‘ยืนเฉยๆ’ รอบ3 ‘อานนท์’ ผิดพ.ร.บ.ชุนนุม ปล่อยแล้ว 13-ทหารคุมตัว 1-โดนหมายจับเก่า 5
Posted: 27 Apr 2016 11:38 AM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)
ตำรวจมาก่อนเวลา เตรียมรับมือกิจกรรม 'ยืนเฉยๆ'
ประชาชนบางส่วนมา 'ยืนเฉยๆ' และถูกตำรวจคุมตัวไปก่
27 เม.ย.2559 จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ทหารเข้ าควบคุมตัวแอดมิ นเพจและประชาชนในกรุงเทพฯ และขอนแก่นรวม 10 รายตั้งแต่ช่วงเช้า และพ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกมายอมรับว่ามีการควบคุมตั วไปจริงโดยอยู่ในอำนาจควบคุมตั วของทหารเป็นเวลา 7 วันตามคำสั่งม.44 สาเหตุเนื่องมากจากทั้งหมดมี พฤติกรรมเกี่ยวกับการใช้โซเชี ยลมีเดียที่เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
จากนั้นกลุ่มพลเมืองโต้กลับได้ นัดหมายจัดกิจกรรม ‘ยืนเฉยๆ’ เพื่อเรียกร้องให้มีการปล่อยตั วประชาชนที่ถูกจับกุมและควบคุ มตัวโดยทหารทั้งที่ยังไม่มี การแจ้งข้อกล่าวหาและไม่เปิ ดเผยสถานที่ควบคุมตัว กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเป็นครั้ งที่ 3 โดยเริ่มต้นจากกรณีของนายวัฒนา เมืองสุข ทางกลุ่มยืนยันว่าจะจัดกิ จกรรมทุกครั้งที่มีการจับกุมตั วประชาชนในลักษณะดังกล่าว
เวลาประมาณ 18.27 น. แกนนำกลุ่ม เช่น อานนท์ นำภา พันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ ปกรณ์ อารีกุล ณัฐภัทร อัคฮาด ฯลฯ ได้ปรากฏตัวที่อนุสาวรีย์ชั ยฯ และเพียงไม่กี่นาทีก็ถูกเจ้าหน้ าที่ตำรวจควบคุมตัวไปยัง สน.พญาไท ก่อนหน้านี้มีประชาชนที่มายื นเฉยๆ โดนจับไปก่อนแล้วประมาณ 8 ราย เจ้าหน้าที่ทยอยจับผู้ทำกิ จกรรมรวมทั้งหมด 16 คน อย่างไรก็ตาม ระหว่างนั้นมีกลุ่มแม่ค้าย่ านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ขอร้องผู้ชุมนุมอย่าสร้ างความเดือดร้อน ช่วยไปประท้วงที่อื่ นเพราะทำมาหากินไม่ได้
ที่สน.พญาไท ท่ามกลางประชาชนติดตามไปสั งเกตการณ์หลายสิบคน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ผู้ถูกควบคุมตัวทั้งหมดถู กสอบปากคำอยู่ในห้องสอบสวน เวลาประมาณ 20.40 น. เจ้าหน้าที่ทหาร นำตัว บุรินทร์ อินติน 1 ใน 16 คนขึ้นรถตู้มีป้าย 'ส.พัน.12 รอ.' ออกจาก สน.พญาไท ไปเพียงรายเดียว โดยทหารไม่ได้แจ้งข้อมูลใดๆ เบื้องต้นยังไม่ทราบนำตัวไปไหน และด้วยสาเหตุอะไร สร้างความไม่พอใจให้กั บบรรดาประชาชนที่ติดตามสั งเกตการณ์อย่างมาก
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้ อกล่าวหา อานนท์ นำภา ทนายความและนักกิจกรรมในข้อหา “จัดการชุมนุมในที่ สาธารณะโดยไม่แจ้งการชุมนุมต่ อผู้รับแจ้งก่อนเริ่มการชุมนุ มไม่น้อยกว่ายี่สิบสีชั่วโมง” ความผิดตามพ.ร.บ.การชุมนุ มสาธารณะ
