เตือนโรคหนองในแท้อาจกลายเป็นโรคที่รักษาไม่หาย
เดมแซลลี เดวีส์ แพทย์ใหญ่ของสหราชอาณาจักร ระบุว่า โรคหนองในแท้ อาจกลายเป็นโรคที่รักษาไม่หาย หลังมีการตรวจพบเชื้อดื้อยาปฏิชีวนะเพิ่มขึ้นในอังกฤษ เนื่องจากคนไข้ไม่ได้รับการสั่งจ่ายยาที่เหมาะสม
แพทย์ใหญ่ของสหราชอาณาจักร มีหนังสือเตือนให้แพทย์ทั่วไปและร้านขายยาสั่งจ่ายยารักษาโรคหนองในแท้อย่างถูกต้อง เพราะมีรายงานว่า คนไข้บางรายไม่ได้รับยาปฏิชีวนะที่เหมาะสม 2 ชนิด คือ ยาฉีด ceftriaxone และยาเม็ด azithromycin แต่จากการตรวจสอบพบว่าร้านขายยาออนไลน์บางแห่งสั่งจ่ายยาชนิดเม็ดเพียงอย่างเดียว ส่งผลให้เชื้อเกิดการดื้อยา
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขอนามัยทางเพศ บอกว่า โรคหนองในแท้ มีแนวโน้มดื้อยาปฏิชีวนะมากขึ้น โดยเมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา พบเชื้อหนองในแท้สายพันธุ์ที่มีความดื้อยาสูงในเมืองลีดส์ ซึ่งสามารถต้านทานการรักษาด้วยยา azithromycin ซึ่งตามปกติมักใช้รักษาควบคู่ไปกับยา ceftriaxone
ทั้งนี้ โรคหนองในแท้ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Neisseria gonorrhoea ที่แพร่สู่กันผ่านการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ป้องกันทางช่องคลอด ปาก และทวารหนัก โดยอาการของโรคมีอาทิ มีหนองสีเขียวหรือเหลืองออกจากอวัยวะเพศ มีอาการแสบเวลาปัสสาวะ และมีเลือดออกระหว่างรอบเดือน โดยทั่วไปผู้ป่วยมักไม่แสดงอาการ แต่ก็เป็นโรคที่แพร่ไปสู่ผู้อื่นได้ง่าย และหากไม่ได้รับการรักษาก็อาจทำให้เป็นหมัน เป็นโรคปีกมดลูกอักเสบ ทั้งยังแพร่ไปสู่ทารกในระหว่างตั้งครรภ์ได้
โรคหนองในแท้ ถือเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบมากเป็นอันดับ 2 ในอังกฤษและจำนวนผู้ติดเชื้อกำลังพุ่งสูงขึ้น โดยเมื่อปีก่อนมีผู้ติดเชื้อ 34,958 ราย เพิ่มขึ้น 19% จากปี พ.ศ.2556 ที่มีผู้ติดเชื้อ 29,419 ราย #Gonorrhoea
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น