สหรัฐฯจะให้ความช่วยโคลอมเบียสานต่อกระบวนการสันติภาพกับกลุ่มกบฏ

บีบีซีไทย - BBC Thai

สหรัฐฯจะให้ความช่วยโคลอมเบียสานต่อกระบวนการสันติภาพกับกลุ่มกบฏ

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯเตรียมขอให้รัฐสภาอนุมัติเงิน 450 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยให้โคลอมเบียปฏิบัติตามข้อตกลงสันติภาพกับกลุ่มกบฏฟาร์ก เงินดังกล่าวยังจะใช้ในการสนับสนุนการรื้อถอนกับระเบิด ตลอดจนโครงการเพื่อมนุษยธรรมและปราบปรามยาเสพติดด้วย

มีการประกาศแผนการให้ความช่วยเหลือดังกล่าวซึ่งมีชื่อว่า "สันติภาพโคลัมเบีย" หลังจากที่ประธานาธิบดีโอบามาหารือกับประธานาธิบดีฮวน มานูเอล ซานโตส แห่งโคลอมเบียที่ทำเนียบขาว โดยนายโอบามากล่าวว่าสหรัฐฯจะเป็นหุ้นส่วนของโคลอมเบียในการสร้างสันติภาพ และขณะนี้เป็น “ช่วงเวลาของความหวังอันเหลือเชื่อ” ที่จะยุติความขัดแย้งในโคลอมเบียซึ่งดำเนินมาเป็นเวลานานได้

ด้านนายซานโตสกล่าวว่าเขาคาดว่ารัฐบาลโคลอมเบียจะลงนามในข้อตกลงสันติภาพกับกลุ่มกบฏฟาร์กในเดือนหน้า โดยรัฐบาลและกลุ่มฟาร์กเห็นพ้องกันให้วันที่ 23 มีนาคมเป็นเส้นตายในการบรรลุข้อตกลง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ กลุ่มฟาร์กกล่าวว่า กลุ่มเต็มใจจะวางอาวุธหลังจากที่ความขัดแย้งดำเนินมานานถึงห้าทศวรรษ และจะเข้าร่วมกระบวนการทางการเมืองที่ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป

ประธานาธิบดีโคลอมเบียกล่าวด้วยว่า การดำเนินงานสานต่อสันติภาพหลังจากที่ความขัดแย้งสิ้นสุดลงแล้วนั้นจะยากลำบากกว่าในช่วงกระบวนการสันติภาพเสียอีก เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติลงมติแต่งตั้งตัวแทนให้ไปดูแลกระบวนการจัดการในเรื่องยุติการสู้รบระหว่างสองฝ่ายตามที่พวกเขาร้องขอ มาถึงขั้นตอนนี้นายซานโตสบอกว่า ทุกอย่างเดินหน้าอย่างเดียวไม่มีการหันหลังกลับอีกต่อไป

กลุ่มฟาร์กเองก็ได้ตกลงว่าจะตัดความเกี่ยวข้องทั้งหมดที่มีอยู่กับการค้ายาเสพติด และยอมรับว่าที่ผ่านมาได้เงินจากการค้ายาเสพติด หรือการเก็บส่วยจากเหล่าพ่อค้ายาเสพติดมาสนับสนุนปฏิบัติการ แต่หลังจากนี้จะช่วยรัฐบาลเกลี้ยกล่อมให้ชาวไร่ชาวนาโดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล หันมาปลูกพืชถูกกฎหมายแทน ที่ผ่านมาโคลอมเบียเป็นผู้ผลิตโคเคนรายใหญ่ของโลก

อย่างไรก็ตาม แม้รัฐบาลโคลอมเบียจะบรรลุข้อตกลงสันติภาพกับกลุ่มกบฏฟาร์ก แต่การเจรจากับกลุ่มกบฏกลุ่มใหญ่อันดับสองของประเทศ คืออีแอลเอ็นดูเหมือนจะชะงักงัน แม้อีแอลเอ็นจะมีขนาดเล็กกว่าฟาร์กมาก คือมีนักรบติดอาวุธประมาณ 1,400 คน แต่ก็ได้แสดงให้เห็นว่ายังสามารถสร้างความเสียหายได้ ทั้งด้วยการลักพาตัวพลเรือนการจับตัวทหาร และการสังหารสมาชิกกองกำลังรักษาความมั่นคงในระหว่างการเผชิญหน้ากัน ดังนั้นหากตกลงกับกลุ่มนี้ไม่ได้ โคลอมเบียคงยากจะได้เห็นสันติภาพจริงๆ