ทนาย คาราดัก เผยเตรียมสู้ประเด็นการสอบสวนไม่ชอบ อ้างลูกความถูกซ้อม
จำเลยคดีวางระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์และท่าเรือสาทรทั้งสองรายมาขึ้นศาลโดยตอบคำให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยนายอาเด็ม คาราดัก ปฏิเสธการเข้าเมืองไทยตั้งแต่เดือน พ.ค. ระบุว่า ตนเองเดินทางเข้าเมืองไทย 21 ส.ค. และถูกจับกุม 28 ส.ค. 2558 ขณะที่นายยูซุฟู ไมไรลีปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาเช่นกัน โดยวันนี้มีทนายซึ่งศาลทหารจัดหาให้นายยูซุฟู อย่างไรก็ตามนายยูซุฟู แสดงความจำนง ที่จะจัดหาทนายให้กับตัวเอง ในครั้งต่อ ๆ ไป โดยประสงค์จะมีทนายพลเรือน
หลังจากจำเลยให้การปฏิเสธแล้ว ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน ซึ่งอัยการโจทก์ระบุว่า มีทั้งหมด 55 แฟ้ม โดยศาลนัดวันที่ 20 – 22 เม.ย. ด้านจำเลยที่สองบอกว่า การนัดตรวจสอบพยานหลักฐานในวันที่ 20-22 เม.ย. รอนานเกินไป พร้อมกล่าวด้วยว่าทางการไทยคุมขังเขาซึ่งเป็นมุสลิมและเป็นผู้บริสุทธิ์จองจำมานานกว่าหกเดือนแล้ว อยากจะขอให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการเร็วกว่านั้น ศาลตอบว่า ศาลได้พยายามให้เร็วที่สุด แต่เนื่องจากติดวันหยุดยาว ช่วงเทศกาลสงกรานต์ของไทย
ทั้งนี้จำเลยทั้งสองชี้แจงต่อศาลว่า เป็นคนเชื้อชาติอุยกูร์ จากเมืองอุรุมฉี เขตปกครองพิเศษซินเจียง เมื่อศาลถามถึงที่อยู่ในเมืองอุรุมฉี จำเลยที่หนึ่งบอกว่า ไม่กล้าให้รายละเอียดเพราะกลัวทางการจีน ส่วนอาชีพของจำเลยทั้งสองนั้นจำเลยที่หนึ่งระบุว่า มีอาชีพรับจ้างขับรถ จำเลยที่สอง ระบุว่าเป็นนักศึกษา
ด้านนายชูชาติ กันภัย ทนายความของนายคาราดัก ระบุว่าลูกความไม่ได้กลับคำให้การ แต่การให้สัมภาษณ์ของเขาครั้งก่อนที่ระบุว่าลูกความรับสารภาพนั้นเกิดจากข้อจำกัดในการพูดคุยกับจำเลย ทั้งนี้นายชูชาติระบุว่าลูกความแจ้งว่าถูกทำร้ายและข่มขู่โดยเอาน้ำเย็นกรอกจมูก เอาสุนัขตัวใหญ่มาเห่ารอบๆ รวมถึงการขู่ว่าจะส่งกลับเมืองจีน เหตุเกิดระหว่างวันที่ 22-26 ก.ย. แต่ลูกความไม่ได้ระบุว่าใครเป็นผู้กระทำเพราะผู้กระทำไม่ได้สวมเครื่องแบบ โดยข้อมูลในส่วนนี้ได้ยื่นให้ศาลแล้ว และจะเป็นข้อมูลในการต่อสู้คดีในส่วนของการไต่สวนลูกความ
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น