เด็กชายตาบอดผู้เรียนรู้การ มองเห็นด้วยเสียง
อีธาน ล็อค วัย 11 ขวบ นักเรียนโรงเรียนดนตรีชั้นน ำของสกอตแลนด์ เป็นหนึ่งในผู้พิการทางสายต าที่เรียนรู้เทคนิคการใช้เส ียงสะท้อนค้นหาตำแหน่งแทนกา รมองเห็นด้วยสายตาจาก แดเนียล คิช ชาวอเมริกันผู้เชี่ยวชาญด้า นนี้ เพื่อช่วยให้เขาสามารถทำกิจ วัตรประจำวันและไปไหนมาไหนไ ด้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องเป็นภ าระของผู้ใด
อีธาน ฉายแววพรสวรรค์ในการเล่นเปี ยโนตั้งแต่เล็ก แม่ของเขาบอกว่า อีธานสามารถเล่นมูฟเมนต์ที่ หนึ่งของ มูนไลท์ โซนาตา ผลงานของคีตกวีชื่อก้องโลก ลุดวิจ ฟาน เบโทเฟน ได้ตั้งแต่มีอายุเพียง 3 ขวบครึ่ง และมีความหลงใหลในเสียงเรื่ อยมา จนเมื่อต้นปีก่อน อีธาน ได้ลงสอบแข่งขันกับเด็กสายต าปกตินับร้อย และกลายเป็นผู้พิการทางสายต าคนแรกที่ได้รับเลือกให้เข้ าเรียนที่โรงเรียน St Mary's Music School ในเมืองเอดินเบอระ ซึ่งเป็นโรงเรียนดนตรีชั้นน ำของสกอตแลนด์
แม้จะเป็นเรื่องน่ายินดี แต่อีธานก็กังวลเรื่องต้องไ ปโรงเรียนเองอยู่ไม่น้อย เพราะไม่คุ้นชินกับการไปไหน มาไหนตามลำพัง การไปโรงเรียนใหม่ของอีธานน ั้น เขาจะต้องนั่งรถไฟ แล้วข้ามถนนใหญ่ถึง 2 ครั้ง ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของอีธาน จึงติดต่อผู้เชี่ยวชาญอย่าง แดเนียล คิช มาช่วยสอนเทคนิคการมองเห็นด ้วยเสียงแก่อีธาน
คิช สูญเสียการมองเห็นอย่างสิ้น เชิงจากโรคมะเร็งที่จอประสา ทตาเมื่อมีอายุเพียง 13 เดือน เขาเริ่มทำเสียงจากการกระดก ลิ้นเพื่อช่วยให้ทราบเกี่ยว กับวัตถุรอบตัวมาตั้งแต่เด็ ก และฝึกฝนเทคนิคดังกล่าวที่เ รียกว่า “echolocation” ซึ่งเป็นการใช้เสียงสะท้อนค ้นหาตำแหน่งของวัตถุหรือสิ่ งแวดล้อมต่างๆด้วยเสียงกระด กลิ้น เหมือนกับการทำงานของระบบโซ นาร์
คิช บอกว่า เมื่อเขากระดกลิ้น เสียงที่ออกไปจะกระทบกับพื้ นผิววัตถุที่อยู่รอบตัวแล้ว สะท้อนกลับมา นำเอาข้อมูลต่างๆมาให้เขาด้ วย เช่น ระยะทาง ตำแหน่งที่ตั้ง รูปร่าง และความหนาแน่นของวัตถุ เขาจะใช้ข้อมูลเหล่านี้มาสร ้างเป็นภาพในหัว ความเชี่ยวชาญดังกล่าวทำให้ คิช สามารถปั่นจักรยานไปตามถนนไ ด้เองตอนอายุ 6 ขวบ และนักประสาทวิทยาก็ให้ความ สนใจทำการทดลองกับเขา แล้วพบว่า การทำเสียงกระดกลิ้นเป็นการ กระตุ้นสมองส่วนที่ควบคุมกา รมองเห็นให้แก่เขา อย่างไรก็ตาม คิช ยังคงใช้ไม้เท้านำทางอยู่โด ยชี้ว่า เทคนิค echolocation เป็นเพียงตัวช่วยและไม่สามา รถทดแทนไม้เท้านำทางได้
