ยืม ISIS มาหลอกด่าพวกแถวนี้ 555
ความขัดแย้งในโลกมี 2 มุม ระหว่างทุนนิยมกับประชาชนทุกเชื้อชาติศาสนา ระหว่างโลกใบเก่ากับประชาธิปไตยใหม่
การ "ต้านทุน" ต้านผู้กดขี่ มหาอำนาจผู้รุกราน สู้เพื่อสิทธิเสรี เพื่ออำนาจตัดสินอนาคตตนเอง ที่จริงเป็นการต่อสู้เพื่อความชอบธรรมที่เกิดขึ้นทั่วโลก
เพียงแต่นักต่อสู้จำนวนมากกลับติดกับอำนาจเก่า ความคิดเก่า อุดมคติเก่า จนกลายเป็นผู้กดขี่ทำลายสิทธิเสรีเสียเอง อย่าง ISIS ที่ยึดอุดมคติรัฐศาสนาสุดโต่ง อย่างอิหร่านที่ปราบปรามประชาชน อย่างรัฐสังคมนิยม (ที่เผลอๆ จะทำคนตายมากกว่าทุนนิยม)
ในขณะที่การต่อสู้ของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยทุนนิยมเอง กลับทำให้รัฐทุนนิยมต้องปรับตัว (ถ้ามาร์กซ์ตื่นมาวันนี้ มาร์กซ์จะพบว่าเยอรมันใกล้เคียงสังคมอุดมคติมากกว่าจีน รัสเซีย) ความตื่นรู้ของประชาชนทำให้เกิดหลักประกันเสรีภาพ เท่าเทียม สิทธิมนุษยชน ซึ่งก้าวข้ามเชื้อชาติศาสนา ในขณะที่พวก "ต่อสู้ผู้กดขี่" โยนหลักเหล่านี้ทิ้งหมด
ส่วนประเทศนี้เรอะ เกลียดประชาธิปไตยฝรั่ง แต่อยากเป็นอย่างฝรั่ง อยากให้ฝรั่งยอมรับ อยากให้ฝรั่งให้สิทธิ แต่ตัวเองไม่ยอมรับสิทธิมนุษยชน
เห็นฝรั่งรับผู้ลี้ภัย ก็กระแนะกระแหน แน่จริงรับให้หมดสิ พอเกิดระเบิด ก็เห็นไหมล่ะ อยากใจดีนัก ตอนนี้เป็นไง ไอ้กันก็จะไม่ยอมรับผู้ลี้ภัยซีเรีย (มีข้ออ้างให้กับความใจดำของตัวเอง ทั้งที่คนละสถานการณ์กัน เราสิ โดนระเบิดเพราะส่งกลับอุยกูร์) ตอนมีเรื่องชาร์ลี เอ็บโด แทนที่จะตระหนักหลักเสรีภาพ ก็โถ ไป "หมิ่น" สิ่งที่คนอื่นเคารพนับถือทำไม สมควรตาย
000000
1 วันหลัง Paris Attack เกิดเหตุการณ์ให้ตื้นตัน คือระหว่างที่ชาวปารีเซียงกำลังไว้อาลัยผู้เสียชีวิต มีกลุ่มขวาจัดถือป้าย "ไล่มุสลิมออกนอกประเทศ" แต่คนส่วนใหญ่ตะโกน "Fascists go home!"
