0

หญิงสาวผู้ไม่เคยคิดอยากมีลูก
โครงการ 100 Women ของบีบีซีประจำปีนี้จะนำเสนอเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจของผู้หญิงจากทั่วทุกมุมโลกที่ท้าทายแนวคิดและค่านิยมของคนส่วนใหญ่ในสังคม ซึ่งเรื่องที่จะนำเสนอต่อไปนี้เป็นเรื่องราวของหญิงสาว 2 คนที่อยู่คนละประเทศและวัฒนธรรม แต่ทั้งคู่กลับมีความคิดตรงกันคือไม่ต้องการมีลูกเป็นของตัวเอง
ฮอลลี บร็อคเวลล์ วัย 29 ปี จากกรุงลอนดอน พยายามทุกวิถีทางเพื่อหลีกเลี่ยงการตั้งครรภ์ ขณะที่สาวอิหร่านวัย 30 ปีเศษ ที่ใช้นามสมมุติว่า นีน่า นีคู ก็เผชิญแรงกดดันจากครอบครัวให้มีลูกเหมือนคนอื่นๆในสังคม
ฮอลลี เล่าว่า การที่เธอมีความคิดว่าไม่อยากมีลูกนั้น มักทำให้ผู้คนสงสัยว่าเหตุใดผู้หญิงคนหนึ่งจึงปฏิเสธสิ่งที่ถูกมองว่าเป็นสัญชาตญาณพื้นฐานของมนุษย์ อย่างไรก็ตาม ฮอลลี บอกว่า เหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้เธอไม่อยากมีลูก เป็นเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับแม่ของเธอ ซึ่งแม่ไม่เคยปกปิดความรู้สึกไม่อยากมีลูกมาตั้งแต่แรก แต่ที่ยอมมีลูกนั้นเป็นเพราะพ่อของฮอลลีอยากสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์
ที่ผ่านมา ฮอลลีต้องการทำหมันถาวร เพราะอยากใช้ชีวิตอย่างไร้กังวล แต่แพทย์ไม่ยอมทำให้เพราะอ้างว่าเธอยังอายุน้อยเกินไปที่จะตัดสินใจในเรื่องนี้ ทั้งที่ความจริงแล้วไม่มีเกณฑ์อายุขั้นต่ำในการทำหมันในสหราชอาณาจักร จนล่าสุดในปีนี้เธอได้รับการอนุมัติให้สามารถทำหมันได้ แต่เนื่องจากปัญหาติดขัดบางประการ ประกอบกับการที่เธอย้ายเขตรับบริการสาธารณสุขแห่งชาติ (เอ็นเอชเอส) ทำให้ต้องเริ่มต้นกระบวนการยื่นขอทำหมันใหม่ทั้งหมด
ฮอลลี กล่าวทิ้งท้ายว่า ในสหราชอาณาจักรผู้หญิงมีสิทธิ์ตัดสินใจที่จะตั้งครรภ์ได้ตอนอายุ 16 ปี แต่เธออายุเกือบ 30 ปีแล้วกลับไม่สามารถปฏิเสธการตั้งครรภ์ได้ และดูเหมือนว่าการตัดสินใจในเรื่องแบบนี้จะได้รับความสนใจก็ต่อเมื่อมันเป็นไปตามแนวคิดของคนส่วนใหญ่ในสังคม
ด้าน นีน่า นีคู จากกรุงเตหะรานสารภาพว่า เธอไม่เคยมีความรู้สึกอยากเป็นแม่คนเลย และคิดเสมอว่าการทำให้เด็กคนหนึ่งเกิดมาบนโลกทั้งที่ไม่ต้องการนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ที่ผ่านมา นีน่า ทุ่มเททำงานหนักเพื่อสร้างธุรกิจของตัวเอง และพบว่าไม่มีอะไรทำให้เธอสุขใจไปมากกว่าการทำงาน
นีน่า แต่งงานมาเกือบ 10 ปีแล้ว และบอกกับสามีตั้งแต่ต้นว่าไม่อยากมีลูก ซึ่งสามีก็เคารพการตัดสินใจนี้ และแม้จะต้องเผชิญกับแรงกดดันจากคนในครอบครัวของเธอและสามีที่อยากให้เธอเปลี่ยนใจไปมีลูก แต่นีน่า บอกว่า การที่เพื่อนหลายคนแต่งงานและยังไม่มีลูกเหมือนกันช่วยเธอได้มาก นีน่าคิดว่า การมีลูกถือเป็นภาระของผู้หญิงที่มีการศึกษาในอิหร่าน เพราะทำให้ไม่สามารถทุ่มเทกับการทำงานได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังทำให้ไม่มีอิสระ และหากต้องเลิกรากับสามี ก็ทำให้มีโอกาสหาสามีใหม่ได้ยาก
นีน่า บอกว่า ใจจริงแล้วตนเป็นคนรักเด็ก เธอหวังว่าจะค้นพบความรู้สึกของความเป็นแม่ในตัวเอง และรอว่าสักวันหนึ่งเธออาจเปลี่ยนใจอยากมีลูก แต่นั่นดูเหมือนไม่น่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้


แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 
Top