อังคณา นีละไพจิตร แถลงเสียใจและผิดหวังกรณีศาลฎีกายกฟ้องคดีทนายสมชาย หายตัว
นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนชุดปัจจุบัน และภรรยาของนายสมชาย นีละไพจิตร อดีตประธานชมรมนักกฎหมายมุสลิม หายตัวไปเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2547 แถลงถึงกรณีที่ศาลฎีกามีคำตัดสินยกฟ้องเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการหายตัวของทนายสมชาย และยกฟ้องคำร้องของครอบครัวที่ร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมในคดีนี้เพื่อยื่นฎีกาหลังจากฝ่ายอัยการตัดสินใจไม่ฎีกาคดีต่อ
“ดิฉันในฐานะครอบครัวรู้สึกเสียใจและผิดหวังอย่างยิ่งต่อกระบวนการยุติธรรมไทย โดยเฉพาะต้นทางของกระบวนการยุติธรรม คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดีในการสืบสวนสอบสวนและหาพยานหลักฐาน ซึ่งศาลฎีกาชี้ว่าหลักฐานที่พนักงานสอบสวนนำส่งศาลไม่มีความน่าเชื่อถือ และไม่มีเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องยืนยันความถูกต้องของพยานหลักฐานที่ส่งศาล”
นางอังคณาระบุว่า ศาลฎีกาได้สร้างบรรทัดฐานใหม่ในสังคมไทย คือการยืนยันว่า ครอบครัวผู้ถูกบังคับสูญหายไม่มีสิทธิในการดำเนินการเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมแทนผู้สูญหายได้ เนื่องจากไม่มีพยานหลักฐานว่าผู้สูญหายได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจนมิอาจดำเนินการได้ด้วยตนเอง
“วันนี้ ณ จุดเดิม ดิฉันขอถามหาความรับผิดชอบต่อกรณีการบังคับสูญหายสมชาย นีละไพจิตร ไปยังรัฐบาลไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และกระบวนการยุติธรรมไทยอีกครั้ง ดิฉันขอเน้นย้ำว่าการบังคับสูญหายเป็นอาชญากรรมต่อมวลมนุษยชนชาติ เป็นอาชญากรรมต่อเนื่องที่ไม่มีอายุความ และเหยื่อและครอบครัวมีสิทธิในการทราบความจริง และความยุติธรรม” นางอังคณาระบุในแถลงการณ์
“วันนี้ ณ จุดเดิม ดิฉันขอถามหาความรับผิดชอบต่อกรณีการบังคับสูญหายสมชาย นีละไพจิตร ไปยังรัฐบาลไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และกระบวนการยุติธรรมไทยอีกครั้ง ดิฉันขอเน้นย้ำว่าการบังคับสูญหายเป็นอาชญากรรมต่อมวลมนุษยชนชาติ เป็นอาชญากรรมต่อเนื่องที่ไม่มีอายุความ และเหยื่อและครอบครัวมีสิทธิในการทราบความจริง และความยุติธรรม” นางอังคณาระบุในแถลงการณ์
ภาพ: นางอังคณาภายหลังฟังคำพิพากษาศาลฎีกา
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น