0


มูลนิธิผสานวัฒนธรรมเตรียมขอพบอธิบดีกรมราชทัณฑ์ หลังถูกปฏิเสธเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังที่ มทบ. 11 

นายวิทยา สุริยวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ตอบจดหมายมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ปฏิเสธการเข้าพบและเยี่ยมผู้ต้องหาเรือนจำพิเศษ มณฑลทหารบกที่ 11 โดยให้เหตุผลว่า ผู้ต้องขังเป็นผู้ต้องโทษในคดีความผิดที่มีกำหนดโทษสูง ซึ่งเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศ และอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาล อีกทั้งมูลนิธิฯ ไม่มีกิจเกี่ยวข้องหรือรู้จักเป็นญาติมิตรของผู้ต้องขัง ขณะที่ประธานมูลนิธิระบุจะติดต่อขอเข้าพบอธิบดีเพื่อทำความเข้าใจและแสวงหาการทำงานร่วมกัน

นางสาวพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรมกล่าวกับบีบีซีไทยว่าหลังจากถูกปฏิเสธจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ไม่ให้เข้าพบผู้ต้องขังที่เรือนจำพิเศษ มทบ. 11 ว่าทางมูลนิธิกำลังหารือกันเพื่อจะติดต่อขอเข้าพบกับอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เพื่อให้อธิบดีได้ทำความเข้าใจกับการทำงานของมูลนิธิมากขึ้น และเนื่องจากมูลนิธิเองเป็นองค์กรพัฒนาเอกชนที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชนรวมถึงสิทธิผู้ต้องขัง ไม่มีอำนาจในทางกฎหมายใดๆ แต่เชื่อว่าจะสามารถแสวงหาความเข้าใจเพื่อร่วมกันทำงานด้านสิทธิของผู้ต้องขังกับทางกรมราชทัณฑ์ ซึ่งที่ผ่านมาทางมูลนิธิก็ได้ทำกิจกรรมกับทางกรมราชทัณฑ์มาบ้าง รวมถึงในพื้นที่ชายแดนใต้

สำหรับวัตถุประสงค์ในการขอเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังที่เรือนจำพิเศษ มทบ. 11 ก็เนื่องจากมีกรณีที่ผู้ต้องขังเสียชีวิต ทางมูลนิธิจึงต้องการเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังที่เหลือว่ามีสภาพความเป็นอยู่อย่างไร เข้าถึงสิทธิพื้นฐานของผู้ต้องหาหรือไม่ เช่น สิทธิในการพบญาติ สิทธิในการมีทนายความ สิทธิในการได้พบแพทย์เมื่อเจ็บป่วยเป็นต้น

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 17 พ.ย. นายสุรพงษ์ กองจันทึก รักษาการ ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ได้ส่งจดหมายถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เพื่อขอเข้าพบและเยี่ยมเยือนผู้ต้องหาเรือนจำพิเศษ มณฑลทหารบกที่ 11 ทั้งสามเพื่อได้ทราบถึงสภาพความเป็นอยู่ และการได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานต่างๆในฐานะผู้ต้องหาและผู้ต้องขังของบุคคลทั้งสาม เนื่องจากก่อนหน้านี้ พันตำรวจตรี ปรากรม วารุณประภา เสียชีวิตวันที่ 23 ตุลาคม 2558 โดยแถลงการณ์กรมราชทัณฑ์ระบุเหตุจากการผูกคอตนเอง และต่อมาวันที่ 9 พฤศจิกายน 2558 กรมราชทัณฑ์ได้แจ้งข่าวว่านายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ ก็ได้เสียชีวิตลงอีกคนหนึ่งเนื่องจากระบบหายใจไหลเวียนโลหิตล้มเหลว จากการติดเชื้อในกระแสโลหิต เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

สำหรับผู้ต้องขังที่ยังอยู่ในการควบคุมตัวที่ มทบ. 11 ประกอบด้วย นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ หรือ อาท ชัตเตอร์เทพ ผู้ต้องหาคดีความผิดตามมาตรา 112 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งอยู่ในชุดเดียวกับผู้เสียชีวิตทั้งสองรายข้างต้น และผู้ต้องหาคดีระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์อีกสองคน คือนายอาเดม คาราดักและนายไมไรลี ยุซูฟุ

ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ: เหตุการณ์ขณะเจ้าหน้าที่ทำตัวนายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ หนึ่งในผู้ต้องขังที่เรือนจำพิเศษ มทบ. 11 มาฝากขังผัดที่ 2 ที่ศาลทหารเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2558


แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 
Top