แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลชี้ ปีนี้สถานการณ์สิทธิมนุษยชน ไทยถูกจับตาในระดับโลก
นายชำนาญ จันทร์เรือง ประธานกรรมการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชันแนล กล่าวในการแถลงรายงานสถานกา รณ์สิทธิมนุษยชนประจำปี 2558 ว่า สถานการณ์สิทธิมนุษยชนของไท ยใน 1 ปีทีผ่านมานั้นปรากฏอยู่ในก ารจับตาทั้งในระดับเอเชียแป ซิฟิกและระดับโลก ขณะที่นายอภิรักษ์ สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง ตัวแทนกระทรวงการต่างประเทศ เป็นตัวแทนรัฐบาลรับรายงานป ระจำปีระบุย้ำประเด็นสิทธิมนุษยชนเ ป็นประเด็นของคนในประเทศที่ ต้องปกป้องสิทธิของประชาชนเ พื่อประโยชน์ของสังคม ไม่ใช่เรื่องของมาตรฐานฝรั่ งที่จะมาบังคับใช้ในสังคมไท ยอย่างที่หลายฝ่ายเข้าใจ
นายชำนาญ กล่าวว่าประเด็นที่องค์การแ อมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลรวบรวมเป็ นรายงานประจำปีนั้น มีบางประเด็นมีความก้าวหน้า เช่น ประเด็นสิทธิในการแต่งงานขอ งคนรักเพศเดียวกัน ซึ่งปีที่ผ่านมา มี 4 ประเทศที่ให้การรับรองการแต ่งงานของคู่รักเพศเดียวกัน ซึ่งจนถึงขณะนี้มีประเทศที่ รับรองสิทธิคู่แต่งงานเพศเด ียวกัน 20 ประเทศแล้ว
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ของประเทศไทยนั้นย ังมีกรณีที่เป็นปัญหาในทุกด ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การพิจารณาคดีที่ไม่เป็นธรร ม และการปิดกั้นความเห็นที่แต กต่าง ขณะที่การขัดแย้งกันด้วยอาว ุธนั้นสังคมไทยอาจจะลดความส นใจไปแล้ว แต่ความขัดแย้งที่รุนแรงใช้ อาวุธนั้นยังดำรงอย่างต่อเน ื่องในภาคใต้ของประเทศไทย
นางแซมพา พาเทล ผู้อำนวยการประจำสำนักงานภู มิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต ้และแปซิฟิก ได้กล่าวว่า ถึงการปิดปากผู้แสดงความเห็ นต่างซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้ น โดยยกตัวอย่างประเทศไทย
“ในภูมิภาคเอเชียวันออกเฉีย งใต้ เราเห็นแนวโน้มการเพิ่มขึ้น ของการจำกัดสิทธิในการแสดงอ อกและการชุมนุมอย่างสงบ มีการใช้อำนาจอย่างป่าเถื่อ นเพื่อปิดปากผู้แสดงความเห็ นต่างอย่างสงบในไทย”
ในส่วนของวิกฤตผู้ลี้ภัยนั้ น ผู้อำนวยการประจำสำนักงานภู มิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต ้และแปซิฟิกกล่าวว่าในส่วนข องวิกฤตผู้อพยพนั้น อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย ต่างไม่ดำเนินการอย่างเพียง พอเพื่อคุ้มครองผู้ลี้ภัยแล ะผู้อพยพเข้าเมือง
ทั้งนี้ในภาพรวมของ 160 ประเทศทั่วโลก ประเด็นผู้อพยพนั้นแย่ลง และมีอย่างน้อย 113 ประเทศทั่วโลกมีการจำกัดสิท ธิในการแสดงออกและมีการคุกค ามสื่อมวลชน มีผู้พลัดถิ่นจากบ้านเกิดมา กกว่า 60 ล้านคนทั่วโลก และจะต้องพลัดถิ่นริมชายแดน หรือมากกว่านั้น มากกว่า 30 ประเทศทั่วโลกบังคับให้มีกา รลี้ภัยไปยังพื้นที่เสี่ยงแ ละอันตรายต่อชีวิต และไม่น้อยกว่า 36 ประเทศยังมีความรุนแรงเกี่ย วกับกลุ่มติดอาวุธ
