ทุนจีนเตรียมขยายพื้นที่ปลูกกล้วยส่งออกที่เชียงรายเพิ่มอีก 700 ไร่
ชาวบ้านเชียงรายเผยจีนเตรียมขยายพื้นที่ปลูกกล้วยอีก 700 ไร่ เพิ่มเติมจากที่ทำอยู่แล้ว 2,700 ไร่ เร่ง กสม.ตรวจสอบการใช้น้ำและสารเคมี ด้านนายอำเภอพญาเม็งรายเผยยังไม่ได้ข้อสรุปการตรวจสอบสารพิษที่อาจปนเปื้อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา ตัวแทนชาวบ้าน ต.ต้า อ.ขุนตาล จ.เชียงราย ได้ยื่นหนังสือต่อคณะอนุกรรมการสิทธิชุมชนและทรัพยากร ในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ให้เร่งตรวจสอบผลกระทบกรณีนายทุนจากประเทศจีน บริษัทหงต๋า อินเตอร์เนชั่นแนล เช่าที่ดินริมแม่น้ำอิง ในเขต อ.พญาเม็งราย ราว 2,700 ไร่ สำหรับปลูกกล้วยหอมส่งออกไปจีน โดยมีรายงานว่า ในขณะนี้นายทุนจีนกำลังขยายพื้นที่เตรียมปลูกกล้วยเพิ่มใน อ.ขุนตาล อีกราว 700 ไร่
นายเลื่อน ผิวผ่อง กำนันตำบลต้า เปิดเผยกับบีบีซีไทยว่า ชาวบ้านในพื้นที่มีความกังวลต่อผลกระทบจากสวนกล้วยจึงร่างข้อเสนอถึง กสม. ให้ตรวจสอบขั้นตอนการใช้น้ำในการผลิต ทั้งจากแหล่งน้ำธรรมชาติหรือแหล่งน้ำบาดาล การใช้สารเคมี และเสนอให้กระทรวงพาณิชย์เฝ้าระวังไม่ให้มีการขยายไปยังพื้นที่อื่น ๆ
ทั้งนี้ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ชาวบ้าน อ.ขุนตาล และ อ.พญาเม็งราย เคยร้องเรียนต่อภาครัฐ หลังจากบริษัทหงต๋า อินเตอร์เนชั่นแนล สูบน้ำจากแม่น้ำอิงไปใช้จนแห้งขอด ส่งผลกระทบต่อการเกษตรของชุมชน ในเวลาเดียวกันชาวบ้านส่วนใหญ่ยังกังวลเรื่องของการใช้สารเคมีในกระบวนการเพาะปลูก
ด้านนายภูเบศร์ จูละยานนท์ นายอำเภอพญาเม็งราย จ.เชียงราย บอกบีบีซีไทยว่า จ.เชียงราย มีมาตรการเบื้องต้นห้ามบริษัทดังกล่าวสูบน้ำจากแม่น้ำอิงไปใช้ โดยสามารถขุดบ่อน้ำบาดาลใช้แทนได้ พร้อมสุ่มเก็บตัวอย่างเลือดของคนงาน ตัวอย่างน้ำ และผลผลิตทางการเกษตร หาค่าสารพิษที่เป็นอันตราย ซึ่งทั้งหมดนี้ยังอยู่ในกระบวนการตรวจสอบ จึงยังไม่สามารถระบุข้อสรุปได้
ด้านนายสมเกียรติ์ เขื่อนเชียงสา หนึ่งในอนุกรรมการฯ เปิดเผยว่า กรณีนี้ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการปลูกกล้วยในพื้นที่จำนวนมาก และมีแนวโน้มที่ขยายเพิ่มขึ้น จึงจะยื่นเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบต่อไป
(ภาพประกอบข่าว)
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น