ทีมข่าวบีบีซีเปิดปมผู้ลี้ภัยชาวคริสเตียน ปากีสถานในประเทศไทย เข้าเมืองผิดกฎหมายอยู่อย่างแร้นแค้น แถมถูกจับต้องโทษจำคุกสุดแออัดและสกปรกวันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 20:47 น.
เว็บไซต์ข่าวต่างประเทศ “บีบีซี” รายงานจากกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 ก.พ.ว่า ผู้ลี้ภัยเหล่านี้เดินทางเข้าประเทศไทย เพราะเป็นประเทศที่เข้าง่ายด้วยการขอวีซ่านักท่องเที่ยว ระยะสั้น แต่ไทยเป็นประเทศที่ไม่ต้องการจะรับผู้อพยพแล้ว และไทยก็ไม่ได้เข้าเป็นภาคี ของอนุสัญญาสถานภาพผู้ลี้ภัย ทำให้ผู้ลี้ภัยคนใดที่เข้ามาในประเทศแล้วพบว่า วีซ่าหมดอายุหรือไม่มีบัตรอนุญาตทำงานก็เสี่ยงที่จะถูกจับกุม ตั้งข้อหาลักลอบเข้าเมืองและถูกส่งไปคุมขังที่หน่วยงานตรวจคนเข้าเมือง
รัฐบาลไทยได้อนุญาตให้ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) เข้ามาตรวจสอบและแก้ไขกรณีผู้ลี้ภัยที่กำลังอยู่ในสภาพผิดกฎหมายในประเทศ โดยจะมีทางออกที่เป็นไปได้สองทางคือ ถูกส่งกลับประเทศหรือถูกส่งต่อไปยังประเทศที่สาม อย่างไรก็ตาม กระบวนการเหล่านี้มักเต็มไปด้วยความล่าช้า ทำให้ผู้ลี้ภัยจำเป็นต้องติดอยู่ที่ไทย เพื่อรอการดำเนินการของยูเอ็นเอชซีอาร์ ในสภาพแร้นแค้น ไม่มีงานทำ ไม่มีการศึกษาและสวัสดิการเพื่อสุขภาพ พวกเขามักพึ่งพาเงินบริจาคจากองค์กรคริสเตียนเท่านั้น
ด้านรัฐบาลไทยก็หมดความอดทนกับการทำงานของยูเอ็นเอชซีอาร์ ดำเนินการเข้าจับกุมผู้ลี้ภัยที่อาศัยอยู่อย่างผิดกฎหมาย ในประเทศไปขึ้นศาลท้องถิ่น ใส่กุญแจมือ ถูกตั้งข้อหาเข้าเมืองผิดกฎหมาย ซึ่งจะต้องจ่ายค่าปรับ 4,000 บาท จากนั้นจะถูกส่งตัวไปที่ห้องกักของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (Immigration Detention Centre- IDC)
นายคริส โรเจอร์ส ผู้สื่อข่าวของบีบีซี เผยว่า การจับกุมไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้น หากผู้ลี้ภัยถือบัตรอนุญาตของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้รับการยอมรับจากยูเอ็น แต่บางครั้งเจ้าหน้าที่ก็จับกุมคนเหล่านี้ไปหมด
ด้านยูเอ็นเอชซีอาร์ก็ยอมรับว่า ทางหน่วยงานก็กำลังกระเสือกกระสนหาทางออกสำหรับเรื่องนี้ เพราะเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัยเองก็อยู่ในขั้นวิกฤติ แต่อย่างน้อยทางหน่วยงานก็ได้ปกป้องผู้ลี้ภัยมากกว่า 400 ราย ไม่ให้ถูกตำรวจไทยจับกุมในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ รัฐบาลไทยเองก็โวยการทำงานของยูเอ็นว่าล่าช้า ทำให้ไทยตกอยู่ในความเสี่ยงหากผู้ลี้ภัยเหล่านี้ มีผู้ก่อการร้ายแฝงตัวมาด้วย ดังนั้นตำรวจจึงจำเป็นต้องเข้าจับกุมพวกที่ทำผิดกฎหมายในช่วงที่ผ่านมา
ทีมงานบีบีซีได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมผู้ลี้ภัยที่ถูกขุมขังอยู่ในเรือนจำ ที่มีสภาพแออัดมาก พวกเขามักยื่นหน้ามาแนบลูกรง เพื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ที่เข้าไป ผู้ลี้ภัยชายมักเปลือยท่อนบนเนื่องจากอากาศร้อน เด็กและผู้หญิงถูกขังอยู่รวมกัน โดยที่เด็กบางคนมีอาการท้องร่วงเพราะความสกปรกของสภาพที่อยู่และน้ำดื่ม เจ้าหน้าที่จากทางการไทยกล่าวว่า พ่อแม่ของเด็กเลือกที่จะให้เด็กอยู่ในที่กักขังร่วมกับตนเอง ซึ่งอันที่จริงเป็นเรื่องผิด ตามกฎหมายระหว่างประเทศที่ไทยเคยลงนามไว้กับยูเอ็น เนื่องจากไม่สามารถกักขังเด็กในที่ที่มีผู้ใหญ่รวมอยู่ด้วย
ปัจจุบันไทยยังไม่มีตัวเลขที่แน่ชัดว่าผู้ลี้ภัยที่ถูกจับมามีจำนวนเท่าไร มีแต่การประเมินคร่าวๆว่า อาจสูงถึง 11,500 ราย เป็นรองก็แต่เมียนมาเท่านั้น..
