ข้อตกลงว่าด้วยภูมิอากาศที่กรุงปารีส อาจทำให้ผู้คนนับล้านต้องพลัดถิ่น
ผลการวิเคราะห์พบว่า ข้อตกลงว่าด้วยภูมิอากาศที่กรุงปารีส อาจส่งผลให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในป่านับล้านคนต้องอพยพโยกย้ายจากถิ่นฐาน เนื่องจากประเทศกำลังพัฒนาจำนวนมากซึ่งพยายามลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตามข้อตกลงดังกล่าว จะใช้วิธีกันพื้นที่ป่าจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ แต่ผู้เชี่ยวชาญกังวลว่า การตั้งอุทยานแห่งชาติมักต้องโยกย้ายประชาชนที่อาศัยทำมาหากินอยู่ในป่ามาเป็นเวลานานออกไป
ผลการศึกษาบ่งชี้ว่าแผนการกำหนดเขตป่าสงวนของรัฐบาลไลบีเรีย ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนจากนอร์เวย์ จะส่งผลกระทบต่อผู้อาศัยอยู่ในพื้นที่ป่า 335,000 คน ในขณะที่แผนการของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนจากเยอรมนีและสำนักงานสิ่งแวดล้อมโลก ก็จะส่งผลกระทบต่อประชาชนมากถึงหนึ่งล้านคน
แอนดี้ ไวท์ แห่งองค์กรความริเริ่มด้านสิทธิและทรัพยากร ซึ่งสนับสนุนเงินทุนวิจัยครั้งนี้กล่าวว่า รัฐบาลหลายชาติได้ตั้งเป้าหมายจะขยายพื้นที่คุ้มครอง และในเมื่อได้รับเงินสนับสนุนด้วย จึงมีความเสี่ยงที่จะดำเนินการลงไปโดยไม่เคารพสิทธิของผู้อยู่อาศัยในท้องถิ่นมาแต่เดิม จึงมีความจำเป็นจะต้องทำให้ทุกฝ่ายเห็นว่า ในป่านั้นก็เต็มไปด้วยผู้คน และการช่วยพวกเขามีเหตุผลสมควรกว่าการไล่ออกไป
นักวิเคราะห์ยังระบุว่า การอพยพโยกย้ายประชาชนเช่นนี้ได้เกิดขึ้นแล้วในแอฟริกาแถบทะเลทรายซาฮารา รวมทั้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และละตินอเมริกา ซึ่งบางครั้งนำไปสู่ความขัดแย้งขั้นรุนแรง ทั้งนี้ ประชาคมนานาชาติต้องยอมรับว่า ชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ในป่ามาหลายร้อยปีเหล่านี้คือผู้ที่เคารพและสงวนรักษาป่าตัวจริง ทำให้ไลบีเรียมีพื้นที่ป่าไม้เหลืออยู่มากที่สุดในแอฟริกาตะวันตก
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น