ศาลอาญาสั่งจำคุกคดี 112 'ทอม ดันดี' 7 ปีครึ่ง จำเลยผิดคาดศาลนับ 3 กรรม

ศาลอาญาสั่งจำคุกคดี 112 'ทอม ดันดี' 7 ปีครึ่ง จำเลยผิดคาดศาลนับ 3 กรรม

Posted: 01 Jun 2016 12:02 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)    

หลังจำเลยเปลี่ยนใจรับสารภาพ ศาลอาญาพิพากษาจำคุก นับโทษ 3 กรรมๆ ละ 5 ปี รวม 15 ปี สารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง ศาลย้ำพ้นโทษแล้วต้องออกมาร้องเพลงปรองดองและปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ ด้านทนายและจำเลยแปลกใจเข้าใจมาตลอดว่าผิด 1 กรรม ขณะที่คดี 112 อีกคดีศาลทหาร จำเลยก็เตรียมรับสารภาพเช่นกัน 

ภาพจากเพจ Banrasdr

1 มิ.ย.2559 ศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษาคดีนายธานัท ธนวัชรนนท์ หรือ ทอม ดันดี จำเลยคดีหมิ่นสถาบันตามมาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังจำเลยกลับคำให้การจากปฏิเสธข้อกล่าวหาเป็นรับสารภาพในนัดตรวจความพร้อมคู่ความเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา (30 พ.ค.2559) ศาลพิพากษา จำคุก 15 ปีจากความผิด 3 กรรม รับสารภาพลดกึ่งหนึ่ง เหลือ 7 ปี 6 เดือน และศาลให้จำเลยรับปากว่าเมื่อพ้นโทษจะร้องเพลงปรองดองและปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ จำเลยรับปาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังฟังคำพิพากษาจำเลยหน้าถอดสีและดูตึงเครียดอย่างมาก โดยทั้งทนายจำเลยและจำเลยต่างงุนงงเมื่อคำพิพากษาแบ่งการกระทำผิดเป็น 3 กรรมเนื่องจากคำบรรยายฟ้องของอัยการระบุการกระทำความผิดจากการปราศรัยในวันเดียวและทั้งทนายและจำเลยต่างเข้าใจมาโดยตลอดว่าคำฟ้องระบุถึงการกระทำความผิด 1 กรรม

ในการอ่านคำพิพากษา ผู้พิพากษาไม่ได้อ่านคำพิพากษาฉบับเต็มแต่เป็นการอธิบายความให้จำเลยเข้าใจ โดยผู้พิพากษากล่าวว่า คดีนี้จำเลยรับสารภาพและได้ยื่นคำแถลงประกอบคำรับสารภาพมาเมื่อวานนี้ (31 พ.ค.) ศาลได้อ่านแล้ว ขณะที่แผ่นซีดีที่ตำรวจได้ยื่นเป็นพยานหลักฐานนั้นเปิดไม่ได้ อย่างไรก็ตาม อันที่จริงแล้วศาลเห็นว่าการกระทำผิดที่เกิดขึ้นนั้นแบ่งออกเป็น 5 กรรมโดยเป็นการปราศรัยหมิ่นประมาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 3 กรรม หมิ่นประมาทสมเด็จพระบรมราชินีนาถ 1 กรรมและการโพสต์ขึ้นยูทูปอีก 1 กรรม แต่อธิบดีศาลอาญาและรองอธิบดีเห็นว่า การหมิ่นประมาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้นกระทำต่อเนื่องกัน นับเป็น 1 กรรม จึงนับความผิดเป็นการหมิ่นประมาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 1 กรรม สมเด็จพระบรมราชินีนาถ 1 กรรม และการโพสต์ยูทูป 1 กรรม รวมเป็น 3 กรรม ศาลลงโทษจำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 15 ปี จำเลยรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงเหลือโทษจำคุก 7 ปี 6 เดือน

ผู้พิพากษากล่าวต่อด้วยว่า การลงโทษนี้ไม่หนักไปและไม่น้อยไป เพราะคำพูดนั้นค่อนข้างรุนแรงและไม่สามารถเปิดเผยในที่นี้ได้ นอกจากนี้ยังย้ำว่าหากจำเลยพ้นโทษต้องออกไปร้องเพลงปรองดองและปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งจำเลยรับปาก

ภาพจากเพจ Banrasdr

ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์จำเลยและทนายความเพิ่มเติมหลังฟังคำพิพากษา จำเลยระบุว่าจะไม่อุทธรณ์คดีและคดี 112 อีกคดีหนึ่งในศาลทหารที่จะมีการพิจารณาในวันที่ 21 มิ.ย.นี้เขาก็จะรับสารภาพเช่นกัน ขณะที่ทนายความจำเลยแสดงความกังวลว่าในคดีของศาลทหารนั้นเริ่มไม่แน่ใจว่าจะมีการนับโทษอย่างไรเนื่องจากอัยการทหารบรรยายข้อความการปราศรัยที่เข้าข่ายความผิดไว้ราว 13 ท่อน จึงเกรงว่าจะมีการนับโทษแบ่งเป็นหลายกรรมเช่นคดีที่ศาลอาญานี้

