ญาติพลทหาร ทรงธรรม หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ด้านองค์กรสิทธิ์เผยยังมีพลทหารอีกคนถูกซ้อมได้รับบาดเจ็บรักษาตัวที่ รพ.ค่ายอิงคยุทธบริหาร
น้าชายพลทหารทรงธรรม หมุดหมัด เผยจะต่อสู้อย่างถึงที่สุด แต่ยอมรับว่าเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ไม่เชื่อยาเสพติดเป็นต้นเหตุให้หลานชายเสียชีวิต ด้านองค์กรสิทธิ์และนักวิชาการเรียกร้องสอบสวนอย่างอิสระ เผยยังมีพลทหารอีกนายที่นอนรักษาตัวที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร ด้านโฆษกกองทัพบกยืนยันลงโทษกำลังพลที่กระทำผิดแน่นอน
นายมานพ ศรทอง น้าชายของพลทหาร ทรงธรรม หมุดหมัด อายุ 23 ปี สังกัด ร.152 พัน.1 ค่ายพยัคฆ์ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งเสียชีวิตหลังจากถูกทำโทษปรับปรุงวินัย เพราะกระทำความผิดฐานเสพยาเสพติด เปิดเผยกับบีบีซีไทยว่าทางครอบครัวจะต่อสู้อย่างถึงที่สุด อย่างไรก็ดี ยอมรับว่าเป็นห่วงว่าอาจไม่ได้รับความเป็นธรรมเต็มที่แม้จะได้รับการรับรองจากกองทัพว่าจะให้ความเป็นธรรมทุกอย่าง
ต่อข้อถามเรื่องข้อกล่าวหาเรื่องที่ว่าพลทหาร ทรงธรรม เกี่ยวข้องกับยาเสพติด นายมานพ ยอมรับว่ามีการตักเตือนบ้างนาน ๆ ครั้ง อย่างไรก็ดี ไม่เชื่อว่าเรื่องนี้จะเป็นสาเหตุทำให้พลทหาร ทรงธรรม เสียชีวิต
“ความเป็นจริงน่าจะมาจากนายสิบคนหนึ่งต้องการยืมเงินของพลทหารทรงธรรม ที่เตรียมไว้ห้าพันบาทเพื่อนำไปให้แม่ที่บ้าน แต่พอรุ่งขึ้นเงินกลับหายไป พอพลทหาร ทรงธรรมไปทวงก็ทะเลาะชกต่อยกัน จากนั้นเขาก็ถูกส่งกลับกองร้อย และถูกสั่งทำโทษโดยทหารยศร้อยตรีที่มีคนบอกว่าชอบทำร้ายทหารเป็นที่สุด” นายมานพกล่าว
ด้านมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ให้ข้อมูลว่านอกเหนือจากพลทหารทรงธรรม ที่ถูกทำร้ายร่างกายแล้วยังมีพลทหารอีกนายหนึ่งที่คาดว่าถูกรุมซ้อมเพื่อลงโทษในระยะเวลาใกล้เคียงกันชื่อ พลทหารฉัตรพิศุทธ์ ชุมพันธ์ ขณะนี้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี
น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม และรองประธานกรรมการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่าทางการต้อง “มีการสืบสวนสอบสวนอย่างเป็นอิสระ การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและเกินเลย ไม่มีการกำกับดูแลจากผู้บังคับบัญชาระดับสูง”
ด้าน ศ.วิทิต มันตราภรณ์ จากคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า “การสอบสวนคดีการเสียชีวิตในการควบคุมตัว ต้องเริ่มที่การเปลี่ยนภาระการพิสูจน์ให้เป็นของรัฐ ว่าไม่ได้มีการฆ่าหรือทำให้ตาย มีหลักฐานพยานอะไรที่พิสูจน์ว่ารัฐไม่ได้ทำ แต่ตอนนี้เรายังใช้วิธีการพิสูจน์ความผิดประเภทนี้แบบอาญาปกติ ให้ญาติพิสูจน์ว่ามีการทำให้ตายในการควบคุมตัว ซึ่งยากมากในบริบทของเรา"
ก่อนหน้านี้ พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่าในกรณีของพลทหารทรงธรรม นี้ หน่วยต้นสังกัด พล.ร.15 ได้ตั้งกรรมการสอบสวนผู้เกี่ยวข้อง โดยผลสรุปพบว่า มีกำลังพลกระทำผิดจริง เป็นกำลังพลทั้งนายทหาร และนายสิบ รวม 6 นาย ด้วยการทำโทษปรับปรุงวินัยกำลังพลไม่เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับตามแบบธรรมเนียมทหาร ซึ่งขณะนี้ทางหน่วยได้อยู่ในระหว่างการดำเนินการทางวินัย เพื่อลงโทษกำลังพลที่กระทำความผิดทั้ง 6 นายตามอำนาจที่มีอยู่ขั้นสูงสุด
(ภาพประกอบข่าว)
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น