ก็ "ทหารมีไว้ทำไม" นั่นละ แต่เขียนให้เนียนๆ ขำๆ ว่าถ้าทหารทำตัวอย่างหลัง พค.35 ที่กลับเข้ากรมกอง ปีหนึ่งเอารถถังออกมาครั้งเดียวในงานวันเด็ก เปิดขาย PX ขายต้นไม้ แปลง จปร.เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ฯลฯ ทหารก็น่ารักออก ทหารตัวเป็นๆ ส่วนใหญ่นิสัยดีจะตาย( นี่พูดจริงๆ นะ ผมสัมภาษณ์ทหารมาเยอะ แม้แต่ประวิตรเนี่ย เป็น ผบ.ทบ.ให้สัมภาษณ์พิเศษลงหนังสือพิมพ์ครั้งแรก คือไทยโพสต์แทบลอยด์ ตีพิมพ์แล้วปลื่้มอีกต่างหาก)
"ทหารในอุดมคติ" ควรเป็นเช่นนั้น มีหน้าที่สู้รบป้องกันประเทศ (แม้ไม่เคยรบกับใครมาเกือบ 30 ปี) กับช่วยรัฐบาลเมื่อเกิดมหาสาธารณภัย เช่นสึนามิ น้ำท่วมใหญ่ ปัญหาคือ "อุดมคติของทหาร" ล่ะตรงกันไหม โดยเฉพาะเมื่อสังคมพัฒนาสู่ "อุดมคติประชาธิปไตย" ความจริงคือมันสวนทางกันเลย แม้แต่ประเทศประชาธิปไตย ระบบทหารก็ขัดกับประชาธิปไตย แต่เขามีกลไกจำกัดบทบาททหารไว้ไม่ให้เข้ามายุ่งกับการเมือง (อย่าว่าแต่เข้ามายึดอำนาจ) และมีการตรวจสอบวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมภายนอกเสมอๆ (เช่นสังคมอเมริกันไปไกลถึงขั้นต่อสู้เรื่องสิทธิทหารหญิงทหารเกย์)
"อุดมคติของทหารไทย" ที่เรากำลังเห็นอยู่ในรัฐประหาร 2557 คืออุดมคติความมั่นคงของชาติ ศาสน์ กษัตริย์ แบบ "ความรักชาติมีได้แบบเดียวเท่านั้น" คือต้องคิดเหมือนทหาร ห้ามคิดต่าง ไม่งั้นประเทศจะพัง จะรักษาสถาบันสำคัญไว้ไม่ได้
นี่พูดอย่าง "ให้เกียรติ" เลยนะ ว่ารัฐประหารครั้งนี้ทำด้วยอุดมคติของกองทัพ ไม่ใช่เรื่องตัวบุคคล ไม่ใช่ผลประโยชน์ใคร (ถ้ามีก็คือผลประโยชน์ของทั้งสถาบันกองทัพ ที่มีสิทธิพิเศษต่างๆ ทีมีนายพลได้ 1,400 นาย) กองทัพจึงเป็นปึกแผ่น เพราะถูก "ซ่อม" มาจนคิดเหมือนกัน
แต่กองทัพก็กำลังเอาตัวเองเข้ามาเสี่ยง กับการบริหารประเทศไม่เป็น บริหารด้วยทัศนะทหาร มองประชาธิปไตย มองประชาชน ด้วยทัศนะทหาร แล้วก็หาทางลงไม่ได้ คิดแต่ว่าจะใช้อำนาจครอบไว้ อีก 4-5 ปี จะวางยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี หวังแปลงประเทศเป็นค่ายทหาร มันจะเป็นไปได้ยังไง
000000
ทหารในอุดมคติ คอลัมน์ ใบตองแห้ง
ทหารมีไว้ทำไม โธ่ ถามได้ ทหารก็มีไว้สู้รบป้องกันประเทศไง ถึงแม้ทหารไทยไม่เคยสู้รบศัตรูภายนอก มาเกือบ 30 ปี ตั้งแต่สมัยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เหรียญรามมาลาเข็มกล้ากลางสมร
