0

ประชาชน-นักสิทธิ LGBT ไว้อาลัยเหตุกราดยิงที่ออร์แลนโด หน้าสถานทูตสหรัฐฯ
Posted: 13 Jun 2016 08:04 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)

13 มิ.ย. 2559 เวลาประมาณ 18.00 น. บริเวณหน้าสถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย นักกิจกรรมด้านสิทธิของผู้มีความหลากหลายทางเพศร่วมจัดกิจกรรมไว้อาลัยต่อเหตุการณ์กราดยิง "พัลส์" ไนต์คลับสำหรับกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBT) ที่เมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 50 คน เมื่อคืนวานนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณที่จัดกิจกรรม มีการแขวนธงสีรุ้ง และวางป้ายข้อความ “LOVE ALWAYS WINS STAND WITH ORLAND” บนกระดาษสีรุ้งซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่ม LGBT กิจกรรมดังกล่าวได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศจำนวนมาก ขณะที่ เกล็น ทาวน์เซนด์ เดวีส์. เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้ออกมาร่วมไว้อาลัยด้วย ทั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจุดเทียนและวางดอกไม้ไว้อาลัยราว 40 คน
พิมพ์สิริ เพชรน้ำรอบ ตัวแทนผู้จัดกิจกรรม บอกว่าผลตอบรับในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจ แม้ว่าจะมีการประกาศออกไปอย่างกระชั้นชิด พร้อมกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าคงสร้างความเศร้าใจและทุกคนคงตกใจเพราะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นไม่ว่ากับใครตาม
เมื่อถามถึงผลกระทบและความเคลื่อนไหวของ LGBT ในประเทศไทย พิมพ์สิริ มองว่า ยังไม่ได้มีความรุนแรงทางกายภาพชัดเจนแต่มีในทางโครงสร้าง เช่น ทางกฎหมาย  ซึ่งสามารถใช้เป็นกรณีตัวอย่างในการเริ่มต้นพูดคุยกันได้
“เมืองไทยไม่ได้มีลักษณะอนุรักษ์นิยมสุดขั้วอยู่แล้วต่อ LGBT เป็นแบบทนได้แต่ไม่ยอมรับได้ทั้งหมด ทำให้เห็นว่าแม้ LGBT จะไม่มีชีวิตประจำวันที่ลำบากแต่เมื่อเข้าสู่กรอบของทางการ อย่างสู่กระบวนทางกฎหมายกลับไม่มีสิทธิอะไรรองรับเลย” พิมพ์สิริ กล่าว
"แมกนั่ม" หนึ่งในผู้มาเข้าร่วมกิจกรรม บอกว่า ขณะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ตัวเองกำลังอยู่ในบาร์เกย์ที่เมืองไทยแต่สัมผัสได้ถึงความไม่ปลอดภัย ทั้งยังมองว่าแม้เหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นที่ต่างประเทศแต่ยังให้ความรู้สึกใกล้ชิด เพราะการเหยียดเพศเป็นเรื่องที่สามารถพูดถึงและรู้สึกร่วมกันได้ไม่ว่าจะเกิดขึ้นที่ไหนก็ตาม
ทั้งนี้ เหตุการณ์กราดยิง "พัลส์" ไนต์คลับสำหรับกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBT) ที่เมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน  ประมาณ 02.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งกลายเป็นเหตุการณ์กราดยิงที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ สมัยใหม่ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 50 คน และบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 53 คน โดยคนร้ายถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรมในเวลาต่อมาในที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ มีรายงานว่า ก่อนก่อเหตุ คนร้ายโทรไป 911 เพื่อสาบานตนแสดงความจงรักต่อ ISIS

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 
Top