พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ ชี้การร่างรัฐธรรมนูญตั้งโจทย์ไว้ผิดพลาด เสนอแก้ไข 8 ประเด็นหลัก

บีบีซีไทย - BBC Thai

พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ ชี้การร่างรัฐธรรมนูญตั้งโจทย์ไว้ผิดพลาด เสนอแก้ไข 8 ประเด็นหลัก

พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์แสดงความไม่เห็นด้วยกับการจัดทำร่างและเนื้อหาของรัฐธรรมนูญใหม่ในหลายประเด็น โดยระบุว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ มาจากการตั้งโจทย์เพื่อแก้ไขปัญหาการเมืองไทยอย่างผิดพลาดมาตั้งแต่ต้น โดยไปมองว่านักการเมืองและพรรคการเมืองคือต้นตอของปัญหา จึงนำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญที่จำกัดบทบาทของพรรคการเมือง แต่เพิ่มอำนาจให้องค์กรอิสระและศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้เจตนารมณ์และความหวังของประชาชนถูกบิดเบือนและทำลายลง ซึ่งจะนำมาสู่ปัญหาและวิกฤติในอนาคต

แถลงการณ์ดังกล่าวเสนอให้แก้ไขประเด็นที่เป็นปัญหาหลัก 8 ประเด็น ได้แก่ 1) วิธีการได้มาซึ่ง ส.ส. ผ่านระบบการเลือกตั้งแบบ “จัดสรรปันส่วนผสม” จะสร้างปัญหาตามมามากมาย ทั้งผลการเลือกตั้งที่ไม่สะท้อนความนิยมของประชาชนต่อพรรคการเมือง และการได้รัฐบาลผสมที่อ่อนแอ 2) ระบบการได้มาซึ่ง ส.ว. มาจากการสรรหาของคนเพียงกลุ่มเดียว แทนที่จะเปิดให้ประชาชนได้เลือกตั้งโดยตรง 3) ที่มาของนายกรัฐมนตรีซึ่งไม่จำเป็นจะต้องเป็น ส.ส. ทำให้มองได้ว่าเป็นการเตรียมแผนรองรับผู้ที่มีอำนาจในปัจจุบัน หรือบุคคลที่ผู้มีอำนาจเตรียมการไว้ให้เข้าดำรงตำแหน่งนายกฯในอนาคต 4) มีการสร้างข้อจำกัดในการบริหารราชการแผ่นดินให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอย่างเข้มงวด จนทำให้กังวลว่าจะมีการใช้ช่องทางดังกล่าวในการล้มรัฐบาลได้โดยง่าย 5) เพิ่มอำนาจให้ศาลรัฐธรรมนูญถอดถอนนักการเมืองได้ และให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญตีความรัฐธรรมนูญได้อย่างกว้างขวาง 6) ให้องค์กรอิสระมีอำนาจเหนือรัฐบาลและรัฐสภา 7) มีการกำหนดให้รัฐธรรมนูญแก้ไขได้ยาก ซึ่งจะก่อให้เกิดวิกฤตของชาติในอนาคต 8) บทเฉพาะกาลของร่างรัฐธรรมนูญกำหนดให้ คสช. และหัวหน้า คสช. ยังคงมีอำนาจหน้าที่ต่อไป ซึ่งรวมถึงอำนาจพิเศษของหัวหน้า คสช. ตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 ด้วย ซึ่งแสดงถึงการไม่ยอมปล่อยวางอำนาจของ คสช. ที่ได้อำนาจมาจากการรัฐประหาร

ด้วยปัญหาต่างๆ ที่ปรากฏในร่างรัฐธรรมนูญตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น พรรคเพื่อไทยจึงขอให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญได้พิจารณาปรับปรุงแก้ไขหลักการและสาระสำคัญในร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นไปตามข้อเสนอของพรรคฯ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างยิ่งต่อไป