0
เครือข่ายประชาชนจากหลายจังหวัด เตรียมชุมนุมยืดเยื้อ เรียกร้องรัฐบาลให้ยกเลิกคำสั่ง คสช.ว่าด้วยการยกเว้นกฎหมายผังเมือง

ช่วงสายวันนี้ เครือข่ายประชาชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน จาก จ.สงขลา กระบี่ ปทุมธานี และจันทบุรี กว่าร้อยคน เดินทางมาที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับทำเนียบรัฐบาล เพื่อมาทวงคำตอบจากรัฐบาลให้ยกเลิกคำสั่ง คสช.ฉบับที่ 3/2559 เรื่อง การยกเว้นการใช้บังคับกฎหมาย ว่าด้วยการผังเมืองและกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ และคำสั่ง คสช.ฉบับที่ 4/2559 เรื่อง การยกเว้นการใช้บังคับกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมสำหรับการประกอบกิจการบางประเภท โดยประชาชนกลุ่มแสดงความกังวลว่าประกาศทั้ง 2 ฉบับจะเปิดโอกาสให้กับการสร้างโรงไฟฟ้าและโรงงานอุตสาหกรรมผุดทั่วประเทศ

ประชาชนกลุ่มนี้เตรียมชุมนุมยืดเยื้อ ขณะนี้เตรียมปักหลักที่วัดโสมนัสวรวิหาร ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากทำเนียบรัฐบาล

นายอัครเดช ฉากจินดา ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน กล่าวกับบีบีซีไทยว่า ไม่ต้องการให้โรงไฟฟ้ามาทำลายความอุดมสมบูรณ์ และหากคำสั่ง คสช.ให้ยกเลิกกฎหมายผังเมือง โรงไฟฟ้ากระบี่ที่จะตั้งในพื้นที่อนุรักษ์จะเกิดขึ้น และการต่อสู้คัดค้านโรงไฟฟ้าของชาวกระบี่ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาก็จะสูญเปล่า

ขณะที่ตัวแทนชาวบ้านจาก ต.เชียงรากใหญ่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่กำลังมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าจากขยะ เดินทางมาร่วมด้วยราว 60 คน โดยแสดงความกังวลว่า หากมีโรงผลิตไฟฟ้าจากขยะจะมีรถบรรทุกนำขยะจากที่ต่างๆ จำนวนกว่า 1,800 ตันวิ่งผ่านชุมชนทุกวัน และมีความกังวลเกี่ยวกับมลพิษจากโรงเผาขยะในเรื่องของกลิ่น ควัน และน้ำเสียที่รั่วไหลลงแหล่งน้ำ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออาชีพชาวสวนผักซึ่งเป็นอาชีพหลักของชาวบ้าน รวมถึงมีความกังวลว่าจะมีการนำขยะอุตสาหกรรมจากนิคมอุตสาหกรรมที่อยู่บริเวณเคียงมากำจัดด้วย นอกจากนี้ยังเห็นว่าพื้นที่ตั้งของโรงไฟฟ้าไม่เหมาะสม เนื่องจากอยู่ห่างจากโรงสูบน้ำสัมแล เพียง 1 กิโลเมตร ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบคุณภาพดีสำหรับส่งมาผลิตเป็นน้ำประปาให้กับชาวกรุงเทพฯ และขณะนี้ประเด็นเรื่องโรงไฟฟ้าจากขยะยังสร้างความแตกแยกให้กับคนในชุมชนระหว่างฝ่ายที่สนับสนุนและฝ่ายที่คัดค้านอีกด้วย

ในส่วนของกิจกรรมมีการแถลงการณ์ของเครือข่ายถึงเหตุผลที่เรียกร้องให้ยกเลิกคำสั่งของ คสช.ทั้งสองฉบับ เนื่องจากเห็นว่าจะทำให้เกิดการแย่งชิงทรัพยากรและนำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรงมากขึ้น รวมทั้งจะเกิดโครงการพัฒนาที่ไม่จำเป็นต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมของพื้นที่อีกต่อไป และเป็นการย้อนประเทศไทยกลับสู่ยุคการพัฒนาเมื่อ 40 ปีที่แล้วที่มุ่งเน้นการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศให้เข้ามาใช้ทรัพยากรธรรมชาติของไทย แถลงการณ์ยังกล่าวด้วยว่า การยกเลิกกติกา กลไก และกฎหมายเพื่อตอบสนองความรวดเร็วในการลงทุน เป็นการทำลายเกราะป้องกันของประชาชน ทำให้ประชาชนไม่มีทางเลือก นอกจากการลุกขึ้นมาปกป้องตัวเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การชุมนุมวันนี้ ไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐออกมารับฟังข้อเสนอ


แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 
Top