0

✿ ผมเชื่อว่า มีการต่อรองให้ "ยิ่งลักษณ์" หนีออกนอกประเทศมานานแล้ว เช่นเดียวกับที่เขาเคยทำกับ "ประภาส - ถนอม"

แต่เธอฉลาดที่ไม่หนี เพราะหากเธอหนี มันจะลดแรงกดดันที่พวกเขาจะได้รับจากประชาชนไปมากทีเดียว และจะทำให้ "ความชอบธรรม" ในการจะเล่นงานเธอเหมือนอย่างที่เคยเล่นงาน "ทักษิณ" ง่ายขึ้น โดยที่พวกเราเองก็พูดไม่ออก

เพราะทางเขาจะอ้างว่า "ไม่ผิดแล้วหนีทำไม" และจากนั้นก็จะปล่อยให้คดีความที่เหลือคลุมเคลืออยู่อย่างนั้น และตัดสินว่าผิดจริง โดยไม่มีโอกาสโต้แย้ง
.
แต่หากเธอยังยืนหยัดสู้ต่อ ความจริงก็จะถูกเปิดเผยออกมาเรื่อยๆ เหมือนคดีอีกหลายคดีที่ผ่านๆ มา ซึ่งเธอก็ผ่านมาได้เมื่อความจริงกระจ่าง
.
แต่ไม่ต้องห่วง ทางเขาก็พร้อมจะเล่นในทุกทางที่พอจะขุดขึ้นมาเล่นงานได้ เพื่อให้เธอไม่มีโอกาสกลับมาเล่นการเมืองได้อีก
.
เพราะจากการที่ "ทักษิณ" ได้กลับเข้ามาอีก และด้วยคะแนนที่ท่วมท้นอย่างไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ มันทำให้ความเชื่อมั่นของพวกเขาสั่นคลอน และอาจทำให้อยู่ลำบากขึ้น จึงคิดตัดไฟแต่ต้นลม
.
และเมื่อทักษิณส่ง "สมชาย", "สมัคร" มาเป็นตัวแทน ซึ่งก็ได้รับเลือกอีก มันยิ่งทำให้พวกเขาเริ่มหวาดกลัวในความนิยมต่อตัว "ทักษิณ" ที่ประชาชนมีให้ จึงต้องหาทางล้มทั้งสองคนนั้นให้ได้ แม้จะต้องยอมหน้าด้านเอาเรื่อง "ทำกับข้าว" มาเล่นงานก็ตาม และพวกเขาก็ทำสำเร็จอีกเช่นเคย
.
มาถึงขั้นนี้ผู้ที่พอจะไว้ใจให้มาเป็นตัวแทนได้ ก็มีแต่ "ยิ่งลักษณ์" เท่านั้น เพราะเธอผ่านงานเรื่องการบริหารจากบริษัทที่มีมูลค่านับหมื่นล้านมาแล้ว ซึ่งนั่นย่อมจะเหนือกว่าคนที่ไม่เคยทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เป็นทหารก็ใช้เอกสารปลอม ไปเป็นอาจารย์ทหารก็สอนบ้าง ไม่สอนบ้าง ลาซะเป็นส่วนใหญ่ ราวกับมีแบ็คดีคอยหนุน
.
"ยิ่งลักษณ์" ได้รับเลือกมาอีก นั่นยิ่งทำให้เขาถึงกับ "ขนหัวลุก" เพราะฆ่าอย่างไรก็ไม่ตาย ก็ต้องยอมรับว่า เธอคือตัวแทน "ทักษิณ" ย่อมมีบารมีพี่ชายช่วยหนุนส่ง และเมื่อเธอได้รับเลือก พวกเขาก็จัดการส่ง "น้ำ" มาต้อนรับเธออย่างท่วมท้นทั่วบ้านทั่วเมือง แต่วิกฤตในครั้งนั้นก็ผ่านมาด้วยดี แม้ว่าน้ำจะเริ่มท่วมตั้งแต่ก่อนที่เธอจะได้รับการประกาศชื่ออย่างเป็นทางการด้วยซ้ำ แต่ก็ด้วยการบริหาร และการขอความร่วมมือไปยังภาคเอกชนของเธอ โดยเฉพาะจากวงการสื่อสารในการช่วยเหลือและค้นหาผู้สูญหาย ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี
.
ต่อเมื่อเธอทำงานไปได้ระยะหนึ่ง กลับกลายเป็นว่า เธอได้ครองใจประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศไปซะอีก และดูท่าว่าจะไม่น้อยไปกว่า "ทักษิณ" หรือจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ เพราะเธอเป็นคนที่มีบุคลิก สุภาพ อ่อนน้อม ยอมฟังความคิดเห็นผู้อื่น จับประเด็นปัญหาได้ไว ตามที่ "ดร. ชัชชาติ" ก็เคยได้กล่าวชมไว้ และจากความเห็นใจที่ประชาชนมีให้ต่อเธอ
.
และเพราะเหตุนี้พวกเขาจึงให้เหล่าสมุนมาคอยจับผิด โน่นนิด นี่หน่อย เพื่อทำลายภาพลักษณ์ให้ดูว่าเธอ "โง่" ไม่เหมาะสมที่จะเป็นผู้นำประเทศ
.
หากเธอโง่จริง เธอคงทำเหมือนคนบางคน ที่จ้างฝรั่งด้วยเงินนับ 10 ล้านเพียงเพื่อคิด "โครงการชั่งไข่เป็นกิโล" ซึ่งพังพาบไปแล้วนั่นแน่
.
สิ่งที่งดงามของเธอใช่เพียงใบหน้า แต่ยังเป็นอากัปกิริยา และการไม่กล่าวร้ายผู้อื่น หรือโทษรัฐบาลที่ผ่านมา ไม่ตะคอกนักข่าว สิ่งเหล่านี้แหละที่ทำให้เธอย่างกรายไปที่ใดก็ได้รับการต้อนรับอย่างมืดฟ้ามัวดิน ชนิดต่อให้เป็น "มาดอนน่า" ก็ยังไม่อาจเทียบเท่า
.
นาทีนี้พวกเราคงได้แต่เชียร์เธอ และรอดูวันที่เธอจะถูกส่งตัวเข้า "คุก" ในข้อหาอะไรซักอย่าง ไม่ว่าจะจาก "โครงการรับจำนำข้าว" หรืออีกเป็นสิบคดีความที่สรรหามาเล่น แม้กระทั่งเรื่อง "นาฬิกาส่วนตัว"
.
วันนั้นคงเป็นวันที่คบไฟคบแรกถูกจุดขึ้นละกระมัง...
.
.
"จูกัดหลง ขงเบ้ง"


แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 
Top