0
ภาพประกอบ นายฟูมิโอะ คิชิดะ (ซ้าย) และ นายยุน บยองเซ (ขวา)
ญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้บรรลุข้อตกลงครั้งสำคัญในประเด็นหญิงบำเรอยุคสงครามโลกครั้งที่สอง

ญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ได้บรรลุข้อตกลง ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งหลายสิบปี กรณีหญิงบำเรอที่ถูกบังคับให้ทำงานในสถานบำเรอให้กับทหารญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง นับเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองประเทศสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ นับตั้งแต่ปี 2508

โดยในการประชุมที่กรุงโซลในวันนี้ (28 ธ.ค.) นายฟูมิโอะ คิชิดะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นได้กล่าวขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเขาใช้คำว่าเป็นเหตุการณ์ที่นำความเจ็บปวดแสนสาหัสให้กับสตรีที่ต้องทำงานในสถานบำเรอดังกล่าว ญี่ปุ่นยังตกลงตั้งกองทุนมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท เพื่อชดเชยให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว

ด้านนายยุน บยองเซ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้ กล่าวถึงข้อตกลงนี้ว่า ถือเป็นที่สิ้นสุดและจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขอีก นอกจากนั้นทั้งสองฝ่ายยังตกลงที่จะไม่วิพากษ์วิจารณ์กันและกันเกี่ยวกับประเด็นหญิงบำเรอในเวทีโลกด้วย

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวบีบีซีรายงานว่า ยังไม่ชัดเจนว่าผู้ได้รับผลกระทบที่ยังมีชีวิตอยู่จะพอใจในข้อตกลงหรือไม่ ขณะนี้ในเกาหลีใต้ มีผู้ที่เคยเป็นหญิงบำเรอในเหตุดังกล่าวที่ยังมีชีวิตอยู่เพียง 46 รายเท่านั้น แต่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง มีหญิงสาวที่ถูกบังคับให้เป็นหญิงบำเรอมากถึง 200,000 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นหญิงชาวเกาหลีใต้ และบางส่วนมาจากประเทศจีน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และไต้หวัน

ทั้งนี้ในข้อตกลงไม่ได้ระบุโดยชัดเจนว่า อดีตหญิงบำเรอจะได้รับเงินโดยตรง แต่ระบุไว้ว่าเงินนั้นจะ “ช่วยเหลือ” และจะเยียวยาเกียรติ ศักดิ์ศรีและบาดแผลทางจิตใจของบรรดาเหยื่อ ด้านนาง ลี ยองซู อดีตหญิงบำเรอคนหนึ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง บอกบีบีซีว่า พวกเธอไม่ได้ต้องการเงินช่วยเหลือ และถ้าญี่ปุ่นรู้สึกผิดบาปจริง ก็ควรจะให้เงินชดใช้โดยตรงอย่างเป็นทางการมากกว่า

ด้านหญิงบำเรออีกคนระบุว่า พวกเธอถูกละเมิดสิทธิ์ความเป็นมนุษย์ ไม่ว่าจะชดใช้อย่างไร สิ่งที่เสียไปก็ไม่อาจทดแทนได้ แต่ในเมื่อรัฐบาลเกาหลีได้ทำงานอย่างหนัก เพื่อบรรลุข้อตกลงปัญหานี้แล้ว เธอเองก็ขอยอมรับการตัดสินใจของรัฐบาล

เควิน คิม ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำกรุงโซลรายงานว่า ข้อตกลงร่วมกันนี้มีขึ้นไม่กี่วันก่อนขึ้นปีใหม่ จึงดูมีความสำคัญมากในเชิงสัญลักษณ์ และความคาดหวังในผลของข้อตกลงนี้ก็มีสูงตามไปด้วย โดยเมื่อต้นปีนี้ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ได้เรียกร้องให้มีการยุติประเด็นหญิงบำเรอภายในปีนี้ ซึ่งเป็นวาระครบรอบ 50 ปีของความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ บางฝ่ายจึงเชื่อว่าการบรรลุข้อตกลงอย่างเร่งด่วน เป็นเพียงเพื่อการรักษาสัญลักษณ์เท่านั้น โดยยังไม่แน่ชัดว่าการที่ญี่ปุ่นออกมาแสดงความรับผิดชอบนั้นเป็นการชอบด้วยกฎหมาย หรือเป็นการรับผิดชอบด้วยหลักมนุษยธรรม นอกจากนั้นเหยื่อในเหตุการณ์ดังกล่าวได้ออกมาเรียกร้อง ให้มีการขอโทษเหยื่อแต่ละรายอย่างเป็นทางการ และจ่ายเงินชดเชยให้โดยตรง พวกเธอยังชี้ด้วยว่าการขอโทษแบบนี้ยังไม่เพียงพอ

ทั้งนี้ประเด็นหญิงบำเรอช่วงสงครามโลกครั้งที่สองเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของความตึงเครียดในความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ โดยเกาหลีใต้ได้เรียกร้องให้มีการขอโทษและชดเชยที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น แม้ญี่ปุ่นได้เคยขอโทษและยอมรับความผิดในประเด็นทาสทางกามรมณ์ช่วงสงครามมาแล้วหลายครั้ง และไม่ต้องการชดใช้มากกว่าข้อตกลงโดยได้อ้างถึงข้อตกลงเมื่อปี 2508 ระหว่างญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ นอกจากนั้นเมื่อปี 2538 ญี่ปุ่นเคยตั้งกองทุนช่วยเหลือเหยื่อจากเหตุดังกล่าวด้วย แต่กองทุนเมื่อครั้งนั้นมาจากเงินบริจาค ไม่ได้มาจากรัฐบาลญี่ปุ่น




แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 
Top