0

กลุ่มไอเอสได้เงินมาจากไหน ?
กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) อ้างว่ากลุ่มของตนเป็นผู้ลงมือโจมตีที่กรุงปารีสเมื่อคืนวันศุกร์ (13 พ.ย.) ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 129 รายและบาดเจ็บอีกหลายร้อยราย ว่าแต่ว่ากลุ่มไอเอสได้เงินมาจากไหนสำหรับปฏิบัติการดังกล่าว ?
นักวิเคราะห์หลายฝ่ายเชื่อว่าไอเอสเป็นกลุ่มนักรบที่มีฐานะทางการเงินมั่นคงที่สุด ทางกลุ่มอ้างว่าขณะนี้ได้ปกครองรัฐอิสลามในพื้นที่ที่ยึดครองในอิรักและซีเรีย พื้นที่ดังกล่าวมีขนาดพอกับสหราชอาณาจักร แต่กลุ่มไอเอสได้เงินมาจากไหนในการปกครองรัฐตามที่อ้าง
ผู้สื่อข่าวบีบีซีรายงานว่าช่องทางแรกมาจากเงินบริจาคของผู้บริจาคส่วนบุคคลและองค์กรทางศาสนาอิสลามในประเทศตะวันออกกลาง โดยเฉพาะในช่วงแรก ๆ นั้น เงินบริจาคได้มาจากซาอุดิอาระเบียและกาตาร์ ผู้บริจาคจากประเทศมุสลิมนิกายซุนนีส่งเงินไปให้ไอเอส เพราะต้องการกำจัดประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ซึ่งนับถือนิกายอาลาวียะห์ ซึ่งเป็นนิกายที่แยกออกมาจากชีอะห์ นอกจากเงินสนับสนุนจากผู้บริจาคกลุ่มนี้ ซึ่งใช้เป็นค่าใช้จ่ายและสนับสนุนนักรบต่างชาติ ที่ต้องการเดินทางเข้าไปร่วมรบในซีเรียกับอิรักแล้ว กลุ่มไอเอสเองยังมีรายได้เลี้ยงตัวเองเป็นกอบเป็นกำมาจากช่องทางอื่นด้วย
ช่องทางแรกมาจากแหล่งน้ำมันในพื้นที่ยึดครอง โดยกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประเมินว่า เมื่อปีที่แล้วไอเอสได้เงินมาจากการขายน้ำมันหลายล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อสัปดาห์ หรือทั้งหมดเกือบ 3,600 ล้านบาท โดยเป็นการขายน้ำมันดิบและกลั่นให้กับพ่อค้าคนกลาง ที่ลักลอบนำเข้าไปยังตุรกีและอิหร่าน หรือไม่ก็ขายให้กับรัฐบาลซีเรีย อย่างไรก็ตามคาดว่าการโจมตีทางอากาศที่พุ่งเป้าไปยังโรงกลั่นน้ำมันทำให้รายได้จากช่องทางนี้ลดน้อยลง
รายได้ของไอเอสอีกช่องทางมาจากค่าไถ่ตัวประกัน เช่นเมื่อปีที่แล้ว ไอเอสได้เงินค่าไถ่ตัวประกันไปอย่างน้อยเกือบ 720 ล้านบาท อดีตนักรบไอเอสคนหนึ่งบอกว่า กลุ่มไอเอสมีหน่วยหนึ่งซึ่งทำหน้าที่ในการจับตัวประกันเพื่อเรียกค่าไถ่โดยเฉพาะ ตัวประกันที่ไอเอสต้องการคือผู้สื่อข่าวต่างชาติ ผู้สื่อข่าวกลุ่มนี้จะถูกติดตามทันทีที่เดินทางไปถึงเมืองที่อยู่ใกล้กับพรมแดนซีเรีย การจับตัวประกันเรียกค่าไถ่ยังเป็นการทำสงครามโฆษณาชวนเชื่อที่มีประสิทธิภาพให้กับไอเอสด้วย
รายได้อันดับต่อมา ได้มาจากการโจรกรรม การปล้นสะดมและรีดไถ กระทรวงการคลังสหรัฐฯ รายงานว่าไอเอสได้เงินมาหลายล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือน จากประชาชนหลายล้านคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ยึดครองของไอเอสหรือพื้นที่ที่ถูกยึดครองเพียงบางส่วน เช่น จากผู้ที่ต้องเดินทางผ่านเข้าออกพื้นที่ดังกล่าวเพื่อทำธุรกิจหรือแม้แต่ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ยึดครอง ทั้งนี้เพื่อเป็นค่าคุ้มครองจากจากไอเอส นอกจากนั้นไอเอสยังได้มีรายได้มาจากการปล้นธนาคาร การปล้มสะดมและขายโบราณวัตถุ และการขโมยฝูงสัตว์อีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าไอเอสยังมีรายได้มาจากการเรียกเก็บภาษีชนกลุ่มน้อยที่นับถือศาสนาอื่น โดยเป็นภาษีศาสนาที่เรียกว่าจีซยา ทั้งนี้ในคำประกาศของไอเอสที่แถลงไว้ที่มัสยิดหลายแห่งในเมืองโมซุลเมื่อปีที่แล้ว ไอเอสให้ทางเลือกผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์ไว้ 3 ทาง คือ 1. เปลี่ยนมานับถืออิสลาม 2. จ่ายภาษีจีซยา และ 3. ถ้าไม่ยอมออกจากเมืองโมซุลก็จะถูกฆ่า
รายได้อีกช่องทางของไอเอสมาจากการค้าทาส โดยไอเอสขายเด็กหญิงหรือผู้หญิงที่ถูกลักพาตัวมา เพื่อไปเป็นทาสทางเพศ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตอนที่กลุ่มไอเอสยึดเมืองซินจาร์ ทางเหนือของอิรักไว้ได้ ชนกลุ่มน้อยยาซิดีเผยว่ามีผู้หญิงและเด็กหญิงยาซิดีหลายพันคนถูกจับตัวไปเพื่อเป็นนักโทษและหลายคนถูกขายไปเป็นทาสทางเพศ ฮันนาน หญิงยาซิดีคนหนึ่งเล่าว่า เธอหลบหนีออกมาจากที่คุมขังของไอเอส และบอกบีบีซีว่าเธอพร้อมกับผู้หญิงและเด็กหญิงยาซิดีอีกราว 200 คน ถูกนำตัวไปขายที่ตลาดค้าทาสแห่งหนึ่ง เพื่อนำไปเป็นทาสทางเพศให้กับนักรบไอเอส ‪#‎ISIS‬,‪#‎ParisAttacks‬
ภาพประกอบ (แฟ้มภาพ) ภาพแรก นักรบชาวเคิร์ด เดินผ่านกำแพงที่มีภาพวาดธงของกลุ่มไอเอสในเมืองซินจาร์, ภาพ 2 นายอาบู บาคาร์ อัล บักห์ดาดิ หัวหน้ากลุ่มไอเอส, ภาพ 3 กองกำลังฝ่ายรัฐบาลซีเรียชูธงซีเรีย หลังจากยึดเนินเขาแห่งหนึ่งกลับคืนมาได้จากกลุ่มไอเอส, ภาพ 4 ชนกลุ่มน้อยยาซิดี ที่ค่ายผู้ลี้ภัยในเมืองโรจาวา ซีเรีย



แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 
Top