ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (5 กุมภาพันธ์) เกิดเหตุระทึกไฟไหม้อาคารที่พัก 9 ชั้น ซ.นราธิวาสฯ 18 โดย “มูลนิธิร่วมกตัญญู” ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารพักอาศัยซึ่งเพลิงกำลังลุกลาม มีรายงานว่าต้นเพลิงเกิดบริเวณชั้น 3 อยู่ระหว่างลุกลามชั้น 4 เบื้องต้นได้รับแจ้งยังมีคนติดอยู่บนอาคาร รถดับเพลิงและหน่วยบรรเทาสาธารณภัยกำลังเร่งช่วยเหลือ ล่าสุด จนท.ห้องฉุกเฉิน รพ.เลิดสิน เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็น หญิง 1 ราย และบาดเจ็บหลายราย
ด้าน ร.ต.อ.วัชระ แสงเพชร ร้อยเวร สน.บางโพงพาง รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้อาคาร หลังรับแจ้งรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมประสานงานกับรถดับเพลิง รถกระเช้า เนื่องจากที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 10 ชั้น พบว่ามีกลุ่มควันสีดำและแสงเพลิงเกิดขึ้นที่บริเวณชั้น 3 แล้วลุกลามขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยที่เกิดเหตุเป็นซอยแคบเจ้าหน้าที่ไม่สามารถปฏิบัติงานได้สะดวก ทำได้เพียงต่อสายน้ำฉีดเพื่อสกัดกั้นเพลิงไม่ให้ลุกลาม แต่ไม่สามารถฉีดไปยังจุดเกิดเหตุได้ จึงได้ใช้รถกระเช้ายกตัวขึ้นไปยังจุดเกิดเหตุ แต่เกิดปัญหาจากแรงดันน้ำไม่พอ ขณะเดียวกันทราบว่ามีผู้ติดค้างอยู่บนอาคารและได้ออกมายืนขอความช่วยเหลือที่บริเวณริมระเบียงชั้น 7 ทราบชื่อคือนางอังคณา อัยศิริ อายุประมาณ 65 ปี หรืออาม่าได้ร้องขอความช่วยเหลือ โดยช่วงนั้นแสงเพลิงเริ่มถึงรอบตัวนางอังคณา ประมาณ 20 นาที ก่อนที่นางอังคณาจะทรุดตัวลงที่ริมระเบียง โดยมีญาติๆ ที่หนีออกมาได้ต่างตะโกนกรีดร้องขอความช่วยเหลือนางอังคณา บางคนถึงกับเป็นลมฟุบอยู่บริเวณข้างถนน
โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับที่เกิดเหตุเป็นที่พักอาศัย อยู่เป็นครอบครัวใหญ่ ประกอบกิจการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์โรงแรมที่เชียงราย และก่อนเกิดเหตุได้ไหว้เจ้าที่บริเวณชั้น 3 จากนั้นได้ลงมาที่ชั้นล่างโดยไม่มีใครอยู่ จากนั้นไฟได้ลุกไหม้จนเกิดเหตุสลดขึ้น โดยเบื้องต้น ศูนย์วิทยุแจ้งว่าเป็นบ้านของนายวิกรม อัยศิริ เป็นอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์
วันเดียวกัน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้โพสภาพและข้อความในเฟชบุ๊คส่วนตัวระหว่างพื้นที่ตรวจเหตุเพลิงไหม้ ซอยนราธิวาส 18 ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ดับเพลิง เรากำลังระดมฉีดน้ำ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ติดอยู่ข้างในครับ และตอนนี้มีรายงานว่าเสียชีวิตแล้ว 1 ท่าน”
ด้านนายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ รองปลัด กทม.กล่าวว่า กทม.ได้ตรวจสอบข้อมูลอาคารดังกล่าว พบว่าเจ้าของอาคารได้ยื่นขออนุญาตก่อสร้างในรูปแบบอาคาพักอาศัยรวม ในปี 2548 และได้รับอนุญาตก่อสร้างอย่างถูกต้องจากสำนักการโยธา กทม.ในปี 2549 จากนั้นในปี 2555 เจ้าของอาคารก็ได้ยื่นคำร้องขอดัดแปลงอาคารในส่วนอาคารภายใน ซึ่งก็ได้รับการอนุญาตจากสำนักการโยธา ให้สามารถดำเนินการได้ และอาคารดังกล่าวก็ต้องยื่นการตรวจสอบความปลอดภัยของอาคารเป็นประจำทุกปี จึงถือได้ว่าเป็นอาคารมีความมั่นคงแข็งแรง
“ตามกฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2535 จะกำหนดให้ตัวอาคารต้องมีระบบป้องกันภัย ช่องทางหนีไฟต่างๆ ซึ่งก่อนการก่อสร้างอาคาร จะต้องมีการยื่นแบบอาคารเพื่อขออนุญาต ซึ่งอาคารดังกล่าว ก็ได้ยื่นแบบก่อสร้างอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จึงได้รับอนุญาตในการก่อสร้าง และเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากสภาพของอาคารแต่อย่างใด ซึ่งต้องรอผลการหาสาเหตุอีกครั้ง อย่างไรก็ตามขณะนี้พื้นที่อาคารที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ทางสำนักงานเขตยานนาวา ได้ออกคำสั่ง ห้ามใช้อาคารดังกล่าวโดยเด็ดขาด โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดล้อมพื้นที่ ห้ามไม่ให้ผู้ใดเข้าไปยังพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน อีกทั้งกทม.ได้ประสานไปยังสภาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์(วสท.) เพื่อเข้าตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรง และความปลอดภัยของอาคาร ซึ่งจะเข้าตรวจสอบหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าเก็บหลักฐานในพื้นที่เสร็จสิ้น โดยจะมีการกำหนดวันเข้าตรวจสอบอาคารที่ชัดเจนอีกครั้งต่อไป”นายภัทรุตม์ กล่าว
นายสิริวัฒน์ ไชยชนะ เลขาธิการวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) กล่าวว่า จากข้อมูลพบว่าต้นเพลิงนั้นมาจากชั้น 3 เป็นลักษณะค่อยๆลามขึ้นไป ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งลักษณะเช่นนี้ไม่น่าจะร้ายแรงจนทำให้โครงสร้างของอาคารยุบตัว แต่หากเกิดการเผาไหม้เป็นเวลานานหลายชั่วโมง ก็มีโอกาสที่จะเกิดการยุบตัวของโครงสร้าง อีกทั้งไม่มีการไหม้บริเวณชั้น 1 หรือ 2 ที่ถือเป็นฐานรากอาคาร จึงไม่น่ากังวลเรื่องการยุบตัวของอาคาร
นายสิริวัฒน์ กล่าวว่า ส่วนการเข้าไปตรวจสอบโครงสร้างอาคาร ขณะนี้กรุงเทพมหานคร(กทม.)ได้ประสานมาเป็นที่เรียบร้อย แต่คงไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ เนื่องจากต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและกองพิสูจน์หลักฐานเข้าไปตรวจสอบก่อน และยืนยันความปลอดภัย จึงจะเข้าไปตรวจสอบทางด้านวิศวกรรมได้ คาดว่าเร็วที่สุดน่าเข้าพื้นที่ได้ภายในวันที่ 9 กุมภาพันธ์
ด้านศูนย์เอราวัณ กทม. รายงานข้อมูลผู้บาดเจ็บเพิ่มเติมล่าสุด เมื่อเวลา 16.00 น. ว่า มีผู้บาดเจ็บนำส่งรพ.เจริญกรุงประชารักษ์2ราย รพ.จุฬา 4 ราย รพ.เลิดสิน 2 ราย รวมเป็น 8 ราย โดยเป็นเพศชาย 6 ราย หญิง 2 ราย แพทย์รับไว้รักษาในรพ.เจริญกรุงประชารักษ์และรพ.จุฬาแห่งละ1ราย และรักษาและให้กลับบ้านได้ 2 รายยังรักษาและรอสังเกตุอาการที่ห้องฉุกเฉิน4ราย ส่วนผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุมี 1 ราย
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น