ในปี 2558 มีนักปกป้องสิทธิมนุษยชนไม่ น้อยกว่า 156 คนถูกฆาตรกรรมและเสียชีวิตข ณะถูกคุมขัง มากกว่า 61 ปประเทศจับกุมคุมขังนักโทษท างความคิดเพราะการใช้สิทธิแ ละเสรีภาพในการแสดงออก มากกว่า 122 ประเทศมีการทรมานและปฏิบัตอ ย่างโหดร้านยและทารุณต่อประ ชาชนพลเรือน ไม่น้อยกว่า 19 ทั่วโลก เกิดอาชญากรรมสงคราม และไม่น้อยกว่า 55 เปอร์เซ็นต์ของ 160 ประเทศทั่วโลกนั้นมีการพิจา รณาคดีที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย
ทั้งนี้ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลได้เสนอรา ยงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนป ระจำปีให้กับรัฐบาลไทย โดยมีอภิรักษ์ สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง ตัวแทนกระทรวงการต่างประเทศ เป็นตัวแทนรัฐบาล ซึ่งนายอภิรักษ์กล่าวว่า ประเด็นสิทธิมนุษยชนนั้นยัง คงเป็นความท้าทายคนทำงานทั้ งภาครัฐและเอกชน แม้ในหลักการจะมีการยึดมั่น ว่าต้องดำเนินการตามพันธกรณ ีระหว่างประเทศของไทยและกฎห มายไทยที่เกี่ยวข้องแต่เป็น เรื่องที่ต้องพิจารณาในทางป ฏิบัติด้วยว่ามีอะไรตกหล่นไ ปบ้าง
“กระทรวงการต่างประเทศยินดี ที่จะเป็นส่วนหนึ่งของภาครั ฐ ในการทำงานในพันธกรณีระหว่า งประทศของไทย แต่การที่รัฐบาลมองว่าเรื่อ งสิทธิมนุษยชนเป็นเรื่องต่า งประเทศนั้น ผมมีความเห็นว่า จริงๆ สิทธิมนุษยชนเป็นเรื่องของเ รา เป็นเรื่องภายในประเทศ เป็นเรื่องที่หน่วยงานภาครั ฐและเอกชนที่ทำงานร่วมกันอย ่างแข็งขันเพื่อประโยชน์ของ คนไทยในประเทศ ไม่ใช่เรื่องของมาตรฐานฝรั่ งที่จะมาบังคับใช้ในสังคมไท ย”
ภาพจากซ้าย นางปิยนุช โคตรสาร รักษาการผู้อำนวยการองค์การ แอมเนสตี้ อินเตอร์แนชั่นแนล ประเทศไทย นายชำนาญ จันทร์เรือง ประธานกรรมการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย นายอภิรักษ์ สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง ตัวแทนจากกระทรวงการต่างประ เทศ และนางนงภรณ์ รุ่งเพ็ชรวงศ์ รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิแ ละเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม
นายชำนาญ จันทร์เรือง ประธานกรรมการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชันแนล กล่าวในการแถลงรายงานสถานกา
นายชำนาญ กล่าวว่าประเด็นที่องค์การแ
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ของประเทศไทยนั้นย
นางแซมพา พาเทล ผู้อำนวยการประจำสำนักงานภู
“ในภูมิภาคเอเชียวันออกเฉีย
ในส่วนของวิกฤตผู้ลี้ภัยนั้
ทั้งนี้ในภาพรวมของ 160 ประเทศทั่วโลก ประเด็นผู้อพยพนั้นแย่ลง และมีอย่างน้อย 113 ประเทศทั่วโลกมีการจำกัดสิท
ในปี 2558 มีนักปกป้องสิทธิมนุษยชนไม่
ทั้งนี้ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลได้เสนอรา
“กระทรวงการต่างประเทศยินดี
ภาพจากซ้าย นางปิยนุช โคตรสาร รักษาการผู้อำนวยการองค์การ
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น