ถ้าจำได้ไม่กี่เดือนก่อน ทั่วโลกเพิ่งแซ่ซ้องยุโรปรับผู้ลี้ภัยซีเรียนับล้าน แม้คนบางส่วนต่อต้าน แต่ส่วนใหญ่ต้อนรับอย่างอบอุ่น
ยุโรปมีมนุษยธรรม (ยิ่งกว่าอเมริกาหรือเศรษฐีตะวันออก กลางด้วยซ้ำ) ยุโรปเชื่อในเสรีภาพ เปิดรับความแตกต่างหลากหลายทางวัฒนธรรม เพราะมีบทเรียนอันเจ็บปวดจากสงครามเชื้อชาติศาสนา โดยเฉพาะฮิตเลอร์ฆ่ายิวเป็นล้านๆ
ถ้าพูดกันแบบไทยๆ แม้เศร้าสะเทือนใจ ก็คงไม่วายซุบซิบ ไม่น่าเล้ย ฝรั่งไม่น่าเป็นม้าอารี ตอนที่ยุโรปรับผู้ลี้ภัยพอทำท่าจะรับไม่ไหว ก็มีคอลัมนิสต์ใหญ่เย้ย "กรรมใดใครก่อ" เห็นไหมล่ะ เที่ยวมาบีบไทยให้รับโรฮิงยา
ตอนสังหารหมู่กอง บ.ก. Charlie Hebdo โทษฐานเขียนการ์ตูนล้อเลียนนบีมูฮัมหมัด คนไทยก็เศร้าเสียใจ แต่บางคน ก็นินทา ไม่น่าเล้ย ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ไม่ควร "หมิ่น" ความเคารพศรัทธาจนถูกฆ่า เสรีภาพต้องมีขอบเขต บลาๆๆ ซึ่งไปๆ มาๆ ก็ไม่ต่างจาก "สมควรตาย"
เออนะ อุตส่าห์รับผู้อพยพมุสลิมตั้งมากมาย ทำไมยังปากร้ายล้อเลียนเขา แต่ถ้าไม่ใช่ประเทศที่เชื่อมั่นในเสรีภาพสุดๆ ปล่อยให้คิด พูด เขียน กระทั่งล้อเลียนได้ทุกอย่าง ยุโรปก็คงไม่ใจกว้างเปิดรับผู้ลี้ภัยหลากเชื้อชาติศาสนา
ความสูญเสียครั้งนี้จึงสะเทือนใจหลายชั้น เพราะแม้ยังมีคนจำนวนมากเชื่อมั่นสิทธิมนุษยชน แต่พรรคการเมืองฝ่ายขวา กลุ่มหัวรุนแรงต่อต้านมุสลิม ก็คงเสียงดังมีคนสนับสนุนมากขึ้น
ขณะเดียวกันการ "ประกาศสงคราม" ISIS ส่งเครื่องบินไปทิ้งระเบิด ก็ย่อมมีผู้บริสุทธิ์รับเคราะห์อีกมาก อาจทำให้เกิด ผู้ก่อการร้ายขึ้นใหม่จากความเจ็บแค้น
ISIS ไม่ได้ผุดจากทรายนะครับ Militant Islamist เป็นผลจากนโยบายแทรกแซงโลกอาหรับของมหาอำนาจตะวันตก ตั้งแต่ยุคหนุนอิสราเอลยึดครองปาเลสไตน์ ยุครัสเซียบุกอัฟกานิสถาน แล้วอเมริกาหนุนหลังตาลิบัน อัลกออิดะห์ จนกลับมาทิ่มแทงตัวเอง ISIS ก็ก่อตัวจากสงครามอิรัก และสงครามกลางเมืองซีเรีย
ขบวนการเหล่านี้เริ่มจาก "ต่อสู้ผู้กดขี่" สู้เพื่อสิทธิเสรี แต่น่าเศร้าที่ไม่มีทางออกจนหันไปคว้าอุดมคติสุดโต่ง ยึดแนว ทาง "ตาต่อตา ฟันต่อฟัน" กระทั่งสถาปนาอำนาจฆ่าฟันผู้ไม่คล้อยตาม
