พบหลักฐานไวรัสซิกาแพร่จากแ ม่สู่ลูก
ดร.ทอม ฟรายเดน หัวหน้าศูนย์ควบคุมและป้องก ันโรค (ซีดีซี) ของสหรัฐฯ แถลงต่อนักการเมืองในกรุงวอ ชิงตันว่า พบหลักฐานล่าสุดที่บ่งชี้ว่ าไวรัสซิกาสามารถแพร่จากมาร ดาสู่ทารกในครรภ์
ดร.ฟรายเดน ระบุว่า ข้อมูลจากทารก 2 รายในบราซิลที่เสียชีวิตหลั งจากคลอดออกมาได้ไม่นานบ่งช ี้ว่าไวรัสซิกาได้แพร่จากแม ่สู่ลูก และขณะนี้กำลังศึกษาอย่างละ เอียดเพื่อทำความเข้าใจเกี่ ยวกับไวรัสที่มียุงเป็นพาหะชนิดนี้ เพื่อให้สามารถพัฒนาวัคซีนไ ด้ต่อไป แม้ว่าอาจต้องใช้เวลาอีกหลา ยปีก็ตาม
นอกจากนี้ ดร.ฟรายเดน ยังคาดว่า น่าจะมีผู้ติดเชื้อไวรัสซิก าเป็นจำนวนมากในเปอร์โตริโก และดินแดนอื่นๆของสหรัฐฯ ซึ่งซีดีซีจะให้เงินช่วยเหล ือแก่รัฐต่างๆในสหรัฐใช้ในก ารต่อสู้และควบคุมยุง
ด้านองค์การอนามัยโลก ซึ่งเรียกการแพร่ระบาดของไว รัสซิกาว่า “ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขโล ก” ได้ออกคำแนะนำวิธีการป้องกั นไวรัสซิกาแก่สตรีเมื่อวานน ี้ (10 ก.พ.) โดยระบุว่า ผู้ที่อาศัยหรือเพิ่งเดินทา งกลับจากพื้นที่พบการระบาดข องไวรัสซิกาควรใช้ถุงยางอนา มัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ เพราะยังไม่ทราบแน่ชัดว่าไว รัสชนิดนี้สามารถติดต่อกันท างเพศสัมพันธ์หรือไม่ และว่าองค์การอนามัยโลกไม่ไ ด้แนะนำให้จำกัดการเดินทางไ ปยังพื้นที่การระบาด แต่ขอให้สตรีมีครรภ์ หรือผู้ที่วางแผนจะมีบุตรปร ึกษาแพทย์ก่อนเดินทางไปยังพ ื้นที่เหล่านี้
ทั้งนี้ คาดว่ามีทารกในบราซิลกว่า 4,000 รายเกิดมาพร้อมกับภาวะไมโคร เซฟาลี ซึ่งทารกจะมีศีรษะเล็กและพั ฒนาการของสมองผิดปกติแต่กำเ นิด ผู้เชี่ยวชาญสันนิษฐานว่า ความผิดปกตินี้อาจมีสาเหตุม าจากไวรัสซิกาที่ถ่ายทอดจาก แม่สู่ลูก
ดร.ทอม ฟรายเดน หัวหน้าศูนย์ควบคุมและป้องก
ดร.ฟรายเดน ระบุว่า ข้อมูลจากทารก 2 รายในบราซิลที่เสียชีวิตหลั
นอกจากนี้ ดร.ฟรายเดน ยังคาดว่า น่าจะมีผู้ติดเชื้อไวรัสซิก
ด้านองค์การอนามัยโลก ซึ่งเรียกการแพร่ระบาดของไว
ทั้งนี้ คาดว่ามีทารกในบราซิลกว่า 4,000 รายเกิดมาพร้อมกับภาวะไมโคร
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น