มัสยิดหญิงล้วนในจีน
เมืองไคเฟิง หรือไคฟง ในมณฑลเหอหนาน ของจีน ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงเก่าแก่ของราชวงศ์ซ่ง เมื่อกว่า 1,000 ปีก่อน เป็นสถานที่ตั้งของมัสยิดหญิงล้วนในจีน ไมเคิล วู้ด ผู้สื่อข่าวบีบีซี บอกว่า จีนเป็นประเทศที่รับเอาศาสนาอิสลามเข้ามาอย่างช้านาน และมัสยิดหญิงล้วนก็ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของที่นี่ ซึ่งทำหน้าที่ในการอนุรักษ์ศาสนาอิสลามและเป็นแหล่งให้การศึกษาแก่ผู้หญิงที่นี่
จีนถือเป็นประเทศนอกดินแดนตะวันออกใกล้ที่มีชุมชนชาวมุสลิมเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่ง โดยศาสนาอิสลามแผ่ขยายเข้าไปในจีนพร้อมๆกับศาสนาคริสต์ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 7 เมืองไคเฟิงเป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางศาสนา เพราะมีทั้งชุมชนชาวพุทธ ชาวคริสต์ ชาวยิว ผู้นับถือลัทธิเต๋า และผู้นับถือศาสนาอิสลาม
ผู้สื่อข่าวบีบีซีบอกว่า สิ่งที่น่าทึ่งมากที่สุดในเมืองนี้คือ มัสยิดหญิงล้วนที่มีอิหม่ามหญิงเป็นผู้นำ ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของชุมชนชาวมุสลิมในจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมณฑลเหอหนาน โดยในเมืองไคเฟิงมีมัสยิดหญิงล้วนอยู่หลายสิบแห่ง เช่นเดียวกับในมณฑลยูนนาน และทางภาคเหนือของจีนด้วย อย่างไรก็ตามไม่มีมัสยิดแบบนี้ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ที่คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามนิกายซุนนี แบบในแถบเอเชียกลาง
สำหรับมัสยิดหญิงล้วนที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองไคเฟิงมีชื่อว่า มัสยิดตรอกหวังเจีย ซึ่งก่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1820 มัสยิดแห่งนี้มีอิหม่ามหญิงที่ชื่อ กั่ว จิงฝาง เป็นผู้นำและสอนให้ผู้หญิงที่นี่อ่านคัมภีร์อัลกุรอาน โดยเธอได้รับการฝึกฝนจากบิดาที่เป็นอิหม่ามประจำมัสยิดชายล้วนที่อยู่ใกล้ ๆกัน
สำหรับที่มาของมัสยิดหญิงล้วนในจีนนั้น ต้องย้อนกลับไปในสมัยราชวงศ์หมิง ช่วงปลายคริสต์ทศวรรษ 1300 ซึ่งชาวมุสลิมตกเป็นชนกลุ่มน้อยที่ถูกกดขี่ข่มเหง เพราะราชวงศ์หมิงดำเนินนโยบายต่อต้านผู้ที่ไม่ใช่ชาวฮั่น อาทิ ห้ามชาวมุสลิมแต่งงานกันเอง แต่ให้ไปแต่งงานกับชาวฮั่นแทน ส่งผลให้ช่วงศตวรรษที่ 15 เป็นช่วงเวลาเลวร้ายที่สุดของชาวจีนที่นับถือศาสนาอิสลาม แต่สถานการณ์เริ่มดีขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 16 ทำให้เริ่มมีการฟื้นฟูวัฒนธรรมและการศึกษาเกี่ยวกับศาสนาอิสลาม ซึ่งในช่วงนี้เองชายชาวมุสลิมเริ่มเล็งเห็นว่า ผู้หญิงมีบทบาทสำคัญในการอนุรักษ์และสืบสานศาสนาอิสลาม ด้วยเหตุนี้จึงเกิดมัสยิดหญิงล้วนขึ้นในจีน ซึ่งไม่เพียงจะถูกใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา แต่ยังเป็นสถานที่ให้การศึกษาแก่ผู้หญิง โดยเฉพาะผู้ที่ยากจนอีกด้วย
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น