อ้อ อ้อ ทหารยังมีไว้ช่วยกู้ภัย เหมือนตอนน้ำท่วมธรรมศาสตร์รังสิต ไม่ได้ทหารช่วยก็จมหายไปแล้ว ไอ้พวกนักศึกษาไม่รู้จักบุญคุณ
ทหารเป็นพระเอกของประชาชน โดยเฉพาะหลังพฤษภา 35 ทหารกลับเข้ากรมกอง เอารถถังออกมาแค่ปีละครั้งงาน วันเด็ก ทหารเปิดตัวเข้าหาประชาชน เปิดค่ายทหารเป็นแหล่งท่องเที่ยว เปิด PX ขายต้นไม้ ฯลฯ นายพลนายพันทำตัวเป็นคนชั้นกลางทั่วไป ไม่ใหญ่คับเหมือนอดีต
"ทหารในอุดมคติ" นี่น่ารักนะครับ ทหารตัวเป็นๆ ส่วนใหญ่น่าคบ จริงใจ สุภาพบุรุษ ถึงไหนถึงกัน ยุคหนึ่งสมัยหนึ่ง มาเฟียทหารจึงรุ่งเรือง เพราะใจถึงพึ่งได้ ลูกผู้ชายไม่ตระบัด
อ๊ะอ๊ะ ไหงเปรียบภาพลบ แต่นี่ไงทหารมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี กระทั่งเป็นมาเฟียยังเครดิตดี วัฒนธรรมทหารสอนให้ตรงไปตรงมา "ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน" บางเรื่องทำผิดก็ต้องปกป้อง ไม่งั้นจะไปรบไปตายด้วยกันได้ไง การเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง อย่างน้อยระดับกรมไม่มีคำว่าเส้นสาย เป็น ไปตามความสามารถและลำดับรุ่น คนเก่งจริงเท่านั้นถึงได้ เป็น ผบ.ร้อย ผบ.พัน นอกนั้นถูกส่งไปหิ้วกระเป๋าใบเดียว นั่งโต๊ะ แต่ไม่ต้องน้อยใจได้เป็นนายพลเหมือนกัน ไม่ผู้ชำนาญการก็ผู้ทรงคุณวุฒิ
เรื่องนี้อย่าว่ากัน ทหารมีเกียรติมีศักดิ์ศรี พลีชีพเพื่อชาติ บั้นปลายจะให้ต๊อกต๋อยได้ไง สมัยทักษิณยังบอก เพื่อน ตท.10 ใครยังไม่ได้เป็นนายพลบ้าง จดชื่อมา เราจึงมีนายพล 1,400-1,500 นาย (ต้องโทษทักษิณ)
คำถามคือ "ทหารในอุดมคติ" กับ "อุดมคติของทหาร" ตรงกันหรือเปล่า บางส่วนตรงกัน แต่บางส่วนก็ไม่ตรง ยิ่ง ถ้าเป็น "อุดมคติประชาธิปไตย" ก็มีบางอย่างสวนทางสิ้นเชิง แม้แต่ทหารในประเทศประชาธิปไตย
เพราะทหารไม่ได้ถูกฝึกมาให้เป็นประชาธิปไตย ทหารถูกฝึกมาให้เชื่อฟังคำสั่ง มีวินัย ห้ามโต้แย้ง ค่ายทหารไม่ใช่มหาวิทยาลัย ค่ายทหารเป็นที่ฝึกคนไปตาย (เพื่อชาติ) โรงเรียนทหารไม่ใช่ที่ถกปรัชญา เดี๋ยวฟุ้งซ่าน ถ้าจะสอนคือศาสนา ทำจิตใจให้เด็ดเดี่ยว กองทัพไม่ใช่สถานอบรมสิทธิมนุษยชน เพราะต้อง "ซ่อม" จนหมอบคลานจึงมีศักดิ์ศรีความเป็นทหาร
