0

ผู้จัดการเขียนเรื่องยุบตำแหน่งพนักงานสอบสวน ไว้ตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ. ก่อน พ.ต.ท.จันทร์ไปยื่นหนังสือเสียอีก
สรุปง่ายๆ คือขั้วอำนาจแค่ต้องการเคลียร์เก้าอี้ในการแต่งตั้ง ก็เลยยิงปืนนัดเดียวฆ่านกสองตัว ล้มระบบแยกแท่งพนักงานสอบสวนไปด้วย (เพราะพวกตำรวจใหญ่ไม่ชอบระบบนี้อยู่แล้ว) แต่กลับกลายเป็นเรื่องใหญ่ลุกลาม
"หากดำเนินการแต่งตั้งตามปกติ พนักงานสอบสวนที่อาวุโสเหล่านี้ก็จะขยับออกมาอยู่ในตำแหน่งหลัก ตามกฎ ก.ตร. 33% โดยอัตโนมัติ เมื่อพนักงานสอบสวนเหล่านี้ออกมาอยู่ตำแหน่งหลัก ก็เท่ากับมาปิดหัวตำแหน่งหลักที่ไม่สามารถแต่งตั้งใครได้ในระดับล่างๆลงไป เพราะตำแหน่งหลักไปแทนพนักงานสอบสวนไม่ได้ เท่ากับพนักงานสอบสวนมากินโควตาตำแหน่งหลักจำนวนมาก ทำให้การแต่งตั้งไม่คล่องตัว ไม่ใช่แค่นครบาลเท่านั้นทุกกองบัญชาการทั่งประเทศ มีพนักงานสอบสวนอยู่ในกลุ่มอาวุโส 33%จำนวนมาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงต้องใช้วิธีตัดตำแหน่งพนักงานสอบสวนมารวมกับตำแหน่งหลัก เมื่อแต่งตั้งพนักงานสอบสวนเดิมที่อาวุโสขึ้นแล้ว ในแท่งนั้นก็แต่งตั้งพวกตำแหน่งหลักขึ้นแทนได้"
"ผู้ที่ได้รับประโยชน์จากคำสั่งนี้ไปเต็มๆ ก็คือผู้มีอำนาจในการแต่งตั้ง จะมีเก้าอี้ในการแต่งตั้งเพิ่มขึ้นกว่าเดิม สามารถจับหมุน จับขึ้น จับจ่ายได้อีกจำนวนมาก และยังไม่ต้องกังวลเรื่องที่พนักงานสอบสวนขอแยกตัวออกจากสตช. อีกต่อไป.........
"เมื่อมติเยียวยาตกไปเรียบร้อย บช.ต่างๆ ก็ไม่ต้องจัดสรรให้พวกเยียวยาตามมติ อนุก.ตร. เข้าไปรวมในการแต่งตั้งโยกย้าย รองผบก.-สว.ประจำปี 2558 เหมือนที่เตรียมการเอาไว้ ทำให้เก้าอี้ในการแต่งตั้งของ บช.ใหญ่ ซี่งถือเป็นเก้าอี้”ทองคำ” ทั้ง นครบาล สอบสวนกลาง ภูธรภาค 1 ภูธรภาค 7 เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกับการยำรวมตำแหน่งพนักงานสอบสวน เก้าอี้ระดับเกรดเอว่างๆขนาดนี้ โควตาเพิ่มขึ้นขนาดนี้ คงไม่ต้องบอกว่าใครได้ประโยชน์ เดี๋ยวคำสั่งแต่งตั้ง รองผบก.-สว. ประจำปี 2558 ออกมาก็คงรู้เด็กใคร สายไหน ผงาดทำเลทองกันพรึบพรับ!"

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 
Top