การเจรจาสันติภาพซีเรียมีอะไรที่เป็นความหวัง

บีบีซีไทย - BBC Thai

การเจรจาสันติภาพซีเรียมีอะไรที่เป็นความหวัง 

การเจรจาสันติภาพระหว่างรัฐบาลซีเรียและฝ่ายต่อต้าน ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ดำเนินไปเป็นวันที่สอง การที่ทั้งสองฝ่ายหันหน้ามาเจรจาเช่นนี้จะสามารถหวังผลจากการเจรจา ได้มากน้อยแค่ไหน

เจมส์ รอบบินส์ ผู้สื่อข่าวสายการทูตของบีบีซี เขียนบทวิเคราะห์ชิ้นนี้ครับ รอบบินส์บอกว่า การเจรจาสันติภาพมักจะเป็นไปได้ยากลำบากที่สุดในห้วงเวลาที่ไม่มีฝ่ายใดจะชนะหรือแพ้อย่างเด็ดขาด ในกรณีนี้ก็เช่นกันฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายต่อต้านต่างผลัดกันรุกผลัดกันรับ และมีการถล่มกันหนักหน่วงมากขึ้น นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มการโจมตีทางอากาศ เพื่อสนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว

รอบบินส์ เห็นว่า แรงกดดันในการเจรจาสันติภาพเกิดจากรัฐบาลในยุโรปที่กำลังเผชิญความท้าทาย สองประการ ประการแรกคือการต้องรับมือผู้อพยพลี้ภัยจากซีเรียจำนวนมหาศาล และกลายเป็น วิกฤตที่สร้างความแตกแยกกับชี้ให้เห็นความขาดเอกภาพของยุโรป อีกประการหนึ่งก็คือ การลุกลามของกลุ่มก่อการร้ายที่ยึดครองพื้นที่ในซีเรีย อิรักและลิเบีย

ในการเจรจาสันติภาพครั้งนี้รัฐบาลซีเรียมีเป้าหมายชัดเจนคือเพื่อรักษาความอยู่รอดของระบอบปกครองของตนเอง แม้ภายในจะยังคงมีความขัดแย้งเรื่องอนาคตของนายอัสซาดก็ตาม แต่รัฐบาลซีเรียต้องการให้เลือกระหว่างฝ่ายตนหรือฝ่ายศัตรู ในเวลาเดียวกันก็พยายามตีตราฝ่ายตรงข้ามทั้งหมดว่าเป็นผู้ก่อการร้ายไม่ใช่เพียงกลุ่มอิสลามสายแข็งกร้าวเท่านั้น

นักข่าวบีบีซีบอกว่ารัฐบาลซีเรียคงอุ่นใจที่ได้รับการสนับสนุนทางทหารจากรัฐเซีย ขณะที่มหาอำนาจตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับการปราบปรามกลุ่ม ที่เรียกตัวเองว่ารัฐอิสลาม (ไอเอส) มากกว่าการสนับสนุนกลุ่มกบฏต่างๆ ที่มหาอำนาจเหล่านั้นมองว่าเป็นพวก “สายกลาง” สำหรับฝ่ายต่อต้านกลุ่มต่างๆ และชาติที่คอยหนุนหลังนั้นดูจะแตกแยกกันอย่างหนักตั้งแต่ก่อนการเจรจาเพราะต่างฝ่ายต่างต้องการช่วงชิงอำนาจในการเป็นตัวแทนในการเจรจาที่เจนีวา ขณะที่ผู้แทนของสหประชาชาติซึ่งเป็นโต้โผการประชุมอย่างนายสตัฟฟาน เดอ มิสทูรา ที่ไม่ยอมเปิดเผยในช่วงแรกว่าได้เชิญใครมาร่วมเจรจาบ้างนั้น ส่อให้เห็นความเปราะบางของ กระบวนการเจรจาอย่างชัดเจน

รอบบินส์ ยังมองว่าการที่ตุรกียืนยันไม่ให้ตัวแทนชาวเคิร์ดบางกลุ่มเข้าร่วมการเจรจา แม้ว่านักรบชาวเคิร์ดจะประสบความสำเร็จในการต่อสู้กับกลุ่มนักรบมากที่สุดก็ตาม นอกจากนี้การที่ซาอุดีอาระเบียต้องการให้กลุ่มต่อต้านตามรายชื่อที่ตนเสนอเท่านั้นได้เข้าร่วม เจรจา ได้ชี้ชัดถึงอุปสรรคอีกมากมายที่รออยู่ข้างหน้า