ปัจจุบัน คิช อายุ 40 ปีเศษและเปิดโรงเรียนสอนเทค นิคที่ว่านี้ให้แก่ผู้พิการ ทางสายตาในรัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐฯ และเมื่อเดือน ก.ค.ปีก่อนเขาได้เดินทางไปช ่วยสอนอีธานที่สกอตแลนด์
อีธานเรียนรู้ได้อย่างรวดเร ็ว จากวัตถุรอบกาย เขาเพิ่มขีดความสามารถในการ กำหนดระยะห่างของวัตถุ ที่อยู่รอบตัว แม้แต่การหามุมห้องเขาก็ทำไ ด้ แต่เมื่อออกไปนอกห้องสู่ถนน ใหญ่ พวกเขาพบว่าอีธานมีปัญหาเพร าะแทนที่เขาจะเดินหนีจากถนน เขากลับเดินเข้าหารถ พวกเขาค้นพบว่า สิ่งที่เป็นปัญหามาจากตัวขอ งอีธานเอง เขาสนใจในเสียงรอบตัวและหูข องเขาอยากจะได้ยินเสียงนั้น ๆมากขึ้นทำให้เขาเดินเข้าหา ที่มาของเสียงแทนที่จะเดินอ อกห่าง แต่หลังจากค้นพบจุดอ่อนอันน ี้พวกเขาก็ก้าวข้ามและอีธาน พัฒนาตัวเองอย่างรวดเร็ว พวกเขาไปทดสอบความสามารถใหม ่ของอีธานที่ถนนสายแคบๆ เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขาอีธานห ยุดแล้วตะโกนขึ้นสู่ท้องฟ้า เพื่อจะได้เงี่ยหูฟังเสียงส ะท้อนของตัวเองที่กระทบภูเข าและสรรพสิ่งรอบๆตัวกลับมาห าเขา ในที่สุดอีธานก็จบการศึกษาเ รื่องการใช้เสียงสะท้อนจากแ ดเนียล
ไม่กี่เดือนหลังจากนั้น อีธานได้ร่วมงานแสดงดนตรีใน โรงเรียนเป็นครั้งแรก ในการซ้อมช่วงของคืนก่อนการ แสดง เขากระดกลิ้นพาตัวเองขึ้นเว ทีไปหาเก้าอี้ที่หน้าเปียโน แล้วนั่งลงซ้อมเพลงที่จะต้อ งเล่น อีธานจะต้องจดจำโน๊ตเพลงทั้ งหมดให้ได้รวมทั้งส่วนที่เข าต้องเล่นเดี่ยว เนื่องจากยังไม่มีโน๊ตดนตรี ตัวอักษรเบรล แต่เขาเล่นเพลงได้ราบรื่นถู กต้องโดยไม่มีบกพร่อง แม่ของเขาถึงกับน้ำตาซึมด้ว ยความดีใจ ส่วนอีธานนั้น แน่นอน เขาตื่นเต้นอย่างมาก “ผมรู้ว่าผมตาบอด แต่ผมไม่ใช่คนที่จะเดินไปไห นมาไหนอย่างคนที่มองไม่เห็น อีกต่อไป ผมสามารถทำเสียงสะท้อนเพื่อ จะได้เห็นทาง ผมมองเห็นในแบบของผม”
แม้แต่ในเสียงดนตรีที่อีธาน เล่นก็ดูจะมีอะไรแตกต่างออก ไป มันดูเหมือนเป็นเสียงที่ผ่า นการปลดปล่อยแล้ว แดเนียล คิช ไม่ได้สอนให้เขารู้จักวิชาใ ช้เสียงสะท้อนเพียงเท่านั้น แต่เขาทำให้อีธานค้นพบสิ่งใ หม่ นั่นคือการเป็นอิสระเพราะสา มารถพึ่งตนเองได้
อีธาน ล็อค วัย 11 ขวบ นักเรียนโรงเรียนดนตรีชั้นน
อีธาน ฉายแววพรสวรรค์ในการเล่นเปี
แม้จะเป็นเรื่องน่ายินดี แต่อีธานก็กังวลเรื่องต้องไ
คิช สูญเสียการมองเห็นอย่างสิ้น
คิช บอกว่า เมื่อเขากระดกลิ้น เสียงที่ออกไปจะกระทบกับพื้
ปัจจุบัน คิช อายุ 40 ปีเศษและเปิดโรงเรียนสอนเทค
อีธานเรียนรู้ได้อย่างรวดเร
ไม่กี่เดือนหลังจากนั้น อีธานได้ร่วมงานแสดงดนตรีใน
แม้แต่ในเสียงดนตรีที่อีธาน
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น