ศาลตัดสินคุก 2 ปี คดีเมาแล้วขับชนนักปั่นเสียชีวิ ต 3 ราย ที่เชียงใหม่
Posted: 01 Jun 2016 10:51 AM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)
คดีเมาแล้วขับชนนักปั่นเสียชีวิ ต 3 ราย บนถนนเชียงใหม่-ดอยสะเก็ดเมื่ อปี 58 ล่าสุดศาลตัดสินว่าแม้ จำเลยจะบวชชี-ขอขมาญาติ รวมถึงชดใช้แก่ทายาทผู้บาดเจ็บ- เสียชีวิต แต่เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่ างจึงจำคุก 4 ปี ยึดใบขับขี่ รับสารภาพลดเหลือ 2 ปี และจ่ายค่าเสียหายทางแพ่ง 2 ล้าน ด้านชมรมจักรยานและทายาทผู้เสี ยชีวิตอุทธรณ์ต่อเพราะเห็นว่ าลงโทษเบา
กลุ่มนักปั่นจักรยานสมัครเล่น 15 ชมรมใน จ.เชียงใหม่ รวมตัวปั่นจักรยานไว้อาลัยแด่ผู ้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย จากเหตุเมาแล้วขับเมื่อเดื อนพฤษภาคมปี 2558 (ที่มา: แฟ้มภาพ/สำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 เชียงใหม่)
คดีอุบัติเหตุที่ น.ส.ภัทร์ชุดา อายุ 24 ปี นักศึกษาสถาบันอุดมศึกษาแห่งหนึ ่งใน จ.เชียงใหม่ ดื่มสุราและขับรถยนต์โตโยต้า ยาริส สีเทาดำ เฉี่ยวชนนักปั่นจักรยานสมาชิ กชมรมจักรยานเสือสันทราย เสียชีวิตบนทางหลวงหมายเลข 118 ถนนเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด หมู่ 4 ตำบลตลาดขวัญ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2558 โดยมีผู้เสียชีวิต 3 ราย คือนายพงษ์เทพ คำแก้ว อายุ 41 ปี นายสมาน กันธา อายุ 63 ปี นายชัยรัตน์ ย่องลั่น อายุ 65 ปี และมีผู้บาดเจ็บ 2 ราย
ล่าสุดที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาคดีดำที่ 2952/2558 ที่พนักงานอัยการและทายาทเป็ นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส. ภัทร์ชุดา จำเลย ฐานความผิดกระทำโดยประมาทเป็ นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และบาดเจ็บสาหัส และได้รับอันตรายแก่กายและจิ ตใจตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 มาตรา 300 และมาตรา 390 และความผิด พ.ร.บ.จราจรทางบก 2522 มาตรา 403 อนุ 2 มาตรา 157 มาตรา 1607
โดยในรายงานของไทยรัฐ ศาลพิเคราะห์จากพยานหลักฐานพบว่ า ในวันเกิดเหตุจำเลยมีปริ มาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย 67 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ถือว่าเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ที่ กฎหมายกำหนด และแม้ว่าจำเลยจะเป็นนักศึกษา แต่จำเลยยังขับรถยนต์โดยประมาท ไม่อยู่ในช่องทางที่ กฎหมายกำหนดไว้
ในชั้นสืบพยาน แม้ว่าจำเลยจะบวชชีและขอขมาต่ อญาติผู้เสียชีวิตและวางเงิ นบางส่วนให้กับทายาทผู้เสียชีวิ ต รวมถึงบริษัทประกันภัยรถยนต์ ของจำเลยจะได้ชดใช้ค่าเสี ยหายให้กับผู้ได้รับบาดเจ็ บและทายาทผู้เสียชีวิตไปบางส่ วนแล้วก็ตาม (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง) ศาลเห็นว่าเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ ยงอย่างของสังคม จึงพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิ ดข้างต้นเป็นเวลา 4 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็ นประโยชน์ต่อการพิจารณาลดโทษให้ กึ่งหนึ่ง คงเหลือ 2 ปี และให้ยึดใบขับขี่จำเลย
ส่วนการฟ้องทางแพ่งเรียกค่าเสี ยหายของโจทก์ บางรายศาลพิพากษาไม่เหมือนกัน เช่นคำร้องของโจทก์ร่วมที่ 1 และที่ 2 ศาลยกคำร้อง แต่ของโจทก์ร่วมที่ 3 ศาลสั่งให้จำเลยชดใช้เงินจำนวน 1,720,000 บาท (หนึ่งล้านเจ็ดแสนบาทหมื่นบาท) และโจทก์ร่วมที่ 4-5 ศาลพิพากษาให้โจทย์ชดใช้ทางแพ่ งเป็นเงิน 435,000 บาท (สี่แสนสามหมื่นห้าพันบาท)
ภายหลังคำพิพากษามีรายงานใน rider.in.th ระบุว่า ว่าทนายความของจำเลยดำเนิ นการเรื่องขอประกันตัวเพื่อต่ อสู้คดีในชั้นศาลอุทธรณ์ต่อไป
ขณะที่นายกวิน ชุติมา กรรมการชมรมจักรยานเพื่อสุ ขภาพแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าทางชมรมร่วมกับ มูลนิธิเมาไม่ขับ และ สสส. เข้ามาช่วยเหลือครอบครัวผู้เสี ยชีวิตและผู้บาดเจ็บ โดยหลังจากมีคำพิ พากษาทางชมรมและทายาทผู้เสียชี วิตจะยื่นอุทธรณ์ต่อไป เพราะเห็นว่าคำพิพากษาน่าจะมี โทษที่รุนแรงกว่านี้ เพื่อป้องปรามคนที่เมาสุราแล้ วขับรถ
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น