คอมมานโดบุกบ้าน'โกเสง' จับพี่เมีย-สมุนพร้อมอาวุธ
กองปราบล้างบางอิทธิพลเถื่อนเมืองภูเก็ตตามยุทธการ "ไพร่ฟ้าหน้าใส" บุกค้นบ้านโกเสง ล้อมจับพี่เมียพร้อมลูกสมุน ยึดของกลางอาวุธมีดปืนจำนวนมาก
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 20 ก.พ. ที่ สถานีตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต สังกัดกองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ต.ชาติชาย เอี่ยมแสง ผบก.ประจำ บชก.พร้อมดัวย พ.ต.อ.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว พ.ต.ท.สุทธิชัย ไชยรัตน์,พ.ต.ท.พารินท จันทร์เลิศ พ.ต.ท.ชัยฎิภูมิ อำนวยชัย รอง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.ชยเดช ไคยฤทธิ์ พ.ต.ท.ต่อวงศ์ พิทักษ์โกศล สว.กก.5 บก.ป พ.ต.ต.เหมจักร บุนนาค สว.กก.5 บก.ป. ร่วมกันแถลงผลการระดมกวาดล้างกลุ่มผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง ผู้จำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่ จ.ภูเก็ต จำนวน 9 จุด สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหารวมทั้ง 8 ราย โดยมีเป้าหมายที่สำคัญอยู่ที่บ้านเลขที่ 45/3 หมู่ 6 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นบ้านของนายสุรทิน เลี่ยนอุดม (โกเสง)อดีตนายกเทศมนตรีตำบลรัษฎา จ.ภูเก็ต ผู้กว้างขวางใน จ.ภูเก็ต
สำหรับบ้านหลังดังกล่าวเป็นตึกแถว 3 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด โดยเจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธได้ตรึงกำลังไว้ที่บริเวณหน้า ซึ่งระหว่างนั้นได้มี ผู้ต้องสงสัยจำนวน 2 คนทราบ วิ่งหนีออกมาจากบ้านเจ้าหน้าที่จึงได้ล้อมสกัดจับไว้ได้ที่บริเวณด้านหลังของบ้าน ทราบชื่อคือ นายชัยรัตน์ จันทร์ทา อายุ 42 ปี และนายชนินทร์ เพชรคง อายุ 42 ปี ซึ่งทั้งสองให้ปากคำว่ายังมีผู้ต้องสงสัยอยู่ภายในบ้านดังกล่าวอีก 3 ราย พร้อมกับมีอาวุธปืนและยาเสพติด จึงได้ประสานขอกำลังเสริมไปยังหน่วยปฏิบัติการพิเศษ จ.ภูเก็ต พร้อมกับเจรจาเกลี่ยกล่อมให้ออกมามอบตัวแต่ก็ได้รับการปฏิเสธ จึงให้ญาติมาช่วยเจรจาเกลี่ยกล่อม โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ผู้ต้องหาที่อยู่ภายในบ้านจึงยอมออกมามอบตัวเพิ่มอีก 2 รายคือนายภาสกร วุฒิชาญ อายุ 37 ปี และนายบุญหนัก สอนนำ อายุ 60 ปี อดีตข้าราชการตำรวจสืบสวนภูเก็ต เหลือเพียงรายเดียว ซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านเจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังเข้าตรวจค้นพบซุกซ่อนตัวอยู่ในฝ้าเพดานชั้น 1 ของตัวอาคาร ทราบชื่อคือนายจอมพล สิริวันต์ หรือ จ้อน อายุ 53 ปี พร้อมกับทำการตรวจค้นภายในบ้านดังกล่าวพบอาวุธปืนยาวขนาด .22 มม.ติดลำกล้อง 1 กระบอก ปืนพกขนาด .45 มม. 1 กระบอกและเครื่องกระสุนขนาดเดียวกันจำนวน 7 นัด มีดดาบซามูไร 3 เล่ม ยาไอซ์ 10 จี เฮโรอีน 3 จี ยาอี 4 เม็ด กัญชาอัดแท่ง 17.75 กรัม อุปกรณ์การเสพจำนวนหนึ่ง สมุดบัญชีลูกค้ารายรับรายจ่ายซื้อขายยาเสพติดและพนันฟุตบอลต่างประเทศ
จากการสอบสวนนายจอมพล หรือจ้อน ให้การว่า ตนเป็นพี่ชายของภรรยาโกเสง และเป็นคนเฝ้าบ้าน มีหน้าที่คอยช่วยเหลือควบคุมการทำงานของพนักงานขับรถบรรทุกดินของโกเสง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกจับดำเนินคดีในฐานความผิดพยายามฆ่า ถูกจับติดคุกเป็นเวลา 10 ปี ก่อนพ้นโทษออกมาเมื่อปี พ.ศ. 2535 จากนั้นจึงได้เข้ามาช่วยงานโกเสงจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จึงทำการประสานติดต่อไปยังนายสุรทิน หรือ โกเสง มาทำการสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหากลุ่มนี้หรือไม่ เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหานายจอมพล และนายบุญหนัก ในความผิดฐานร่วมกันครอบครองเพื่อจำหน่ายยาเสพติดประเภท 1 และร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ส่วนนายภาสกร นายไชยรัตน์ และนายชนินทร์ ถูกแจ้งข้อกล่าวหา เสพสารเสพติดให้โทษประเภท 1 ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
นอกจากนี้จากการออกปฏิบัติตรวจค้นดังกล่าวเจ้าหน้าที่ยังสามารถจับกุมนายวีระวัฒน์ ถนอมเกียรติ อายุ 48 ปี ที่บ้านเลขที่ 100/5 ต.กระทู้ อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด .45 มม.และเครื่องกระสุนขนาดเดียวกันจำนวน 14 นัดและกระสุนปืนลูกซอง 9 นัด และได้จับกุมนายหน่อย ทองสิน อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตายหมายจับ ข้อหา ข่มขืนกระชำเรา และจับกุมนายสุวัฒน์ ยาหลี อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับร่วมกันลักทรัพย์ผู้อื่น
