
ยุทธศาสตร์ถุงยางอนามัย: วัยรุ่นไทยกับการป้องกันตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์
หน่วยงานสาธารณสุขจับมือจัดทำยุทธศาสตร์ถุงยางอนามัยแห่งชาติ ลดการ แพร่ระบาดของเชื้อเอชไอวี และการตั้งครรภ์ไม่ถึงประสงค์ เผยวัยรุ่นไทยอายุต่ำกว่า 15 ปี คลอดบุตรโดยเฉลี่ยวันละ 9 คน ด้านกรมการศาสนา ไม่ค้านแจกถุงยางอนามัย ให้วัยรุ่น แต่เห็นว่าการมีเพศสัมพันธ์ควรคำนึงถึงความเหมาะสม ขณะที่มีชัย วีระไวทยะ เตรียมผลิตถุงยางยี่ห้อมีชัยแจกในโรงเรียนมัธยมมีชัยพัฒนาที่บุรีรัมย์
เมื่อวานนี้ (4 ก.พ.) กรมควบคุมโรค กรมอนามัย และกองทุนประชากรแห่ง สหประชาชาติ เปิดตัวโครงการยุทศาสตร์ถุงยางอนามัยแห่งชาติ พ.ศ.2558-2562 ซึ่งมีเป้าหมายลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเอลไอวี ที่พบว่าในปี 2557 มีผู้ติดเชื้อ 445,504 คน เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7,816 คน โดย 90% เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ โดยไม่ป้องกัน หน่วยงานสาธารณสุขดังกล่าวเห็นว่าไทยยังไม่ประสบ ความสำเร็จในการ ส่งเสริมให้ประชากรในวัยเจริญพันธุ์ใช้ถุงยางอนามัย อย่างสม่ำเสมอ และยังมีปัญหาการตั้งครรภ์โดยไม่พึงประสงค์ในหมู่เยาวชน
สถิติที่กรมอนามัยรวบรวมเมื่อปี 2557 พบว่าวัยรุ่นไทยมีเพศสัมพันธ์เร็วขึ้น และตั้งครรภ์มากขึ้น โดยวัยรุ่นอายุไม่ถึง 20 ปี คลอดบุตร 115,491 ราย หรือเฉลี่ยวันละ 316 คน โดยวัยรุ่นอายุไม่ถึง 15 ปี คลอดบุตร 3,213 หรือเฉลี่ยวันละ 9 คน ชี้ให้เห็นว่าปัญหาการตั้งครรภ์ในหมู่วัยรุ่นเป็นปัญหาสาธารณสุขระดับชาติ ที่ต้องแก้ไข โดยมาตรการหนึ่งที่จะดำเนินการคือส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัย โดยปราศจากอคติ ให้ฝ่ายรัฐเป็นผู้นำในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการใช้ ถุงยางอนามัย
นายสุเทพ เกษมพรมณี รองอธิบดีกรมการศาสนา กล่าวกับบีบีซีไทย ว่าเชื่อว่าการมี เพศสัมพันธ์ของวัยรุ่นเกิดขึ้นตลอดเวลา ดังนั้นการรณรงค์ในเรื่องนี้ควรดำเนินไป ตลอดทั้งปี และจัดทำเป็นแผนระยะยาว นายสุเทพ เห็นว่าปัจจุบันวัยรุ่นไทยพกพา ถุงยางอนามัยเป็นปกติ และทราบว่าจะป้องกันตัวเองอย่างไร
“การจะพก หรือไม่พกถุงยางอนามัย ไม่ใช่สาระสำคัญ เพราะวัยรุ่นไทยเลยจุดนั้น ไปแล้ว แต่ที่พลาดพลั้งอาจเป็นเพราะการดื่มสุรา มึนเมาจนพลั้งเผลอไม่ได้ป้องกัน”
นายสุเทพกล่าวว่า กรมการศาสนา รณรงค์ให้ประชาชนอยู่ในศีลห้า และปฏิบัตตาม หลักศาสนา ขณะที่การมี เพศสัมพันธ์ของวัยรุ่นแม้จะไม่ผิดศีลห้า แต่ก็ควร คำนึงว่าเหมาะสมหรืออยู่ในวัยอันควรหรือไม่ การณรงค์ของหน่วยงาน ด้านสาธารณสุขและศาสนาไม่ถือว่าขัดแย้งกัน เพราะมีเป้าประสงค์สุดท้ายไม่ต่างกัน
ด้านนายมีชัย วีระไวทยะ นายกสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน บอกกับบีบีซีไทย ว่า เขามีแนวคิดจะผลิตถุงยางอนามัยยี่ห้อมีชัยพัฒนา เพื่อแจกจ่ายที่โรงเรียน มัธยมมีชัยพัฒนา อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ตั้งแต่ปีการศึกษาหน้า เพื่อฝึกฝน ให้นักเรียนรู้จักการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย และมีความรู้ที่จะนำไปถ่ายทอดต่อได้
“เรื่องนี้ไม่ใช่การชี้โพรงให้กระรอก แต่การไม่บอกกล่าว ไม่ให้ความรู้ถือ ว่าเป็นการ ส่งเสริมความมืดมิด”
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น