เงินบริจาคราชภักดิ์ คือ "เงินหลวง" "อุดมเดช"ยอมรับเอง.."เจ้ากรมการเงินทหารบก"รับผิดชอบ

เงินบริจาคราชภักดิ์ คือ "เงินหลวง" "อุดมเดช"ยอมรับเอง.."เจ้ากรมการเงินทหารบก"รับผิดชอบ

*******************************************

"ข้ออ้างว่าเรื่องนี้ดำเนินการโดยมูลนิธิ กองทัพบกไม่เกี่ยวข้อง จะหาว่าทุจริตได้อย่างไร
.
ความจริงคือเรื่องนี้ดำเนินการตามมติครม. เห็นชอบตามข้อเสนอกระทรวงกลาโหมให้"กองทัพบก"เป็นหน่วยหลักในการจัดสร้าง (หนังสือด่วนที่สุด ที่ กห 0207/761 30 พ.ค.58 และ ด่วนที่สุด ที่ นร 0505/19102 3 มิ.ย. 58) กรอบเวลาก่อสร้างตั้งแต่ พ.ย. 57 - ส.ค. 58 ในยุคที่พล.อ.อุดมเดชเป็นผบ.ทบ.
.
รับบริจาคในนาม"กองกิจการพลเรือนทหารบก" ใช้ชื่อบัญชี "กองทุนสวัสดิการกองทัพบก" พล.อ.อุดมเดช ให้สัมภาษณ์ว่าผู้รับผิดชอบเงินบริจาคคือ "เจ้ากรมการเงินทหารบก" แม้จะเป็นเงินบริจาคแต่เมื่อเข้าบัญชีส่วนราชการก็ถือเป็น"เงินหลวง" ต้องเบิกจ่ายภายใต้ระบบ ระเบียบและข้อกฎหมาย
.
ส่วน"มูลนิธิราชภักดิ์"นั้น นายทะเบียนมูลนิธิเพิ่งประกาศจดทะเบียนจัดตั้งเมื่อ 16 ก.ย. 58 แล้วประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อ 12 พ.ย. 58
.
ดังนั้น ในช่วงเวลาก่อสร้างที่มีการจัดซื้อจัดจ้าง มูลนิธิฯยังไม่มีสถานะตามกฎหมายแต่อย่างใด"

00000

ประชาชนแค่อยากรู้ความจริง.."ผู้แสวงหาความจริง"กลับต้องกลัว รัฐบาลไม่ต้องกลัวใครมาล้ม

*****************************************

"ที่สำคัญคือ การเรียกค่านายหน้าดังกล่าว ถ้าเซียนพระเป็นใครก็ไม่ทราบ จะมา"หยิบเงิน"เป็นร้อยๆล้านในความดูแลของกองทัพบกได้อย่างไร?
.
และเมื่อผบ.ทบ.ทราบเรื่องก็ทำเพียงเรียกเงินคืนมา"บริจาค" โดย"ไม่มีการดำเนินคดี" ซึ่งจนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใครทราบว่าเป็นเงินจำนวนเท่าไหร่ และมีที่มาที่ไปอย่างไร
.
ขอผู้มีอำนาจโปรดสบายใจ ไม่มีใครคิดใช้เรื่องนี้ล้มรัฐบาล เพียงแต่ประชาชนต้องการ"ความจริง"และมีเพียงรัฐบาลเท่านั้นที่จะให้ความจริงที่"จริงแท้"กับประชาชนได้
.
หากรัฐบาลมิได้ทำความผิดก็ไม่มีอะไรต้องกลัว ประชาชนต่างหากที่กำลังกลัวว่ารัฐบาลจะ"ใช้อำนาจ"กับผู้แสวงหาความจริง
.
เรื่องคงไม่เลยเถิดมาขนาดนี้ถ้า"ตรงไปตรงมา"ตั้งแต่ต้น แต่ถึงตรงนี้ก็ยังไม่สาย จะมอบหมายใครชี้แจงก็ว่ามา"

.
ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
อดีต รมช.พาณิชย์
เลขาธิการ นปช.