0

การเหยียดผิว ปัญหาที่ซ่อนตัวมานานในไต้หวัน
คนส่วนใหญ่ในไต้หวันคิดว่าสังคมของตัวเองไม่มีเรื่องเหยียดผิวและอคติ จนกระทั่งมีการแชร์คลิปวิดีโอในโลกออนไลน์ เป็นคลิปที่ชายชาวอังกฤษกับแฟนสาวชาวไต้หวันถูกว่ากล่าวเสียดสีในรถไฟไต้ดินเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
คลิปวิดีโอนี้มาจากเหตุการณ์เมื่อเดือนที่แล้ว ขณะที่นายคริสโตเฟอร์ เรย์มอนด์ ฮอลล์ วัย 34 ปี และแฟนสาวนั่งรถไฟใต้ดินในเมืองไทเป เขาสังเกตว่ามีชายชาวไต้หวันคนหนึ่งจ้องมองและพูดจาพึมพำอะไรสักอย่างใส่เธอ ทั้งสองเปลี่ยนไปนั่งอีกตู้โดยสารหนึ่ง แต่ชายคนนั้นก็ตามไปและเริ่มพูดจาดูถูกดูหมิ่นพวกเขา
ชายชาวไต้หวันคนนี้ ซึ่งทราบชื่อภายหลังว่านายเหลียว กล่าวกับพวกเขาว่า “ดูหน้าตาที่น่าเกลียดของเขาสิ แล้วดูตัวเธอเองด้วย โสเภณีกับขยะต่างชาติ...คนไต้หวันทั้งประเทศเกลียดพวกเธอ” เหลียวเรียกนายฮอลล์เป็น “พวกขี้แพ้” ที่ไปไต้หวันเพราะไม่สามารถหาแฟนได้ในบ้านเกิดของตัวเอง แฟนสาวของนายฮอลล์บันทึกวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดไว้ และตั้งแต่นายฮอลล์โพสต์คลิปวิดีโอนี้ในยูทูปเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีคนเข้าไปดูแล้วมากกว่าสองล้านครั้ง
ฮอลล์อยู่ในไต้หวันมานานประมาณสิบปีและคบหากับแฟนของเขาอย่างจริงจังมาได้สามปีแล้ว แฟนของฮอลล์ ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวบอกว่าเธอรู้สึก “ไม่ได้รับความยุติธรรมอย่างมาก” ที่คนไต้หวันคิดว่าหญิงที่ออกเดทกับชาวตะวันตกต้องการเพียงแค่เงินหรืออภิสิทธิ์ ซึ่งเป็นภาพลักษณ์เหมารวมที่ต่างจากกรณีชายไต้หวันออกเดทกับสาวชาวตะวันตก “เราไม่ค่อยได้ออกไปไหน เพราะรู้สึกถูกกดดัน”
ส่วนนายเหลียวถูกไล่ออกจากงานรักษาความปลอดภัยของบริษัทแห่งหนึ่ง เขาปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อ ด้านเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะฟ้องร้องเขาหรือไม่ในข้อหาดูหมิ่นคนซึ่งหน้า ทั้งนี้เพราะว่าในไต้หวันยังไม่มีกฎหมายห้ามการเหยียดผิว
เรื่องนี้ทำให้เกิดการถกเถียงกัน เปิดเผยให้เห็นความคิดที่ไม่ค่อยได้เผยแพร่ต่อสาธารณะ ชาวไต้หวันหลายคนประณามพฤติกรรมของนายเหลียว และปกป้องชื่อเสียงของไต้หวัน ผู้หญิงคนหนึ่งกล่าวว่า “เขาไม่ได้เป็นตัวแทนชาวไต้หวัน” อีกคนหนึ่งบอกว่าจริง ๆ แล้วทุกคนก็รู้ว่าไต้หวันมีปัญหาเรื่องการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ ขณะที่ชาวไต้หวันอีกหลายคนบอกว่าพวกเขาเองก็โดนเสียดสีคล้าย ๆ กัน หรือแย่ยิ่งกว่านั้นเวลาอยู่ในประเทศตะวันตก
เมื่อไม่นานมานี้ยังมีอีกกรณีหนึ่ง เป็นกรณีชายลูกครึ่งชาวแคนาเดียน-เตอร์กิช ที่ถูกตำรวจกล่าวหาเรื่องมีวิดีโอเทปที่บันทึกภาพขณะที่เขามีเพศสัมพันธ์กับหญิงไต้หวันหลายคน ข่าวนี้กลายเป็นข่าวสะเทือนอารมณ์และรายงานกันอย่างแพร่หลาย
