0

นักวิชาการชี้ชาติพันธุ์ชาวเลฝั่งอันดามันหลังชนฝา ห่วงรัฐบาล ใช้อำนาจพิเศษละเลยชุมชน

ดร.นฤมล อรุโณทัย นักวิจัยจากสถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งทำการศึกษาเกี่ยวกับกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลในฝั่งอันดามันมาตั้งแต่ปี 2536 ให้สัมภาษณ์บีบีซีไทยถึงปัญหาความขัดแย้งเรื่องที่ดินระหว่างนายทุนกับชาวเล ครั้งล่าสุด ที่หาดราไวย์ จ.ภูเก็ตว่า เป็นผลพวงมาจากการเติบโตของการท่องเที่ยว ทำให้ที่ดินริมทะเลมีราคาแพง มีการจับจอง ซื้อที่ดินเพื่อเก็งกำไร และไล่รื้อชาวเล ออกจากพื้นที่ ซึ่งสิ่งนี้เป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง ที่มีความรุนแรงแฝงอยู่ และกระจายอยู่ทั่วไปในบริเวณชายฝั่งอันดามัน ทำให้ชาวเลตกอยู่ในสภาพหลังชนฝา


“ถ้ามีความแตกต่างแบบนี้ มีการเอารัดเอาเปรียบ และเขารู้สึกว่าถูกกระทำมาตลอด ทำให้เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ ท้ายสุดจะทำให้เกิดความขัดแย้งที่ทั้งสังคม ต้องรับผลร่วมกัน ถ้าเรามองหารูปแบบอื่นๆ ที่สามารถทำให้ธุรกิจและภาคส่วนต่างๆ อยู่ร่วมกันได้ อาจจะยากสักนิดหนึ่ง อาจต้องใช้จินตนาการ ความพยายาม ใช้การพูดคุย แต่ท้ายสุดจะทำให้ชุมชนอยู่ร่วมกับสิ่งใหม่ๆ ที่เข้ามาได้” ดร.นฤมล กล่าว และว่าการพัฒนาโดยละเลยชุมชนและวัฒนธรรม ถือเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง

ด้านนายกิตติธัช โพธิวิจิตร ช่างภาพสารคดีที่ลงไปบันทึกภาพชุดชาวเลอันดามัน นานกว่า 2 ปี กล่าวกับบีบีซีไทยว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นค่อนข้างรุนแรง โดยเฉพาะในพื้นที่ ที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวสูง โดยจุดที่รุนแรงที่สุดอยู่ที่ จ.ภูเก็ต และเกาะหลีเป๊ะ โดยที่ดินที่ชาวเลซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ ทั้งมอแกน มอแกลน และอูรักลาโว้ย เคยอาศัยอยู่ตกไปอยู่ในการถือครองของนายทุน นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของ วัฒนธรรมชาวเลที่กำลังหายไป และการที่รัฐไม่ออกบัตรประชาชนให้ ทำให้ชาวเลไม่สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลของรัฐได้

ทั้งนี้ ความขัดแย้งในเรื่องที่ดินครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา มีกลุ่มชายฉกรรจ์กว่าร้อยคนเข้าปิดเส้นทางสัญจรของชาวเลที่หาดราไวย์ จ.ภูเก็ต จนเกิดการปะทะกันและมีชาวเลได้รับบาดเจ็บหลายสิบคน นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และเทศบาลเข้าไปดูแลเรื่องความปลอดภัยให้กับชาวบ้าน และสั่งให้บริษัทนำก้อนหินที่ปิดทางสัญจรของชาวบ้านออก เพื่อให้สามารถ เดินทางไปประกอบอาชีพ หรือไปทำพิธีทางศาสนาได้อย่างปกติ

ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้เชิญทุกส่วนที่เกี่ยวข้องมาหารือร่วมกันในวันที่ 2 ก.พ.นี้ เพื่อหาทางออกร่วมกัน

https://www.youtube.com/watch?v=H9Pdj2P4JwA


แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 
Top