ชะตากรรมนักโทษสหรัฐฯ ผู้เปิดโปงความโหดร้ายของเรื อนจำในรัฐฟลอริดา
Posted: 29 Apr 2016 08:33 AM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)
เรื่องของ ฮาโรลด์ เฮมป์สเตด นักโทษในสหรัฐฯ ผู้ติดคุกยาวนานในข้อหาลักทรั พย์หลายครั้งอีกทั้งยังเป็ นโรคย้ำคิดย้ำทำ แต่เขาก็กลายเป็นวีรบุรุษผู้เปิ ดโปงการกระทำโหดร้ายในคุกที่ เขาเคยอยู่จนมีผู้ต้องขังถึงแก่ ความตาย ถึงแม้ว่ากระบวนการสืบสวนหลั งจากนั้นจะยังไม่ได้ให้ความเป็ นธรรมกับผู้ที่เป็นเหยื่ อการกระทำโหดร้ายก็ตาม
เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2559 เว็บไซต์นิตยสารเดอะนิวยอร์ กเกอร์รายงานถึงกรณีที่ฮาโรลด์ เฮมป์สเตด ผู้ต้องขังที่เคยอยู่ในทั ณฑสถานเดดส่งจดหมายร้องทุกข์ต่ อกรมราชทัณฑ์รัฐฟลอริดา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2556 ในจดหมายฉบับนั้นระบุถึงข้อกล่ าวหาที่น่าสะพรึงต่อกรณีการเสี ยชีวิตของผู้ต้องขังชื่อดาร์เรน เรนนี ผู้ที่เสียชีวิตในเรื อนจำจากการหมดสติในห้องอาบน้ ำเมื่อ 7 เดือนก่อนหน้าการส่งจม.ร้องทุ กข์
ผู้เขียนบทความนามว่า อียาล เพรส เขียนถึงกรณีนี้โดยอ้างอิงถึ งจดหมายของเฮมป์สเตด ที่ระบุว่าการตายของเรนนีเป็ นการพยายามปกปิดการข่มเหงทารุ ณเรนนีก่อนหน้านี้ เนื่องจากก่อนที่เรนนีจะหมดสติ ไปในห้องน้ำเขาถูกขังไว้ในห้ องอาบน้ำที่มีการเปิดน้ำร้อนใส่ เขาจากสายยางข้างนอกโดยผู้คุมซึ ่งน้ำมีความร้อนถึงราว 80-100 องศา มากพอจะต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรู ปได้ จม.ของเฮมป์สเตด เล่าว่าเขาได้ยินเรนนีตะโกนว่า "ผมทนไหวแล้ว" จากนั้นถึงได้ยินเสียงตุบที่ เขาเชื่อว่าเป็นเสียงร่างเรนนี กระแทกลงกับพื้นและเสียงร้ องโหยหวนของเขาก็เงียบสงบลง
เฮมป์สเตดเขียนในท้ายจดหมายเรี ยกร้องให้มีการสืบสวนในเรื่องนี ้ ซึ่งจากปากคำของแฮเรียต คริซคาวสกี อดีตนักจิตเวชวิทยาผู้ให้คำปรึ กษาในทัณฑสถานเดดเปิดเผยว่าร่ างกายของเรนนีมีรอยถูกลวกร้อยละ 90 และผิวหนังของเขาจะหลุดลอกออกถ้ าถูกสัมผัส
แต่กรมราชทัณฑ์ก็ตอบกลับเฮมป์ สเตดอย่างห้วนๆ ว่า "คำร้องทุกข์ของคุณถูกตีกลั บโดยไม่มีปฏิบัติการใดๆ " แต่เฮมป์สเตดก็ยังคงส่งคำร้ องไปยังกรมราชทัณฑ์อีกครั้ งในหลายเดือนถัดมาและยังส่งคำร้ องไปที่อื่นๆ อย่างหน่วยงานตรวจสอบด้ านการแพทย์ละหน่วยงานตำรวจด้วย อย่างไรก็ตามนักจิตเวชวิทยาที่ ฝ่ายงานสุขภาพจิตในเดดกลัวว่ าการร้องเรียนในเรื่องนี้ จะทำให้ฝ่ายผู้คุมโต้ตอบด้ วยความไม่พอใจและทำให้ตัวเองอยู ่ในความเสี่ยงได้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่เฮมป์ สเตดถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคย้ำคิ ดย้ำทำ เขามักจะถูกโต้ตอบว่าให้เลิก "ย้ำคิด" เกี่ยวกับเรื่องของเรนนีได้แล้ว จนกระทั่งในวันที่ 17 พ.ค. 2557 จากการช่วยเหลือของวินดี พี่/น้องสาวของเขาทำให้เรื่องนี ้ขึ้นหน้าหนึ่งของสื่อไมอามี เฮราลด์