นี่จึงประหลาดอยู่เหมือนกัน ที่เราเห็น พล.ต.สรรเสริญ พล.ต.วีรชน พ.อ.วินธัย เที่ยวอธิบายหลักเสรีภาพประชาธิปไตยให้ประชาชนเชื่อฟัง
อุดมคติทหารไทยตีกรอบให้ยึดมั่นความมั่นคงของชาติ ศาสน์ กษัตริย์ (เมื่อก่อนเคยมีคำว่ารัฐธรรมนูญ) "ความรักชาติมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น" ทหารถูกบ่มเพาะให้คิดเหมือนกัน เชื่อว่าคนในสังคมควรคิดเหมือนกัน พร้อมกับเชื่อว่าทหารรักชาติกว่า เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพเหนือกว่าประชาชนทั่วไป
ทหารที่อยู่บ้านหลวง ใช้รถหลวง น้ำมันหลวง มีโรงพยาบาล มีสนามกอล์ฟของตัวเอง ถ้าเป็นนายพลมีสิทธิพิเศษ บางตำแหน่งมีพลขับ มีทหารรับใช้ตลอดชีวิต ฯลฯ จึงตาสว่างกว่าชาวบ้านโง่ๆ ที่หลงใหลได้ปลื้มประชานิยม 30 บาท กองทุนหมู่บ้าน ฯลฯ เลือกนักการเมืองโกงเข้ามามีอำนาจ
ทหารจึงมีเมตตา สอนชาวนาให้ปฏิรูป ทำไมต้องปลูกข้าว ทำไมไม่ปลูกหมามุ่ย ทำไมไม่เชื่อฟังกันมั่ง ไม่เห็นหรือ ค่ายทหารปลูกต้นไม้ขายเพียบเลยนะ ปลูกผักอินทรีย์ก็เยอะ
การที่ทหารเชื่อว่าตนมีหน้าที่ปกครองประชาชนด้วยไม่ใช่อุดมคติใหม่ เพราะกองทัพไทยยังอยู่ในโครงสร้างเดิมสมัยสงครามเย็น ไม่เคยผ่านการ "ปฏิรูป" กองทัพดูแลความมั่นคงภายใน ทำงานกิจการพลเรือน ปฏิบัติการจิตวิทยาต่อสู้กับพคท. แม้พคท.สูญพันธุ์ไปเกือบ 30 ปี หน่วยงานเหล่านี้ ก็ยังอยู่ ยศตำแหน่งยังอยู่ วิทยุทีวีก็ยังอยู่ โดยไม่เคยมีใครถามว่านี่ใช่ภารกิจทหารหรือไม่
รัฐประหาร 2557 เป็น "รัฐประหารในอุดมคติของกองทัพ" ทหารจึงเป็นปึกแผ่นมั่นคง ไม่ใช่เรื่องตัวบุคคล ไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ใคร ถ้าจะมีก็คืออำนาจและผลประโยชน์ของสถาบันกองทัพ ที่เชื่อว่าตนเป็นเสาค้ำชาติ จึงต้องติดตั้งโปรแกรมให้ประเทศอยู่ใต้อุดมคติทหารอีก 20 ปี
แต่นี่คือจุดที่จะเกิดคำถาม อุดมคติของทหาร ใช่อุดมคติของประเทศ ใช่อุดมคติประชาธิปไตยที่จะทำให้สังคมอยู่ร่วมกันได้หรือไม่ คนจำนวนมากอาจยอมรับ ที่กองทัพเข้ามารักษาความสงบ "ชั่วคราว" แต่ยินดีไหม ที่จะให้ "ค้างคืน" ยาวๆ และตั้งโปรแกรมประเทศไว้ ตลอดไป
source : - FB Atukkit Sawangsuk & http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1456496158
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น