ISIS จำนวนมากยังมาจากลูกหลานผู้อพยพ ซึ่งชีวิตที่ต้องดิ้นรนในสังคมทุนนิยม ความแปลกแยกทางวัฒนธรรม ทำให้ปฏิเสธระบบ หวนกลับมารับอุดมการณ์สุดโต่ง
ฉะนั้นถ้าจะบอกว่า ISIS คือ "มะเร็ง" ที่เกิดเพราะมหาอำนาจตะวันตกเองก็ไม่ผิด เพียงแต่ไม่ได้ผิดเฉพาะอเมริกา ยุโรป แต่รัสเซีย จีน ก็มีส่วนเหมือนกัน
แล้วก่อนจะว่าใครก็ย้อนดู 3 จังหวัดด้วย "โจรใต้" ก็เกิดจาก "รัฐไทย" ใช้อุดมการณ์ชาตินิยมรุกล้ำอัตลักษณ์คนมลายูมุสลิม แต่ขบวนการต่อต้านก็ใช้ความรุนแรงฆ่าพระฆ่าคนบริสุทธิ์
ของเราก็มีคนห่มเหลืองชูป้าย "เผามัสยิด" เหมือนกัน แม้เห็นคนเดียว แต่ความคิดรุนแรงก็แฝงอยู่ไม่น้อย เห็นไหม ปัญหาแบบ ISIS ไม่ได้ไกลตัวเลย
ความรุนแรงเมื่อตอบโต้ด้วยความรุนแรงก็ยิ่งรุนแรงขึ้นไปอีก โดยมีชีวิตผู้บริสุทธิ์เป็นเหยื่อ คงยากจะหาทางออกง่ายๆ แต่ก็มีบทเรียนหลายแง่มุม ตั้งแต่ความสุดโต่งทางศาสนา ซึ่งเดี๋ยวนี้ไม่ได้มีแค่มุสลิม แต่แถวๆ นี้ก็มี "ศาสนาประจำชาติ" ไปถึงทัศนะต่อต้าน "จักรพรรดินิยม" ผู้บังคับขายประชาธิปไตยฝรั่ง (ตัวเองดีนักหรือไง)
ไม่ปฏิเสธเลยครับว่าทุนนิยมตัวปัญหา โลกนี้เข่นฆ่ากันเยอะแล้วเพราะทุนนิยมและต่อต้านทุน แต่รัฐศาสนา รัฐสังคมนิยม "เผด็จการคนดี" ล้วนไม่สามารถทำให้สังคมสงบสุข ให้ผู้คนมีชีวิตที่ดีกว่า มีแต่ตั้งหน้าจำกัดสิทธิเสรี
อุดมคติที่จะทำให้โลกอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขคืออะไร คือความเศร้าเสียใจเมื่อเห็นคนฝรั่งเศสถูกฆ่า ไม่ต่างจากพลเรือนซีเรียถูกระเบิด คือความสะเทือนใจเมื่อเห็นศพทารกลี้ภัยเกยชายหาด เมื่อเห็นเด็กปาเลสไตน์ถูกกระสุนอิสราเอล เมื่อเห็น "โจรใต้" ฆ่าพระ เมื่อเห็นพระพม่าไล่โรฮิงยา เมื่อเห็นพี่น้องมุสลิมตายที่ตากใบ และเมื่อเห็นม็อบไม่ว่าสีไหนถูกฆ่าตาย
อุดมคตินี้ไม่ใช่แค่มนุษยธรรม แต่คือความเชื่อว่า มนุษย์ไม่ว่าเชื้อชาติศาสนาใดต้องมีอิสระจะใช้ชีวิต โดยมีความคิดแตกต่างขัดแย้งกันได้ อย่างมีเสรี และมีศักดิ์ศรี
อุดมคตินี้เรียกว่า "สิทธิมนุษยชน" ซึ่งน่าเสียดาย เพราะมันเติบโตภายใต้ระบอบประชาธิปไตย (ฝรั่ง) เท่านั้น
ถ้าจำได้ไม่กี่เดือนก่อน ทั่วโลกเพิ่งแซ่ซ้องยุโรปรับผู้ลี้ภัยซีเรียนับล้าน แม้คนบางส่วนต่อต้าน แต่ส่วนใหญ่ต้อนรับอย่างอบอุ่น
