อะไรเป็นสาเหตุให้เครื่องบินโดยสารรัสเซียตกในคาบสมุทรไซนาย ?
ผู้เชี่ยวชาญอียิปต์และนานาชาติได้เริ่มการสอบสวนเหตุเครื่องบินของสายการบินโคกาลิมาเวียของรัสเซีย เที่ยวบิน 9268 ตกบริเวณคาบสมุทรไซนาย ทำให้คนบนเครื่องทั้ง 224 คนเสียชีวิตแล้ว
หลังเกิดเหตุมีการตั้งข้อสันนิษฐานต่าง ๆ ที่อาจเป็นสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ เช่น เครื่องบินอาจถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธจากกลุ่มนักรบจิฮัดซึ่งใกล้ชิดกับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงได้ปฏิเสธข้ออ้างดังกล่าว โดยชี้ว่าเครื่องบินบินอยู่ในระดับความสูงเกินพิสัยของขีปนาวุธยิงจากพื้นสู่อากาศ ซึ่งเป็นขีปนาวุธที่กลุ่มดังกล่าวมีในครอบครอง และมีประสิทธิภาพน้อยกว่าระบบยิงขีปนาวุธบุค (Buk) ที่ใช้ยิงเครื่องบินสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบิน เอ็มเอช17 ตกในยูเครนเมื่อปีก่อนอยู่มาก
นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังตั้งข้อสงสัยอีกว่าเหตุใดนักรบจิฮัดกลุ่มดังกล่าวจึงยอมเสี่ยงที่จะถูกตอบโต้กลับอย่างรุนแรงจากนานาชาติด้วยการกระทำเช่นนี้ ในเมื่อกลุ่มมีเป้าหมายหลักในการต่อสู้กับรัฐบาลอียิปต์
แฟรงค์ การ์ดเนอร์ ผู้สื่อข่าวสายความมั่นคงของบีบีซี ระบุว่าการที่รัสเซียปฏิบัติภารกิจปราบปรามไอเอสในซีเรีย และภาวะที่เศรษฐกิจอันเปราะบางของอียิปต์กำลังต้องการรายได้จากการท่องเที่ยวอย่างมากนั้น ทำให้ทั้งสองประเทศหวังว่าโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นจะไม่ใช่การก่อการร้าย อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบซากเครื่องบินจะช่วยตัดสินว่าข้อสันนิษฐานนี้เป็นจริงหรือไม่
นอกจากนี้ เรื่องระเบิดบนเครื่องบินก็เป็นอีกประเด็นที่ถูกพูดถึง แม้ขณะนี้จะยังไม่มีหลักฐานชัดเจนที่บ่งชี้ถึงทฤษฎีนี้ และมีคำถามว่ามือระเบิดจะหลบเลี่ยงมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดที่ท่าอากาศยานชาร์ม เอล ชีค แล้วลักลอบนำระเบิดขึ้นเครื่องไปได้อย่างไร แต่ ศ.ไมเคิล คลาร์ค ผู้อำนวยการสถาบัน Royal United Services Institute เผยกับบีบีซีว่า ลักษณะของซากเครื่องบินที่ขาดเป็น 2 ท่อนบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ว่าอาจเกิดระเบิดขึ้นบนเครื่องบิน เนื่องจากเป็นลักษณะที่บอกถึงความผิดปกติอย่างร้ายแรง ไม่ใช่ความขัดข้องทางเครื่องยนต์ หรือการถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธ
นายกรัฐมนตรีอียิปต์ระบุว่าเหตุร้ายครั้งนี้น่าจะเกิดจากความขัดข้องทางเทคนิค ด้านนายฮอสซัม คามัล รัฐมนตรีกระทรวงการบินพลเรือนของอียิปต์ บอกว่าไม่มีสัญญาณบ่งชี้ถึงปัญหาบนเครื่องบิน ซึ่งขัดแย้งกับรายงานก่อนหน้านี้ที่ว่า นักบินได้แจ้งขอลงจอดฉุกเฉินเพราะเกิดปัญหาทางเทคนิค
ขณะที่ภรรยาของนักบินผู้ช่วยคือ นายเซอร์เก ทรูคาเชฟ บอกกับสถานีโทรทัศน์เอ็นทีวีของรัสเซียว่า ก่อนที่เครื่องบินจะออกเดินทางจากเมืองชาร์ม เอล ชีค สามีได้บ่นกับเธอทางโทรศัพท์ว่าเครื่องบินมีสภาพไม่สมบูรณ์นัก แต่สายการบินโคกาลิมาเวียยืนยันว่า เครื่องบินซึ่งผ่านการใช้งานมาแล้ว 18 ปีได้มาตรฐานความปลอดภัยสำหรับการบิน โดยนายคามัลระบุว่า การตรวจสอบเครื่องบินก่อนที่จะขึ้นบิน ไม่มีรายงานพบความผิดปกติใด ๆ
ส่วนประเด็นเรื่องความผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์นั้น ทางสายการบินโคกาลิมาเวีย ระบุว่านักบินที่ 1 คือ นายวาเลอรี เนมอฟ มีชั่วโมงการบินกว่า 12,000 ชั่วโมง ซึ่งรวมถึงการบินด้วยเครื่อง เอ321 เป็นเวลา 3,860 ชั่วโมง ดังนั้นจึงไม่มีสาเหตุที่ต้องสงสัยว่ากรณีที่เกิดขึ้นเป็นความผิดพลาดของนักบิน แต่ท้ายที่สุดแล้วการตรวจสอบกล่องดำและเครื่องบันทึกเสียงในห้องนักบิน จะช่วยไขปริศนาของโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นครั้งนี้ #KGL9268
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น