การที่นายกฯปูได้รับการเชิญจากรัฐสภายุโรปให้ไปกล่าวสุนทรพจน์หรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับประชาธิปไตยในประเทศไทยนั้น ในความหมายคือ โลกต้องการฟังคำพูดจากปากของนายกฯหญิงที่ถูกรัฐประหารไปว่า สถานการณ์ด้านประชาธิปไตยในประเทศไทยตอนนี้เป็นอย่างไร พูดตรง คือ รัฐสภายุโรป เตะลูกบอลมาตั้งให้ที่เท้านายกฯปูแล้วครับ ในชู๊ตได้เต็มที่
ส่วน คสช. จะอนุมัติให้นายกฯปูเดินทางไปหรือไม่ ผมคิดว่าจะเดินเกมอย่างไร งานนี้ คสช.มีแต่เสียครับ ดังนั้นยุทธศาสตร์ที่ใช้ตอนนี้ควรเป็น "เสียน้อยที่สุด" เพราะถึงอย่างไรงานนี้หากไม่อนุมัติให้นายกฯปู เดินทางไป สภาพของ คสช. ก็จะไม่ต่างจากอดีตรัฐบาลทหารพม่า ที่ขังนางอองซานซูจี ไว้กับบ้าน ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ แบบนั้นก็เท่ากับประกาศให้คนทั้งโลกอย่างชัดเจนว่าตัวเองเป็นเผด็จการ โดยนายกฯปูไม่ต้องพูดเองด้วยซ้ำ การกระทำมันบอกชัดเจนว่า "สถานการณ์ด้านประชาธิปไตยในประเทศไทยเป็นอย่างไร" แบบนี้เสียค่อนข้างมาก ยิ่งตอนนี้โลกไม่มี "รัฐบาลทหารพม่า" แล้ว มีแต่ การเลือกตั้งของพม่าที่จบลงอย่างสวยงามสดสวย ภาพพจน์ความเลวร้ายต่างๆ ของรัฐบาลทหารพม่าในอดีตที่คนยุโรปรู้จักมายาวนาน ก็จะมาลงที่รัฐบาลทหารของไทยหมดสิ้นเลยทีเดียว
หากอนุมัติให้นายกฯปูเดินทางไปได้ แบบนี้นายกฯปูก็คงได้พูดให้สมาชิกรัฐสภายุโรปฟัง แต่จริงๆ ก็คือพูดให้ "คนทั้งโลกฟังนั่นแหละ เพราะ ยุคนี้คำพูดผ่านสื่อต่างๆ มันกระจายออกไปทั่วโลก สถานที่พูดเป็นเพียงแค่เวทีถ่ายทอดเท่านั้น คสช. ก็คงเสียหน้าบ้าง แต่ไม่มากเท่ากับกรณีแรก เพราะถึงอย่างไร รัฐบาลทหารก็ย่อมไม่มีคนเชื่อถืออยู่แล้ว แต่ท่าทีที่ใจกว้าง ก็ยังพอทำให้คนไม่คิดว่าจะเหมือนกับรัฐบาลทหารพม่าในอดีต
ส่วนตัวผมเองคิดว่า ถึงอย่างไรนายกฯปูก็ต้องพูด หรือมีแถลงการณ์ออกมา เพราะโลกเขาต้องการฟังอยู่ จะได้ไปหรือไม่มันไม่ใช่สิ่งที่นายกฯปูจะเลือกได้ แต่แถลงการณ์ผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ ก็มีผลไม่แตกต่างกันมากนักในเรื่อง "สาร" ที่จะสื่อถึงชาวโลก
ผมว่าฝรั่งจะเล่นเกมกับรัฐบาลทหารของไทยแรงขึ้น เพราะเขาเคยใช้แบบนั้นกดดันรัฐบาลทหารพม่าได้ผลมาแล้ว ดังนั้นพวกเขามีประสบการณ์เรื่องนี้มากพอสมควร ยุทธศาสตร์ฝรั่งคือ ทำให้ AEC เป็นประชาธิปไตย แม้แต่จีนก็ไม่ได้ขัดขวางยุทธศาตร์นี้ แต่จีนแค่คบได้ทุกรูปแบบของรัฐบาลเท่านั้นเอง จีนจึงไม่ใช่ที่พึ่งของรัฐบาลไทยมากเท่าใดนัก ยุทธศาสตร์ของรัฐบาลจีนคือ ไม่ขัดขวางฝรั่ง แต่หาประโยชน์ให้ตัวเองมากที่สุดเท่านั้น
ฝรั่งกดดันรัฐบาลทหารพม่ามากว่า 20-30 ปี ดังนั้น เขารู้ว่าสุดท้ายการกดดันจะได้ผล ยิ่งเศรษฐไทยเชื่อมโยงกับโลกอย่างแน้นแฟ้น การดันยิ่งง่ายดายกว่ากดดันรัฐบาลทหารพม่าในอดีตมากนัก แค่จำกัดธุรกรรมการเงินของชนชั้นนำบางกลุ่ม ก็ตายแล้ว ไม่ต้องถึงกับบอยคอตก็ได้
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น