ยุโรปมีมนุษยธรรม (ยิ่งกว่าอเมริกาหรือเศรษฐีตะวันออก กลางด้วยซ้ำ) ยุโรปเชื่อในเสรีภาพ เปิดรับความแตกต่างหลากหลายทางวัฒนธรรม เพราะมีบทเรียนอันเจ็บปวดจากสงครามเชื้อชาติศาสนา โดยเฉพาะฮิตเลอร์ฆ่ายิวเป็นล้านๆ
ถ้าพูดกันแบบไทยๆ แม้เศร้าสะเทือนใจ ก็คงไม่วายซุบซิบ ไม่น่าเล้ย ฝรั่งไม่น่าเป็นม้าอารี ตอนที่ยุโรปรับผู้ลี้ภัยพอทำท่าจะรับไม่ไหว ก็มีคอลัมนิสต์ใหญ่เย้ย "กรรมใดใครก่อ" เห็นไหมล่ะ เที่ยวมาบีบไทยให้รับโรฮิงยา
ตอนสังหารหมู่กอง บ.ก. Charlie Hebdo โทษฐานเขียนการ์ตูนล้อเลียนนบีมูฮัมหมัด คนไทยก็เศร้าเสียใจ แต่บางคน ก็นินทา ไม่น่าเล้ย ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ไม่ควร "หมิ่น" ความเคารพศรัทธาจนถูกฆ่า เสรีภาพต้องมีขอบเขต บลาๆๆ ซึ่งไปๆ มาๆ ก็ไม่ต่างจาก "สมควรตาย"
เออนะ อุตส่าห์รับผู้อพยพมุสลิมตั้งมากมาย ทำไมยังปากร้ายล้อเลียนเขา แต่ถ้าไม่ใช่ประเทศที่เชื่อมั่นในเสรีภาพสุดๆ ปล่อยให้คิด พูด เขียน กระทั่งล้อเลียนได้ทุกอย่าง ยุโรปก็คงไม่ใจกว้างเปิดรับผู้ลี้ภัยหลากเชื้อชาติศาสนา
ความสูญเสียครั้งนี้จึงสะเทือนใจหลายชั้น เพราะแม้ยังมีคนจำนวนมากเชื่อมั่นสิทธิมนุษยชน แต่พรรคการเมืองฝ่ายขวา กลุ่มหัวรุนแรงต่อต้านมุสลิม ก็คงเสียงดังมีคนสนับสนุนมากขึ้น
ขณะเดียวกันการ "ประกาศสงคราม" ISIS ส่งเครื่องบินไปทิ้งระเบิด ก็ย่อมมีผู้บริสุทธิ์รับเคราะห์อีกมาก อาจทำให้เกิด ผู้ก่อการร้ายขึ้นใหม่จากความเจ็บแค้น
ISIS ไม่ได้ผุดจากทรายนะครับ Militant Islamist เป็นผลจากนโยบายแทรกแซงโลกอาหรับของมหาอำนาจตะวันตก ตั้งแต่ยุคหนุนอิสราเอลยึดครองปาเลสไตน์ ยุครัสเซียบุกอัฟกานิสถาน แล้วอเมริกาหนุนหลังตาลิบัน อัลกออิดะห์ จนกลับมาทิ่มแทงตัวเอง ISIS ก็ก่อตัวจากสงครามอิรัก และสงครามกลางเมืองซีเรีย
ขบวนการเหล่านี้เริ่มจาก "ต่อสู้ผู้กดขี่" สู้เพื่อสิทธิเสรี แต่น่าเศร้าที่ไม่มีทางออกจนหันไปคว้าอุดมคติสุดโต่ง ยึดแนว ทาง "ตาต่อตา ฟันต่อฟัน" กระทั่งสถาปนาอำนาจฆ่าฟันผู้ไม่คล้อยตาม
ISIS จำนวนมากยังมาจากลูกหลานผู้อพยพ ซึ่งชีวิตที่ต้องดิ้นรนในสังคมทุนนิยม ความแปลกแยกทางวัฒนธรรม ทำให้ปฏิเสธระบบ หวนกลับมารับอุดมการณ์สุดโต่ง
