หัวหน้าหน่วยความมั่นคงชาวเคิร์ดในอิรัก เรียกร้องชาติตะวันตกให้เข้าร่วมรบมากขึ้น
มาสรูร์ บาร์ซานี (Masrour Barzani) หัวหน้าหน่วยความมั่นคงและข่าวกรองของชาวเคิร์ดในอิรัก ได้ให้สัมภาษณ์กับกับจิม มิวเออร์ ผู้สื่อข่าวบีบีซีว่า เขาหวังให้เหตุการณ์โจมตีกรุงปารีสที่มีผู้เสียชีวิตไป 129 คน จะกระตุ้นให้ชาติมหาอำนาจตะวันตกเข้ามาร่วมในการต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) มากขึ้น โดยบอกว่ากลุ่มไอเอสจะต้องพ่ายแพ้ภายในเวลาไม่กี่เดือน หากประชาคมโลกเข้ามาร่วมต่อสู้อย่างเต็มที่
นายบาร์ซานีให้สัมภาษณ์ที่กองบัญชาการใหญ่ใกล้พื้นที่แนวเขตแดนของเมืองซินจาร์ หลังจากที่กองกำลังชาวเคิร์ดได้รุกไล่กลุ่มไอเอสออกไปจากเมืองยุทธศาสตร์แห่งนี้ของอิรัก เขากล่าวว่าแม้กลุ่มไอเอสจะล่าถอยไป แต่ยังไม่ได้เสื่อมกำลังลง และไอเอสยังคงควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของอิรักและซีเรีย "เป็นการยากที่จะบอกว่าไอเอสเสื่อมกำลังลงแล้ว พวกเขาอาจจะเพลี่ยงพล้ำในการต่อสู้ที่โน่นที่นี่ แต่ในการก่อการร้ายนั้นพวกเขามีวิธีการที่แตกต่างไปหลายอย่าง"
บาร์ซานีบอกว่า เขาหวังว่าเหตุการณ์โจมตีปารีสจะเป็นเสียงกระตุ้นเตือนบรรดาชาติมหาอำนาจตะวันตก และคิดว่าไอเอสอาจจะเปลี่ยนยุทธวิธี พวกเขาอาจโจมตีแบบที่ปารีสมากขึ้น ถ้าไม่ถูกกดดันและหยุดยั้งเสียก่อน บาร์ซานีเรียกร้องว่าหากบรรดาชาติตะวันตกไม่อยากส่งทหารมาร่วมรบภาคพื้นดิน ก็ควรต้องให้การสนับสนุนต่อนักรบชาวเคิร์ดที่ต้องรบกับไอเอสทั้งในอิรักและซีเรียมากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่าชาวเคิร์ดลังเลที่จะบุกเข้าไปในเขตแดนที่ไม่คิดว่าเป็นของตัวเอง
ผู้สื่อข่าวบีบีซีรายงานว่ากองกำลังร่วมที่มีสหรัฐฯ เป็นแกนนำ ซึ่งได้ทิ้งระเบิดโจมตีกลุ่มไอเอสในอิรักและซีเรียมานานกว่าปีแล้วนั้น มีปัญหาในการหาพันธมิตรที่เป็นกองกำลังภาคพื้นดิน ในขณะที่รัสเซียซึ่งเป็นพันธมิตรกับประธานาธิบดี บาชาร์ อัล อัสซาด แห่งซีเรีย เพิ่งเปิดฉากโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มติดอาวุธไอเอสในซีเรีย หลังเกิดเหตุโจมตีกรุงปารีสที่กลุ่มไอเอสออกมาประกาศว่าเป็นผู้ก่อเหตุ
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น