ขอบคุณภาพจาก BBC
รัฐบาลไทยได้อนุญาตให้ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) เข้ามาตรวจสอบและแก้ไขกรณีผู้ลี้ภัยที่กำลังอยู่ในสภาพผิดกฎหมายในประเทศ โดยจะมีทางออกที่เป็นไปได้สองทางคือ ถูกส่งกลับประเทศหรือถูกส่งต่อไปยังประเทศที่สาม อย่างไรก็ตาม กระบวนการเหล่านี้มักเต็มไปด้วยความล่าช้า ทำให้ผู้ลี้ภัยจำเป็นต้องติดอยู่ที่ไทย เพื่อรอการดำเนินการของยูเอ็นเอชซีอาร์ ในสภาพแร้นแค้น ไม่มีงานทำ ไม่มีการศึกษาและสวัสดิการเพื่อสุขภาพ พวกเขามักพึ่งพาเงินบริจาคจากองค์กรคริสเตียนเท่านั้น
ด้านรัฐบาลไทยก็หมดความอดทนกับการทำงานของยูเอ็นเอชซีอาร์ ดำเนินการเข้าจับกุมผู้ลี้ภัยที่อาศัยอยู่อย่างผิดกฎหมาย ในประเทศไปขึ้นศาลท้องถิ่น ใส่กุญแจมือ ถูกตั้งข้อหาเข้าเมืองผิดกฎหมาย ซึ่งจะต้องจ่ายค่าปรับ 4,000 บาท จากนั้นจะถูกส่งตัวไปที่ห้องกักของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (Immigration Detention Centre- IDC)
นายคริส โรเจอร์ส ผู้สื่อข่าวของบีบีซี เผยว่า การจับกุมไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้น หากผู้ลี้ภัยถือบัตรอนุญาตของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้รับการยอมรับจากยูเอ็น แต่บางครั้งเจ้าหน้าที่ก็จับกุมคนเหล่านี้ไปหมด
ด้านยูเอ็นเอชซีอาร์ก็ยอมรับว่า ทางหน่วยงานก็กำลังกระเสือกกระสนหาทางออกสำหรับเรื่องนี้ เพราะเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัยเองก็อยู่ในขั้นวิกฤติ แต่อย่างน้อยทางหน่วยงานก็ได้ปกป้องผู้ลี้ภัยมากกว่า 400 ราย ไม่ให้ถูกตำรวจไทยจับกุมในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ รัฐบาลไทยเองก็โวยการทำงานของยูเอ็นว่าล่าช้า ทำให้ไทยตกอยู่ในความเสี่ยงหากผู้ลี้ภัยเหล่านี้ มีผู้ก่อการร้ายแฝงตัวมาด้วย ดังนั้นตำรวจจึงจำเป็นต้องเข้าจับกุมพวกที่ทำผิดกฎหมายในช่วงที่ผ่านมา
ทีมงานบีบีซีได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมผู้ลี้ภัยที่ถูกขุมขังอยู่ในเรือนจำ ที่มีสภาพแออัดมาก พวกเขามักยื่นหน้ามาแนบลูกรง เพื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ที่เข้าไป ผู้ลี้ภัยชายมักเปลือยท่อนบนเนื่องจากอากาศร้อน เด็กและผู้หญิงถูกขังอยู่รวมกัน โดยที่เด็กบางคนมีอาการท้องร่วงเพราะความสกปรกของสภาพที่อยู่และน้ำดื่ม เจ้าหน้าที่จากทางการไทยกล่าวว่า พ่อแม่ของเด็กเลือกที่จะให้เด็กอยู่ในที่กักขังร่วมกับตนเอง ซึ่งอันที่จริงเป็นเรื่องผิด ตามกฎหมายระหว่างประเทศที่ไทยเคยลงนามไว้กับยูเอ็น เนื่องจากไม่สามารถกักขังเด็กในที่ที่มีผู้ใหญ่รวมอยู่ด้วย
ปัจจุบันไทยยังไม่มีตัวเลขที่แน่ชัดว่าผู้ลี้ภัยที่ถูกจับมามีจำนวนเท่าไร มีแต่การประเมินคร่าวๆว่า อาจสูงถึง 11,500 ราย เป็นรองก็แต่เมียนมาเท่านั้น..
ขอบคุณภาพจาก BBC
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น