โดยพ.ต.อ.พันธนะ กล่าวว่า สำหรับปฏิบัติตรวจค้นดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายแผนปฏิบัติการยุทธการไพร่ฟ้าหน้าใส ของ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. ในการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและขบวนการค้ายาเสพติดทั่วประเทศ โดยบูรณการกำเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางร่วมกันปิดล้อมตรวจค้นกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ จ.ภูเก็ต
สำหรับบ้านหลังดังกล่าวเป็นตึกแถว 3 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด โดยเจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธได้ตรึงกำลังไว้ที่บริเวณหน้า ซึ่งระหว่างนั้นได้มี ผู้ต้องสงสัยจำนวน 2 คนทราบ วิ่งหนีออกมาจากบ้านเจ้าหน้าที่จึงได้ล้อมสกัดจับไว้ได้ที่บริเวณด้านหลังของบ้าน ทราบชื่อคือ นายชัยรัตน์ จันทร์ทา อายุ 42 ปี และนายชนินทร์ เพชรคง อายุ 42 ปี ซึ่งทั้งสองให้ปากคำว่ายังมีผู้ต้องสงสัยอยู่ภายในบ้านดังกล่าวอีก 3 ราย พร้อมกับมีอาวุธปืนและยาเสพติด จึงได้ประสานขอกำลังเสริมไปยังหน่วยปฏิบัติการพิเศษ จ.ภูเก็ต พร้อมกับเจรจาเกลี่ยกล่อมให้ออกมามอบตัวแต่ก็ได้รับการปฏิเสธ จึงให้ญาติมาช่วยเจรจาเกลี่ยกล่อม โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ผู้ต้องหาที่อยู่ภายในบ้านจึงยอมออกมามอบตัวเพิ่มอีก 2 รายคือนายภาสกร วุฒิชาญ อายุ 37 ปี และนายบุญหนัก สอนนำ อายุ 60 ปี อดีตข้าราชการตำรวจสืบสวนภูเก็ต เหลือเพียงรายเดียว ซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านเจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังเข้าตรวจค้นพบซุกซ่อนตัวอยู่ในฝ้าเพดานชั้น 1 ของตัวอาคาร ทราบชื่อคือนายจอมพล สิริวันต์ หรือ จ้อน อายุ 53 ปี พร้อมกับทำการตรวจค้นภายในบ้านดังกล่าวพบอาวุธปืนยาวขนาด .22 มม.ติดลำกล้อง 1 กระบอก ปืนพกขนาด .45 มม. 1 กระบอกและเครื่องกระสุนขนาดเดียวกันจำนวน 7 นัด มีดดาบซามูไร 3 เล่ม ยาไอซ์ 10 จี เฮโรอีน 3 จี ยาอี 4 เม็ด กัญชาอัดแท่ง 17.75 กรัม อุปกรณ์การเสพจำนวนหนึ่ง สมุดบัญชีลูกค้ารายรับรายจ่ายซื้อขายยาเสพติดและพนันฟุตบอลต่างประเทศ
จากการสอบสวนนายจอมพล หรือจ้อน ให้การว่า ตนเป็นพี่ชายของภรรยาโกเสง และเป็นคนเฝ้าบ้าน มีหน้าที่คอยช่วยเหลือควบคุมการทำงานของพนักงานขับรถบรรทุกดินของโกเสง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกจับดำเนินคดีในฐานความผิดพยายามฆ่า ถูกจับติดคุกเป็นเวลา 10 ปี ก่อนพ้นโทษออกมาเมื่อปี พ.ศ. 2535 จากนั้นจึงได้เข้ามาช่วยงานโกเสงจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จึงทำการประสานติดต่อไปยังนายสุรทิน หรือ โกเสง มาทำการสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหากลุ่มนี้หรือไม่ เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหานายจอมพล และนายบุญหนัก ในความผิดฐานร่วมกันครอบครองเพื่อจำหน่ายยาเสพติดประเภท 1 และร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ส่วนนายภาสกร นายไชยรัตน์ และนายชนินทร์ ถูกแจ้งข้อกล่าวหา เสพสารเสพติดให้โทษประเภท 1 ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
นอกจากนี้จากการออกปฏิบัติตรวจค้นดังกล่าวเจ้าหน้าที่ยังสามารถจับกุมนายวีระวัฒน์ ถนอมเกียรติ อายุ 48 ปี ที่บ้านเลขที่ 100/5 ต.กระทู้ อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด .45 มม.และเครื่องกระสุนขนาดเดียวกันจำนวน 14 นัดและกระสุนปืนลูกซอง 9 นัด และได้จับกุมนายหน่อย ทองสิน อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตายหมายจับ ข้อหา ข่มขืนกระชำเรา และจับกุมนายสุวัฒน์ ยาหลี อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับร่วมกันลักทรัพย์ผู้อื่น
โดยพ.ต.อ.พันธนะ กล่าวว่า สำหรับปฏิบัติตรวจค้นดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายแผนปฏิบัติการยุทธการไพร่ฟ้าหน้าใส ของ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. ในการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและขบวนการค้ายาเสพติดทั่วประเทศ โดยบูรณการกำเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางร่วมกันปิดล้อมตรวจค้นกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ จ.ภูเก็ต
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น