สำหรับความเป็นมาของคดีนี้ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 6 ได้ยื่นฟ้องทอม ดันดี ต่อศาลอาญา รัชดา ในวันที่ 19 ต.ค.2558 ซึ่งเป็นเวลาหลังจากเขาถูกคุมขังในเรือนจำมาแล้ว 1 ปี 3 เดือนจากคดี 112 อีกคดีหนึ่งที่อยู่ในอำนาจการพิจารณาของศาลทหาร เหตุในคดีนี้เกิดจากกรณีมีคลิปปราศรัยของเขาที่เวทีหลักสี่เมื่อวันที่ 13 พ.ย.2556 ปรากฏในยูทูประหว่างวันที่ 13 พ.ย.2556 - 26 เม.ย.2557 ซึ่งเป็นเวลาก่อนการรัฐประหาร ในคำบรรยายฟ้องมีการบรรยายคำพูดที่เข้าข่ายความผิดแบ่งออกเป็นหลายท่อน

เมื่อสอบถามว่ากรณีที่ศาลย้ำให้ต้องร้องเพลงปรองดองและปลูกป่านั้นมีความเป็นมาอย่างไร ทอม ดันดี กล่าวว่า เขาได้ทำคอนเสิร์ตสันติภาพในสามจังหวัดชายแดนใต้มายาวนาน รวมถึงการทำคอนเสิร์ตปรองดองดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2553 นอกจากนี้ยังมีโครงการปลูกป่า และคอนเสิร์ตต้านยาเสพติดเฉลิมพระเกียรติ กิจกรรมเหล่านี้เขาได้แจ้งต่อศาลไว้ด้วยเพื่อประกอบการพิจารณา ศาลคงเห็นว่าเป็นกิจกรรมที่ดีและอยากให้ทำต่อเนื่อง

เมื่อถามถึงความรู้สึกหลังฟังคำพิพากษา ทอม ดันดีกล่าวว่า เขารู้สึกผิดคาด แต่ก็สามารถทำใจได้ และในศาลทหารก็จะรับสารภาพเช่นเดียวกัน

“ไม่กลัว ไม่มีอะไรน่ากลัวไปกว่าใจตัวเองแล้ว จริงๆ ก็ไม่ได้ปลง แต่เมื่อทำเพื่อชาติบ้านเมือง เสียสละที่จะสู้เพื่อประชาชนแล้ว ก็ไม่ควรเรียกร้องสิ่งใด เราทำตัวเป็นไม้บรรทัดมานานแล้ว ทำตัวเป็นสายวัดบ้างก็คงไม่เป็นไร รู้จักย่นย่อ เพราะยังไงมันก็ยังวัดรอบเอวได้อยู่เหมือนเดิม สังคมเป็นแบบนี้ เราจึงเป็นได้เท่าที่เป็น ทำได้เท่าที่ทำ ไปได้เท่าที่ไป” ทอม ดันดีกล่าว

“เคยได้ยินไหม ชายหาดสร้างด้วยเม็ดทรายฉันใด ประชาธิปไตยก็สร้างด้วยประชาชนฉันนั้น ตราบใดที่เรายังเป็นผู้ให้อยู่ตราบนั้นเรายังมีอำนาจ เพราะแม้เราจะสูญสิ้นเสรีภาพ แต่มวลชนก็ยังรักและเคารพในที่สิ่งที่เราสู้เพื่อเขา” ทอม ดันดีกล่าว

ทั้งนี้ ทอม ดันดี ถูกจับกุมตัวโดยเจ้าหน้ามที่ทหารเมื่อวันที่ 9 ก.ค.2557 เขาถูกแจ้งข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งคสช.ไม่มารายงานตัว ศาลลงโทษจำคุก 6 เดือนแต่ให้รอลงอาญา 2 ปี จากนั้นเขาถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีก 2 คดี คือ ความผิดตามมาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) (3) และ (5) คดี 112 คดีแรก พิจารณาคดีในศาลทหาร โดยอัยการทหารยื่นฟ้องเขาจากกรณีการปราศรัยเมื่อวันที่ 6 พ.ย.2556 ปรากฏเป็นคลิปในอินเทอร์เน็ตระหว่าง 6 พ.ย.2556 - 27 มิ.ย.2557 ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังรัฐประหาร และคสช.ประกาศให้คดี 112 ขึ้นศาลทหาร  ส่วนคดีที่สองคือคดีนี้ที่ขึ้นศาลอาญา