ทหารเข้าควบคุมตัว บุรินทร์ อินติน 1 ใน 16 ผู้ที่ถูกจับกุมขณะสอบปากคำอยู่
และนำขึ้นรถตู้ออกไปโดยไม่
ปล่อยเกือบหมด ‘ทนายอานนท์’ โดนข้อหาผิดพ.ร.บ.ชุมนุม-นักกิ จกรรม 2 คนมีหมายจับเก่า
เวลาประมาณ 22.20 น. ตำรวจปล่อยตัวผู้ที่ถูกจับกุม หลังควบคุมตัวอยู่ราว 4 ชม.โดยผู้ที่ถูกตำรวจควบคุมตั วไปมีทั้งสิ้น 16 ราย ได้รับการปล่อยตัวทั้งสิ้น 13 ราย ขณะที่อีก 1 รายคือ นายบุรินทร์ อินดิน ถูกทหารควบคุมตัวขึ้นรถตู้ ไปโดยไม่ทราบสาเหตุและไม่ทราบจุ ดหมายปลายทาง ส่วนนักกิจกรรมอีก 2 รายคือ ปกรณ์ อารีกุล หรือ แมน และอภิสิทธิ์ ทรัพย์นภาพันธ์ หรือ หนุ่ย ถูกควบคุมตัวต่อไปยัง สน.ปทุมวัน เนื่องจากทั้งคู่มีหมายจับที่ สน.ดังกล่าวในข้อหาขัดคำสั่ง คสช. จากกรณีชุมนุมรำลึก 1 ปี รัฐประหารที่หน้าหอศิลป์เมื่อ 22 พ.ค.2558
จากนั้นตำรวจนำตัว แมน ปกรณ์ และ หนุ่ย อภิสิทธิ์ มายังสน.ปทุมวัน ในคดีดังกล่าวมีผู้ถูกออกหมายจั บอีก 3 คน (รวมเป็น 5 คน)
เวลาประมาณ 23.00 น. ทั้ง 3 คนที่เหลือได้เดินทางมามอบตัวกั บเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ปทุมวันแล้ ว ได้แก่ บาส รัฐพล ศุภโสภณ , รังสิมันต์ โรม และ ลูกเกด ชลธิชา แจ้งเร็ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งหมดแจ้งว่าจะไม่ยื่นประกั นตัวเนื่องจากเห็นว่าสิ่งที่ พวกเขาทำไม่เป็นความผิด ต่อมาอานนท์ นำภา ทนายความแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าจะปล่ อยตัวทั้งหมดโดยไม่ต้องประกันตั ว
เวลาประมาณ 01.45 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังถูกควบคุมตัวหลายชั่วโมง ตำรวจได้ปล่อยตัวทั้ง 5 คนโดยไม่ต้องยื่นประกัน รวมทั้งไม่ต้องเซ็นบันทึกข้ อตกลงใด
ภายหลังการปล่อยตัว รังสิมันต์ ให้สัมภาษณ์ว่า พวกเขายืนยันว่าทำในสิ่งที่ถู กต้อง คดีที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหานั้นไม่ เป็นธรรมเนื่องจากเจ้าหน้าที่ เป็นฝ่ายใช้ความรุนแรง ส่วนการทำกิจกรรมยืนเฉยๆ ก็เป็นไปเพื่อเรียกร้องสิทธิให้ ผู้ที่ถูกทหารคุมตัวโดยมิชอบ
"ข้อเรียกร้องตอนนี้อยากให้สั งคมเป็นห่วงคนที่ถูกพาตัวไปเมื่ อเช้า รวมถึงบุรินทร์ อินติน ที่เพิ่งถูกเอาตัวไปด้วย เราไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกั บพวกเขาบ้าง มันกลายเป็นแดนสนธยา สังคมต้องต้องตั้งคำถามเรื่องนี ้" รังสิมันต์กล่าว
รังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า วันที่ 11 พ.ค.นี้มีการนัดมาพบที่สน.อี กครั้ง
รูปผู้ต้องหา 4 รายตามหมายจับ (คดีฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.กรณีชุมนุมรำลึก 1 ปีรัฐประหาร) ก่อนเข้าห้องสอบสวนสน.ปทุมวัน
ลูกเกด ตามมามอบตัวตามหมายจับ คดีเดียวกับผู้ต้องหา 4 รายตามภาพด้านบน ทั้งหมดยืนยันไ่ม่ประกันตัว
