0

บิล เกตส์ เผยเคยต่อต้านพ่อแม่ตอนยังเด็ก

บิลล์ เกตส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ เปิดเผยรายละเอียดเรื่องราวชีวิต ของเขาตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนไปจนถึงงานการกุศลที่ทำในปัจจุบัน ผ่านรายการวิทยุ Desert Island Discs ทางสถานีวิทยุ เรดิโอ 4 ของบีบีซี ดำเนินรายการโดยเคิรสตี ยัง โดยยอมรับว่าเคยต่อต้านพ่อแม่ตอนยังเด็กทั้งยังเคยจัดการกับระบบคอมพิวเตอร์ของ ร.ร.เพื่อทำให้ตัวเองเป็นเด็ก นักเรียนชายคนเดียวในชั้นที่ได้นั่งเรียนท่ามกลางเพื่อนนักเรียนหญิง
บิลล์ เกตส์ เล่าว่าตอนอายุเพียง 12 ปี พ่อแม่ต้องส่งให้ไปพบนักจิตวิทยา เพราะเขามักตั้งคำถามในหลาย ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นข้อห้ามที่พ่อแม่กำหนดนั้นเป็นสิ่งมี เหตุผลและต้องทำตามหรือไม่ นักจิตวิทยาแนะให้เขาอ่านหนังสือเกี่ยวกับจิตวิทยา หลายเล่ม และทำให้เขาเชื่อว่า การท้าทายพ่อแม่นั้นเป็นเรื่องไม่สมเหตุสมผลและเขาเอง ก็ไม่ได้พิสูจน์อะไรจากการทำเช่นนั้น เกตส์บอกว่าเมื่ออายุได้ 14 ปี เขาก็เลิกมีปัญหากับ พ่อแม่ ซึ่งก็สนับสนุนเมื่อเขาต้องการร่ำเรียนทางด้านคอมพิวเตอร์และเขียนซอฟต์แวร์
เกตส์เล่าด้วยว่า พอล อัลเลน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์ เคยเรียนโรงเรียน เดียวกับเขา แต่อยู่ในชั้นสูงกว่าทั้งสองช่วยกันจัดการกับซอฟต์แวร์ของ โรงเรียน เพื่อทำให้เกตส์ เป็นนักเรียนชายคนเดียวในห้องที่แวดล้อมไปด้วยนักเรียนหญิง เกตส์บอกว่าเขาไม่ใช่คนช่างจำนรรจากับเพื่อนหญิง แต่ก็รู้สึกดีที่ได้นั่งเรียนด้วยใกล้ ๆ กระทั่งได้ไปเข้าเรียนที่ฮาวาร์ดเขาถึงกล้าคุยกับสาวมากขึ้น
อย่างไรก็ดี เกตส์ออกจากฮาวาร์ดตอนอายุ 19 ปี เพื่อร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์กับอัลเลน โดยใช้เงินเก็บที่ได้จากการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์มาก่อตั้งบริษัทและจ้างคนสอง สามคนที่อายุมากกว่าเขามาช่วยทำงาน ตอนนั้นเกตส์เองยังไม่ถึงวัยที่จะมีใบขับขี่ รถยนต์ได้ด้วยซ้ำ
แต่เมื่อมีใบขับขี่แล้วเกตส์ยอมรับว่าเคยถูกริบเพราะขับรถเร็วเกินกำหนด สำหรับรถยนต์ คันแรกในชีวิตนั้น เกตส์ปรนเปรอตัวเองด้วย Porsche 911
เกตส์เล่าว่าตอนก่อตั้งไมโครซอฟท์ใหม่ ๆ เขาทำงานแทบไม่มีวันหยุด และต้องพยายาม ไม่เอาสิ่งนี้มากำหนดเป็นรูปแบบการทำงานของคนอื่น อย่างไรก็ดี เกตส์รู้ป้าย ทะเบียนรถของทุกคนในบริษัท จึงเลี่ยงไม่ได้ที่เขาจะรู้ว่าพนักงานมาทำงานกันเวลาใด
เกตส์ยังเอ่ยถึงสตีฟ จอบส์ ด้วยว่าสิ่งที่จอบส์สร้างมากับแอปเปิลนั้น ทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์แห่งวงการคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล เกตส์ยกย่องจอบส์ว่าเป็นอัจฉริยะ แต่บอกว่าตัวเอง เป็นนักวางแผนมากกว่า เกตส์บอกด้วยว่าในช่วงที่เคยทำงาน ร่วมกันนั้นทั้งสองมักพูดคุยกันเฉพาะเรื่องงาน แต่พอจอบส์เริ่มป่วย บทสนทนากลายเป็นเรื่องที่ผ่อนคลายอย่างเรื่องลูกและเรื่องชีวิตมากขึ้น
สำหรับเรื่องราวความรักนั้น เกตส์เล่าว่าเขาพบเมลินดา เป็นครั้งแรกใน งานประชุมของไมโครซอฟท์ที่นิวยอร์ค เขาเอ่ยปากชวนเมลินดาไป เต้นรำในคืนนั้น แต่ตอนนั้นเธอมีแฟนอยู่แล้ว สองสามสัปดาห์หลัง จากนั้น เขาพบเธออีกครั้งในที่จอดรถ จึงถามเธอว่าพร้อมไปเที่ยว กับเขาในอีกสองสัปดาห์ไหม เมลินดาตอบกลับว่าไม่ถือว่าเป็นการชวน ที่ปุบปับเกินไป ช่วงแรกทั้งสองไม่ได้คิดจะจริงจัง เกตส์เองยังต้องการ ให้ความสำคัญกับงานมากกว่า อย่างไรก็ดี เขารู้เช่นกันว่าสักวัน เขาคงอยากแต่งงานมีลูก และเมลินดาก็ก้าวเข้ามาในจังหวะที่เหมาะสม
สำหรับเรื่องงานการกุศลที่ทำอยู่ในขณะนี้ เกตส์เล่าว่าได้แรงบันดาลใจ จากพ่อกับแม่ ที่เคยทำงานการกุศลมาก่อน สำหรับเขาและเมลินดานั้น การกำจัดโรคร้ายที่คร่าชีวิต เด็กๆ อายุไม่ถึงห้าขวบในแอฟริกาได้นั้นถือเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ และเป็นการใช้เงิน ที่มีอย่างที่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด


แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 
Top