกจับและเสียชีวิต นายพลออสตินยอมรับต่อสภาคองเกรสว่า ไม่มีทางที่โครงการนี้จะฝึกนักรบได้ 5,000 คนต่อปีตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ อย่างไรก็ตามเขาขอให้ทุก ๆ ฝ่ายมีความอดทน เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมคนหนึ่งชี้ว่าสาเหตุที่ฝึกนักรบไม่ได้ตามเป้า เป็นเพราะการคัดเลือกบุคคลที่จะเข้าไปเป็นนักรบมีขั้นตอนมาก
ทั้งนี้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ประกาศเรื่องโครงการดังกล่าวเมื่อเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา เป็นโครงการที่มีเป้าหมายเพื่อจัดตั้งกองกำลังของฝ่ายต่อต้านที่มีประสิทธิภาพในการสู้รบกับกลุ่มไอเอสในซีเรีย
ภาพประกอบ – แฟ้มภาพ: การสู้รบและสภาพความเสียหายจากการสู้รบในซีเรีย