เมื่อต้นปีนี้ ขณะที่เพลง Foreigner เป็นที่นิยมอย่างมากในไต้หวัน มีผู้คนเข้าชมมิวสิควิดีโอชิ้นหนึ่งมากกว่า 7 ล้านครั้ง ในวิดีโอนี้มีวงดนตรีไต้หวันแต่งตัวเป็นชาวต่างชาติ แสดงพฤติกรรมแย่ๆ มีคนแต่งตัวเป็นชาว “อเมริกัน” ร้องเพลงที่มีเนื้อหาว่า ผู้หญิงทั้งหมดหลงรักเขาและเขานอนกับผู้หญิงทุกเชื้อชาติ ในช่วงท้ายของวิดีโอ มีภาพนักร้องทาหน้าสีดำและใส่วิกผมแบบชาวแอฟริกัน
อวาลอน โอเวนส์ นักศึกษาชาวอเมริกัน ที่พูดภาษาจีนกลางได้คล่องแคล่ว โพสต์วิดีโอโต้กลับเพลง Foreigner นี้ว่า “ชาวต่างชาติควรได้รับความเคารพเช่นเดียวกับคนอื่นๆ ... นักร้องใช้สำเนียง “ต่างชาติ” ตลอดเวลา ขณะที่ล้อเลียนลักษณะเหมารวมของคนต่างชาติ มันมาจากแนวคิดที่ว่าคนผิวขาวมาที่นี่เพื่อหาแฟนชาวไต้หวัน ต้องการแต่เรื่องเซ็กส์อย่างเดียว โดยไม่มีจุดประสงค์อื่น ราวกับเป็นพวกสัตว์ที่งี่เง่าไร้ยางอาย” ปรากฏว่ามีผู้ชมวิดีโอของเธอเกือบ 300,000 ครั้งแล้ว
เธอกล่าวกับ BBC Trending ว่า “ฉันอยู่ที่นี่นานมาก และมีเพื่อนสนิทมากมาย แต่ไม่เคยรู้สึกว่าที่นี้เป็นเหมือนบ้าน เพราะคนแปลกหน้ามองพวกเราว่าเป็นชาวต่างชาติ ไม่ว่าฉันจะพยายามมากแค่ไหน ฉันไม่เคยรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของสังคมนี้” โอเวนส์รู้สึกว่า ชาวไต้หวันดูจะไม่ค่อยสะดวกใจเวลาอยู่กับชาวต่างชาติแม้ว่าพวกเขาจะพูดจีนกลางหรือภาษาท้องถิ่นได้คล่องแคล่วก็ตาม
เหตุผลส่วนหนึ่งที่อาจทำให้คนไต้หวันมีความรู้สึกเหล่านี้ คือ ไต้หวันเป็นสังคมที่มีคนชาติพันธุ์เดียวกันเป็นส่วนใหญ่ และยังไม่คุ้นชินกับการที่จะยอมรับเอาคนที่เป็นคนนอกเข้าไปในสังคมของตนเอง จากสถิติของรัฐบาล ไต้หวันมีประชากร 95 % เป็นจีนฮั่น อีก 2.5% เป็นชาวพื้นเมือง และที่เหลือเป็นผู้อพยพ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานมาจากประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีเพียงส่วนน้อยมากที่เป็นชาวต่างชาติที่มาทำงานแม้ว่าในระยะหลังจะมี ชาวตะวันตกที่เข้าไปทำงานและหลายคนสามารถพูดภาษาจีนกลางได้ หรือมักทุ่มเทกับการเรียนภาษาหลังจากเข้าไปอยู่ในไต้หวันแล้วก็ตาม
ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งก็อาจเป็นไปได้ด้วยว่า ชาวไต้หวันเคยรู้สึกว่าตนด้อยกว่าชาวตะวันตกในช่วงที่เศรษฐกิจยังไม่เติบโตมากนัก แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไป คนไต้หวันกล้าขึ้นและไม่รู้สึกว่าชาวตะวันตกพิเศษแต่อย่างใด พวกเขาพร้อมจะวิพากษ์วิจารณ์ในสิ่งที่ไม่ชอบใจมากขึ้น แต่ข้อเท็จจริงอีกประการหนึ่งก็คือ ชาวต่างชาติจำนวนหนึ่งที่เดินทางไปไต้หวันก็เป็นคนที่ไปเพราะสิ่งดึงดูดใจทางวัฒนธรรม คนอย่างฮอลล์ที่บอกว่า เขาเคยมีเพื่อนชาวไต้หวันจำนวนไม่น้อยสมัยที่เขาอยู่ในอังกฤษ เพื่อนๆเหล่านั้นสอนให้เขาพูดจีนและทำให้เขาติดใจจึงได้เดินทางไปไต้หวัน ที่ซึ่งเขาได้ใช้ชีวิตอยู่ ฮอลล์บอกว่าตอนแรกเขาไม่อยากอัพโหลดวิดีโอดังกล่าว แต่ทบทวนแล้วเขาก็เห็นว่าควรจะทำเพราะว่าเขาอยากเห็นสังคมไต้หวันจัดการกับปัญหาเหยียดผิวซึ่งเขาบอกว่า ในที่สุดแล้วมันมีในทุกสังคม ไม่ใช่เฉพาะในสังคมตะวันตกเท่านั้น


แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 
Top