นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเบิกความคดีจำนำข้าว ชี้โครงการระบายข้าวไทย-จีน เป็น “จีทูจีปลอม”
นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเบิกความสัญญาซื้อขายข้าวไทย-จีนเป็นจีทูจี ปลอม รัฐบาลรวบซื้อเกินกว่าอัตราการส่งข้าวออกปกติ ย้ำการลงนามจีทูจี เกี่ยวข้องกับนายกรัฐมนตรีโดยตรง ด้านศาลยุติธรรมออกเอกสารขอความร่วมมือผู้เกี่ยวข้องงดการวิเคราะห์หรือให้สัมภาษณ์สื่อเกี่ยวกับคำให้การพยานในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ชี้มีการให้ข้อมูลบิดเบือนจากข้อเท็จจริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (26 ก.พ.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นจำเลยในคดีโครงการรับจำนำข้าว ได้เดินทางไปรับฟังการสืบพยานโจทก์ครั้งที่ 3 ที่ศาลฎีกา และเดินทางกลับทันทีโดยไม่ให้สัมภาษณ์ ซึ่งศาลจะจัดสืบพยานอีกครั้งในวันที่ 4 และ 26 มี.ค.นี้
ด้านสำนักข่าวไทยรายงานว่า ในการสืบพยานโจทก์ นายวิชัย ศรีประเสริฐ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เบิกความชี้แจงตอนหนึ่งว่าโครงการระบายข้าวแบบจีทูจี ของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ กับรัฐบาลจีน เป็น “จีทูจีปลอม” เนื่องจากมีบุคคลที่แอบอ้างว่าเป็นตัวแทนของรัฐบาลจีนที่เป็นคนไทย และมีการนำข้าวที่รับซื้อจากรัฐบาลมาหมุนเวียนภายในประเทศ พิจารณาจากอัตราการส่งข้าวปกติ ที่เฉลี่ยปีละประมาณ 10-11 ล้านตันต่อปี ขณะที่ รัฐบาลรับซื้อข้าวเปลือกไปแล้วกว่า 13 ล้านตัน แต่กลับมีข้าวที่ยังหมุนเวียนอยู่ในประเทศ จนทำให้มีผู้ส่งออกบางรายยังคงสามารถส่งออกข้าวไปยังต่างประเทศได้
นายวิชัย กล่าวอีกว่า ข้อบ่งชี้อีกประการหนึ่งคือสัญญานี้อ้างว่า จีนรับซื้อข้าวเก่าจากไทยจำนวน 2 ล้านตัน ทั้งที่ผ่านมาประเทศจีนไม่เคยรับซื้อข้าวเก่า เพราะเป็นธรรมเนียมของชาวจีน ที่จะบริโภคเฉพาะข้าวใหม่เท่านั้น ส่วนการเซ็นสัญญาจีทูจีปลอมเกี่ยวข้องกับนายกรัฐมนตรี เนื่องจากอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศได้เซ็นสัญญากับตัวแทนรัฐบาลจีน โดยขอความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งทำตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีโดยตรง
สำนักข่าวไทยรายงานอีกว่า ทนายจำเลยได้ซักถามพยานฝ่ายโจทก์อีกปากคือนาย ระวี รุ่งเรือง เครือข่ายชาวนาไทย เพื่อชี้ให้ศาลเห็นว่าพยานมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของกลุ่ม กปปส. และมีความใกล้ชิดกับพรรคประชาธิปัตย์ และการออกมาเรียกร้องเงินในโครงการรับจำนำข้าว ยังหวังผลในการลงสมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่นด้วยหรือไม่ ซึ่งนายระวีปฏิเสธว่าไม่เคยคิดลงเล่นการเมืองอีก หลังจากพ้นตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล และการเคลื่อนไหว ในฐานะแกนนำของกลุ่มชาวนา เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือชาวนาภาพรวมไม่ใช่ประโยชน์ส่วนตัว และต้องการให้มีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็ม อนุมัติเงินให้กับชาวนาได้
ทนายจำเลยยังพยายามชี้ให้ศาลเห็นว่าโครงการจำนำข้าวมีมาตรการป้องกันการปราบปรามการทุจริตอย่างเต็มที่และพยายามหาช่องทางนำเงินมาจ่ายให้ชาวนาแต่ติดช่วงของการเป็นรัฐบาลรักษาการ #ThaiRicePledgingScheme
Loading video.....
Posted by บีบีซีไทย - BBC Thai on Friday, February 26, 2016
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น