บ็อบ เกลดอล์ฟ ท้าทายคนรุ่นใหม่ให้แก้ไขปัญหาของโลก “คนรุ่นคุณแปดเปื้อนไปด้วยเลือด”
นสพ.ฮัฟติงตันโพสต์ รายงานว่าเซอร์บ็อบ ซึ่งเข้าร่วมพิธีเปิดงานประชุม One Young World ของคนรุ่นใหม่กว่าพันคนที่สนามหลวงค่ำวันนี้ ปราศรัยอย่างเร้าใจกับคนที่เข้าร่วมงาน ท้าทายให้พวกเขาสร้างความเปลี่ยนแปลง
นสพ.บอกว่า เกลดอล์ฟเตือนถึงอนาคตว่า ความขัดแย้งอาจรุนแรงถึงขั้นไปสู่สงครามโลก เขาบอกคนรุ่นใหม่ว่า พวกเขาคือส่วนหนึ่งของความขัดแย้งในโลกหลายเรื่อง คนรุ่นเดียวกับพวกเขา “เปื้อนไปด้วยเลือด” เพราะคนรุ่นเดียวกันกับพวกเขาร่วมสังหารคนในซีเรีย ในเบรุต เมืองชาร์ม เอล-ชีค และที่อื่นๆ คนที่ไปดูดนตรี ดูหนัง กินข้าว ถูกสังหารด้วยคนรุ่นเดียวกันกับที่ไปประชุมในงาน One Young World นี้เอง “สิ่งที่สำคัญคือความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งคนรุ่นนี้ไม่มี”
เขาพูดถึงเหตุการณ์ล่าสุดในปารีส และพูดถึงการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง “ลืมเรื่องทวีตเรื่อยเปื่อย ช่วยกันเอาจริงเอาจังกับรัฐบาลของพวกคุณบ้าง”
เกลดอล์ฟบอกอีกว่า “ผมหวังว่าพวกคุณจะภูมิใจกับประเทศของตัวเองและสิ่งที่ประเทศของคุณทำ ผมเองไม่ภูมิใจกับตัวเองและคนรุ่นเดียวกัน เพราะว่าเราให้โลกาภิวัฒน์กับคุณ และภายใต้ความสับสน หลายคนไม่เข้าใจและตอบสนองมัน ไม่ใช่ด้วยสมองแต่ด้วยอาวุธที่หยาบและไร้ปัญญา”
นสพ.รายงานว่า หลายคนที่ฟังประทับใจไปกับการท้าทายของเกลดอล์ฟเพราะเห็นว่าเขาพูดอย่างจริงจัง และอย่างไม่มีบท ส่วนผู้เข้าร่วมเปิดงานคนสำคัญคือสองคนเป็นเจ้าของรางวัลโนเบลทั้งคู่คืออดีตเลขาธิการสหประชาชาตินายโคฟี อันนัน กับ นายมูฮัมหมัด ยูนุส พวกเขาต่างฝากข้อคิดให้คนรุ่นใหม่ในการรับมือปัญหาใหญ่ของโลก
ยูนุสบอกว่าทุกคนสามารถจะเปลี่ยนแปลงโลกได้ เขาบอกว่าคนรุ่นใหม่ในยุคปัจจุบันเป็นคนรุ่นที่มีพลังมากที่สุดในประวัติศาสตร์โลกก็ว่าได้
ด้านนายอันนันบอกว่าคนรุ่นใหม่ต้องทำให้โลกเห็นว่า พร้อมจะแบกรับความรับผิดชอบ และเปลี่ยนแปลงโลกในไปทิศทางที่ดีขึ้น และถ้าทุกคนรวมใจกันก็ไม่มีเป้าหมายใดที่พิชิตไม่ได้ หรือปัญหาใดที่ใหญ่เกินจะแก้ไข
งาน One Young World เป็นงานที่นำเอาผู้นำรุ่นใหม่อายุระหว่าง 18-30 ปีจำนวน 1,300 คนจาก 196 ประเทศมาร่วมประชุม โดยพวกเขาจะหารือกันเรื่องที่เป็นปัญหาหลักของโลก ในหมายงานประเด็นหนึ่งที่พวกเขาจะพูดคุยกันก็คือสิ่งที่เห็นว่าเป็นแก่นของปัญหาความขัดแย้งในปัจจุบัน นั่นคือเรื่องของความไม่อดทนต่อความแตกต่างของคนในสังคม โดยระบุว่าสิ่งสำคัญที่ทำให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงในโลกหลายเรื่องมาจากความไม่อดทนต่อความแตกต่าง ซึ่งรุนแรงขึ้นเพราะเงื่อนไขหลายอย่างที่รุมเร้าเข้ามาเช่นการอพยพของผู้คน การก่อการร้าย ความแตกต่างด้านเชื้อชาติ ศาสนา
พวกเขายังจะคุยกันถึงการหาทางออกจากวิกฤติตั้งแต่เรื่องของอีโบลาไปจนถึงภัยคุกคามจากกลุ่มอย่างรัฐอิสลามหรือไอเอส ในการประชุมสี่วันนี้ กรุงเทพมหานครที่เป็นเจ้าภาพบอกว่า เจ้าหน้าที่จะเสริมกำลังดูแลความปลอดภัยมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะหลังจากเหตุการณ์โจมตีที่กรุงปารีส ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่า จะมีการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ร่วม 3,000 คนดูแลงานนี้ #OneYoungWorld
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น