นัชชชาเสียใจ ตำรวจพูด “จับเลย อย่าคิดว่าเป็นผู้หญิง มันเป็นผู้ชาย”
ด้านนัชชชา กองอุดม นักศึกษาม.กรุงเทพ หนึ่งในผู้ถูกจับกุมตัวให้สั มภาษณ์ภายหลังถูกปล่อยตัวว่า ขณะถูกจับกุม ตำรวจหญิงเป็นผู้เข้ามาทำการจั บกุมเธอ แต่มีเจ้าหน้าที่ ตำรวจชายตะโกนบอกว่า 'จับมาเลย อย่าไปคิดว่าเป็นผู้หญิง มันเป็นผู้ชาย'
ต่อมาเวลาประมาณ 23.26 น. นัชชชา โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเสียใจต่ อเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมระบุว่า วันนี้นอกจากนี้ ตนเองจะถูกละเมิดสิทธิทางร่ างกายแล้ว ที่สำคัญ ยังถูกละเมิดสิทธิ ทางเพศและความเป็นคนอีกด้วย
ข้อความมีดังนี้
"คำว่ามันไม่ใช่ผู้หญิง มันเป็นผู้ชาย คำครหาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชายท่ านนั้น ยังดังอยู่ในหัวเหมือนถูกด่าซ้ ำๆ
เหตุการณ์หลังจากการถูกจับกุมตั วที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ถูกนำตัวขึ้นรถโดยมีจนท.หญิ งสองคนตามประกบ น้ำตาไหลออกมาจากความอัดอั้นหลั งถูกจนท.ชายท่านนั้นต่อว่า เสียใจมากๆ กับคำพูดนั้นจนต้องระบายกั บตำรวจหญิงสองท่านที่จับกุมตัว ถึงเหตุที่เขาต้องต่อว่าเกี่ ยวกับเพศเราขนาดนั้นทั้งๆ ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุ การณ์ใดๆ เลย
หลังจากมาถึงห้องสอบสวนสน.พญาไท มีป้าๆ พี่ๆ หลายๆ คนถูกจับไปก่อนหน้า กำลังนั่งคุยกันอย่างสนุกสนาน เราเข้าไปถึงเขาก็ถามทักทาย "นัชชชาเป็นไงบ้างลูก" เราได้ยินคำนั้นพูดไรไม่ออก ในใจรู้สึกอัดอั้นอยากเล่ามากๆ ร้องไห้ไม่หยุดเลย
มันอาจระบายออกมาเป็นคำพูดไม่ หมด เพียงคำว่า "มันเป็นผู้ชาย" เท่านั้นเหรอที่เราร้องไห้ บางคนอาจจะบอกว่า มันก็ถูกแล้วหนิ เธอเป็นผู้ชาย แต่ดิฉันยืนยันว่าฉันไม่ใช่ผู้ ชาย และคุณก็ไม่มีสิทธิมานิ ยามเพศของดิฉัน เรื่องนี้ไม่ใช่การเรียกโดยบริ สุทธิ์ใจ วันนี้คุณได้ละเมิดสิทธิทางร่ างกายของดิฉันแล้ว สิ่งที่สำคัญคุณยังละเมิดสิทธิ ทางเพศและความเป็นคนของฉันอีก" นัชชชา ระบุ
ล่าสุด เพจ Fahroong Srikhao ฟ้ารุ่ง ศรีขาว รายงานว่า พ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ รองผู้บังคับการ กองบังคับการตำรวจนครบาล1 ในฐานะผู้ควบคุมกำลังและผู้บั งคับบัญชาที่รับผิดชอบการปฏิบั ติในวันนี้ กล่าวว่า ต้องขอโทษที่มีการกระทบกระทั่ งระหว่างปฏิบัติงานและมีการใช้ คำพูดไม่เหมาะสม ยอมรับว่าทุกคนเครียดและอยู่ ในภาวะกดดันที่จะให้กิจกรรมยุติ โดยเร็วด้วยความเรียบร้อย
"ต้องขอโทษจริงๆ ที่มีการใช้วาจาไม่เหมาะสม ในเรื่องนี้จะดำเนิ นการทางการปกครอง ตามระเบียบภายในของกองร้อยควบคุ มฝูงชนต่อไป"พ.ต.อ.อรรถวิทย์ กล่าว
หมายเหตุ ขอขอบคุณช่างภาพนิรนามมา ณ โอกาสนี้
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น