การเปิดโปงของฮาโรลด์ เฮมป์สเตด ทำให้กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ ดำเนินการสืบสวนเพื่อพิจารณาว่ าการเสียชีวิตของเรนนีเป็นส่ วนหนึ่งของการข่มเหงผู้ต้องขั งหรือไม่ หลังจากนั้นจึงเกิดการเปลี่ ยนแปลงผู้คุมบางคนในฝ่ายงานสุ ขภาพจิตของเรือนจำ และราชทัณฑ์รัฐฟลอริดาก็มี การปฏิรูปเปลี่ยนแปลงระบบรวมถึ งการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่เรื อนจำและการเปลี่ยนระบบอื่นๆ เพื่อป้องกันเหตุรุนแรงในอนาคต
อย่างไรก็ตามบทความของเพรสระบุ ว่าเรื่องราวของเฮมป์ สเตดอาจจะไม่ได้จบอย่างมีความสุ ขมากเท่าที่ควรในแง่การให้ ความเป็นธรรมต่อเรนนี ถึงแม้ว่าจะมีการสืบสวนแต่ผู้คุ มที่ถูกกล่าวหาว่าใช้น้ำร้อนกั บเรนนียังไม่มีใครเลยที่ถูกตั้ งข้อหา ยังไม่มีการระบุในข้อมูลประวัติ ว่ามีการกระทำผิดและยังไม่มี ใครลาออก จนกระทั่งถึงต้นปีนี้ผลการชันสู ตรเรนนีถูกส่งต่อไปให้อั ยการของรัฐที่ตัดสินว่ าการตายของเรนนีเป็น "อุบัติเหตุ" และไม่แนะนำให้ดำเนินคดีในเรื่ องนี้
ในขณะที่เฮมป์สเตดก็เริ่มถูกข่ มขู่คุกคามจากเจ้าหน้าที่เรื อนจำว่าจะขังเดี่ยวเขาหลังจากที ่เขาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อไมอามี เฮราลด์ จากนั้นก็นำตัวเฮมป์สเตดส่งต่ อไปยังเรือนจำอื่นโดยมีการให้ สถานะ "อยู่ภายใต้การคุ้มครอง" จากทัณฑ์สถานเดด แต่เขาก็จะถูกจัดจำในฐานะผู้เปิ ดโปงเรื่องการข่มเหงในคุกต่อไป
เฮมป์สเตดโดนโทษจำคุก 165 ปี จากที่เขามีส่วนเกี่ยวข้องกั บการลักทรัพย์ในบ้านคนอื่ นหลายสิบกรณี เขาเกิดที่เซนตืปีเตอร์เบิร์ก รัฐฟลอริดา มีพ่อเป็นคนติดเหล้าและเสียชีวิ ตเมื่อเฮมป์สเตดอายุได้ 7 ปี แม่ของเขาต้องเข้ารับการบำบั ดเพื่อมีอาการทางจิตทำให้เฮมป์ สเตดและพี่น้องของเขาต้องต่อสู้ หาเลี้ยงตัวเองบนท้องถนน เฮมป์สเตดกล่าวโต้แย้งว่าเขาไม่ ได้เป็นคนมีส่วนร่ วมในการขโมยของในบ้านคนอื่ นโดยตรง เป็นแค่คนซื้อขายของของโจรเท่ านั้น
แต่ไม่ว่าเขาจะกระทำผิดจริงหรื อไม่ก็ตามบทความของเพรสก็ระบุว่ าการลงโทษจำคุกมากขนาดนี้ก็ถื อว่าเป็นการลงโทษที่หนักเกินไป แรนดัลล์ ซี เบิร์ก จูเนียร์ ผู้อำนวยการบริหารจากสถาบั นความยุติธรรมฟลอริดาซึ่งเป็ นองค์กรให้ความช่วยเหลือด้ านกฎหมายกล่าวว่าการตัดสิ นอาชญากรรมของเฮมป์สเตด ไม่ว่าจะมองในนิยามการตัดสิ นของใครก็ตามถือว่าเป็นการตัดสิ นก็เกิดจริงทั้งสิ้น
วินดีเป็นคนที่เฮมป์สเตดคุยด้ วยเป็นคนแรกๆ หลังจากเรนนีเสียชีวิต วินดีเล่าถึงสภาพที่เฮมป์ สเตดแสดงอาการหวาดกลัวจนตัวสั่ นเธอบอกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นค่ำคืนนั้นจะติ ดตัวเขาไปตลอด
เรียบเรียงจาก
A Whistle-Blower Behind Bars Eyal Press, The New Yorker, 27-04-2016 http://www.newyorker.com/news/ daily-comment/a-whistle- blower-behind-bars
Madness, Eyal Press, The New Yorker http://www.newyorker.com/ magazine/2016/05/02/the- torturing-of-mentally-ill- prisoners
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น