วิธีแก้ปัญหาคือให้พระโต้วาที? นี่มันอะไรกัน ไม่ใช่ลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญนะ จะได้ให้ดีเบต (ทีรัฐธรรมนูญยังไม่รู้ให้ดีเบตหรือเปล่า)
ดีเบตน่ะไม่ว่า แต่ถามว่าดีเบตแล้วใครตัดสินได้ ดีเบตแล้วรัฐบาลจะตัดสินใจยังไง มันคนละเรื่องกันเลย รัฐบาลมีหน้าที่นำชื่อสังฆราชขึ้นทูลเกล้าฯ ตามมติมหาเถรสมาคม จะทูลเกล้าฯ หรือไม่ทูลเกล้าฯ ก็ต้องชี้แจงแสดงเหตุผล ว่าเพราะอะไร จะอ้างว่าเพราะขัดแย้งอยู่จึงให้ดีเบตกัน แล้วมันจบไหม แล้วที่ขัดแย้งน่ะใคร มหาเถรไม่ขัดแย้ง มีมติเอกฉันท์ทั้งธรรมยุติมหานิกาย มีแต่พุทธอิสระกับพวกพ้อง ที่ไม่รู้อ้างสิทธิอะไร ทำแบบนี้ต่อไปมติมหาเถรจะตั้งสังฆราชองค์ไหน เจ้าอาวาสวัดหนองอีแหนบ วัดหนองตะลุมปุ๊ก วัดทุ่งหมาหลง ฯลฯ ก็ออกมาคัดค้านได้?
การนำชื่อทูลเกล้าฯ ตามมติมหาเถร ไม่เหมือนนำชื่อ ผบ.ตร.ขึ้นทูลเกล้าฯ ตามมติ ก.ตร. ที่นายกฯ เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร มีอำนาจตัดสินใจ ยับยั้ง ทบทวนได้ แต่มหาเถรไม่เหมือนกัน เพราะเป็นเรื่องของ "ประมุขศาสนจักร" รัฐบาลเป็นฝ่าย "อาณาจักร" ที่ทั้งโดยมารยาทโดยอำนาจหน้าที่ไม่ควรก้าวก่าย ควรมีหน้าที่เกือบจะใช่ "บุรุษไปรษณีย์" โดยแท้ ไม่งั้นลองนึกภาพนักการเมืองจากเลือกตั้งดู ถ้านายกฯ จากเลือกตั้งมีอำนาจยับยั้ง ชะลอ เตะถ่วงการทูลเกล้าฯ สังฆราชได้ มิวุ่นวายฉิบหายหรือ
เรื่องนี้ในแง่ขั้นตอน คณะสงฆ์เรียกร้องถูกนะครับ ส่วนใครที่กลัวสมเด็จช่วงเข้าข้างธรรมกาย ก็ไปเรียกร้องให้แก้ พ.ร.บ.สงฆ์ ให้การปกครองสงฆ์เป็นประชาธิปไตย ให้สาธารณชนร่วมตรวจสอบได้ จะให้พระแจกแจงบัญชีทรัพย์สิน ฯลฯ ก็ว่ากันไป ถือโอกาสปฏิรูปศาสนายกใหญ่ รวมทั้งแก้มาตรา 44 ใน พ.ร.บ.สงฆ์ ทีห้ามหมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายสังฆราช จะได้วิจารณ์สมเด็จช่วงได้
ส่วนถ้ารัฐบาลอ้างว่า สมเด็จช่วงมีคดีรถโบราณ DSI ก็ว่าไป และต้องสรุปให้เร็ว แต่ระวังนะ สมเด็จช่วงไม่ใช่ทักษิณ ถ้าพระข้องใจว่ายัดข้อหาเตะสกัดตัดขาละก็ 555 น่าดูชม
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น