ฉะนั้นถ้าจะบอกว่า ISIS คือ "มะเร็ง" ที่เกิดเพราะมหาอำนาจตะวันตกเองก็ไม่ผิด เพียงแต่ไม่ได้ผิดเฉพาะอเมริกา ยุโรป แต่รัสเซีย จีน ก็มีส่วนเหมือนกัน
แล้วก่อนจะว่าใครก็ย้อนดู 3 จังหวัดด้วย "โจรใต้" ก็เกิดจาก "รัฐไทย" ใช้อุดมการณ์ชาตินิยมรุกล้ำอัตลักษณ์คนมลายูมุสลิม แต่ขบวนการต่อต้านก็ใช้ความรุนแรงฆ่าพระฆ่าคนบริสุทธิ์
ของเราก็มีคนห่มเหลืองชูป้าย "เผามัสยิด" เหมือนกัน แม้เห็นคนเดียว แต่ความคิดรุนแรงก็แฝงอยู่ไม่น้อย เห็นไหม ปัญหาแบบ ISIS ไม่ได้ไกลตัวเลย
ความรุนแรงเมื่อตอบโต้ด้วยความรุนแรงก็ยิ่งรุนแรงขึ้นไปอีก โดยมีชีวิตผู้บริสุทธิ์เป็นเหยื่อ คงยากจะหาทางออกง่ายๆ แต่ก็มีบทเรียนหลายแง่มุม ตั้งแต่ความสุดโต่งทางศาสนา ซึ่งเดี๋ยวนี้ไม่ได้มีแค่มุสลิม แต่แถวๆ นี้ก็มี "ศาสนาประจำชาติ" ไปถึงทัศนะต่อต้าน "จักรพรรดินิยม" ผู้บังคับขายประชาธิปไตยฝรั่ง (ตัวเองดีนักหรือไง)
ไม่ปฏิเสธเลยครับว่าทุนนิยมตัวปัญหา โลกนี้เข่นฆ่ากันเยอะแล้วเพราะทุนนิยมและต่อต้านทุน แต่รัฐศาสนา รัฐสังคมนิยม "เผด็จการคนดี" ล้วนไม่สามารถทำให้สังคมสงบสุข ให้ผู้คนมีชีวิตที่ดีกว่า มีแต่ตั้งหน้าจำกัดสิทธิเสรี
อุดมคติที่จะทำให้โลกอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขคืออะไร คือความเศร้าเสียใจเมื่อเห็นคนฝรั่งเศสถูกฆ่า ไม่ต่างจากพลเรือนซีเรียถูกระเบิด คือความสะเทือนใจเมื่อเห็นศพทารกลี้ภัยเกยชายหาด เมื่อเห็นเด็กปาเลสไตน์ถูกกระสุนอิสราเอล เมื่อเห็น "โจรใต้" ฆ่าพระ เมื่อเห็นพระพม่าไล่โรฮิงยา เมื่อเห็นพี่น้องมุสลิมตายที่ตากใบ และเมื่อเห็นม็อบไม่ว่าสีไหนถูกฆ่าตาย
อุดมคตินี้ไม่ใช่แค่มนุษยธรรม แต่คือความเชื่อว่า มนุษย์ไม่ว่าเชื้อชาติศาสนาใดต้องมีอิสระจะใช้ชีวิต โดยมีความคิดแตกต่างขัดแย้งกันได้ อย่างมีเสรี และมีศักดิ์ศรี
อุดมคตินี้เรียกว่า "สิทธิมนุษยชน" ซึ่งน่าเสียดาย เพราะมันเติบโตภายใต้ระบอบประชาธิปไตย (ฝรั่ง) เท่านั้น
source :- FB Atukkit Sawangsuk & http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1447955122
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น